ป.ป.ท.เขต 6 รับเรื่องครูร้องเรียนอุตฯพิจิตรปล่อยรง.ข้างบ้านสร้างผลกระทบสิ่งแวดล้อม

ป.ป.ท.เขต 6 รับเรื่องครูร้องเรียนอุตฯพิจิตรปล่อยรง.ข้างบ้านสร้างผลกระทบสิ่งแวดล้อม





ad1

พิจิตร-ป.ป.ท.เขต 6 รับเรื่องครูร้องเรียนอุตสาหกรรมพิจิตรปล่อยโรงงานข้างบ้านสร้างผลกระทบสิ่งแวดล้อม

 
นายสัญชาติ  อุปนันชัย  ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเขต 5 รักษาการแทน ผอ.สนง.ป.ป.ท.เขต 6 มอบหมายให้ ดร.ทวุฒิ  หลวงแก้ว นักวิชาการยุติธรรมชำนาญการ ป.ป.ท.เขต 6 เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียนจาก นายบุญเลิศ  ลี่ประเสริฐ อายุ 65 ปี  อดีตข้าราชการครูโรงเรียนตะพานหิน จ.พิจิตร ซึ่งอยู่บ้านเลขที่ 147 หมู่ 5  ต.ห้วยเกตุ อ.ตะพานหิน จ.พิจิตร ที่ทำเป็นหนังสือพร้อมดด้วยหลักฐานเข้าร้องเรียนว่าบ้านของตนถูกโรงงานที่อยู่ติดรั้วบ้านสร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมโดยมีฝุ่นละอองและเสียงดัง ซึ่งที่ผ่านมาตนเองและเพื่อนบ้านเกือบ 20 ครอบครัวได้เคยรวมตัวกันร้องเรียนไปยังศูนย์ดำรงธรรม-สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรก็หลายครั้ง รวมถึงเมื่อวันที่ 4 ก.พ. 65 นายไพบูลย์  ณะบุตรจอม ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร ก็ลงพื้นที่เผชิญสืบหาข้อเท็จจริงด้วยเช่นกันแต่ปัญหาก็ไม่ได้รับการแก้ไข


  
โดย นายบุญเลิศ  ลี่ประเสริฐ  ผู้ร้องเรียนให้ข้อมูลกับ ป.ป.ท.ภาค 6 ว่า  เมื่อวันที่ 13 ม.ค. 65 อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรก็มีหนังสือมาถึงตนเอง  เรื่อง..ขอคัดค้านการทำประชาพิจารณ์และคัดค้านการสร้างแพล้นปูนของโรงงานที่อยู่ข้างบ้านดังกล่าว โดยในหนังสือตอบระบุชัดเจนว่าโรงงานดังกล่าว “เป็นการตั้งโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต” ซึ่งตรงกับข้อมูลของสื่อมวลชนที่ไปสัมภาษณ์อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรเมื่อวันที่ 22 ก.พ. 65 แต่แล้วจู่ๆ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. 65  ก็มีประกาศของ สนง.อุตสาหกรรมพิจิตร เรื่องการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในการทำประชาพิจารณ์เกี่ยวกับโรงงานจำพวกที่ 2 พวกชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจึงได้ทำเป็นหนังสือคัดค้านและเข้าไปยื่นที่ สนง.อุตสาหกรรมพิจิตร เมื่อวันที่ 9 มี.ค. 65 จากนั้นต่อมาวันที่ 24 มี.ค. 65 อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตรก็ออกประกาศ ว่า เห็นควรออกใบรับแจ้งการประกอบกิจการโรงงานจำพวก2ให้กับโรงงานที่สร้างผลกระทบให้กับตนเองและเพื่อนบ้าน โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านและอำนวยความสะดวกให้กับโรงงานที่ก่อนหน้านี้อุตสาหกรรมจังหวัดพิจิตร บอกว่า เป็นโรงงานที่ไม่มีใบอนุญาตมาตั้งแต่ปี 2562 ตนเองจึงมองว่าพฤติกรรมหรือการกระทำดังกล่าวไม่ชอบมาพากล 
 
จึงได้มาร้องเรียนยัง ป.ป.ท.เขต 6 ให้ดำเนินการตรวจสอบหาข้อเท็จจริง โดยอาศัยอำนาจตาม พรบ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ. ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ว่ามีการกระทำที่ฝ่าฝืนกฎหมายที่เกี่ยวข้อง  เช่น พ.ร.บ.ผังเมือง , พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร, พ.ร.บ.โรงงาน , พ.ร.บ. ส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ  รวมทั้งการดำเนินการ ของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ว่าได้มีการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่หรือไม่ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนที่มีต่อประชาชนในพื้นที่
 
ในส่วนของ ดร.ทวุฒิ  หลวงแก้ว นักวิชาการยุติธรรมชำนาญการ ป.ป.ท.เขต 6 เป็นผู้รับเรื่องร้องเรียน ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า... วันนี้เป็นเพียงการรับเรื่องร้องเรียนเพื่อเข้าสู่ขบวนการไต่สวน สืบสวน สอบสวน เพื่อหาข้อเท็จจริง  ดังนั้นวันนี้จึงยังไม่ระบุหรือชี้ชัดว่าเจ้าพนักงานของรัฐกระทำผิดแต่อย่างใด แต่เชื่อมั่นว่าขบวนการสืบสวนหาข้อเท็จจริงของ ป.ป.ท.เขต 6 นั้นยึดความสุจริตและระเบียบกฎหมาย เป็นที่ตั้ง หากเจ้าพนักงานของรัฐมองเห็นประโยชน์ของชาวบ้านเป็นที่ตั้งมีเจตนาสุจริตก็จะรอดปลอดภัย ซึ่งเรื่องร้องเรียนดังกล่าวนี้คงต้องขอเวลาทำงานสักระยะหนึ่งก็จะทราบความจริง ซึ่งถ้ามีความคืบหน้าจะได้รายงานให้สังคมและสื่อมวลชนได้รับรู้รับทราบต่อไป


ทีมข่าวภูมิภาค จ.พิจิตร