กอ.รมน.ภาค 4 สน. ชี้แจงเหตุ อส.ทพ. ยิงปืนหน้าสถานบันเทิงยะลาทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย

กอ.รมน.ภาค 4 สน. ชี้แจงเหตุ อส.ทพ. ยิงปืนหน้าสถานบันเทิงยะลาทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย





ad1

ยะลา-กอ.รมน.ภาค 4 สน. ชี้แจงเหตุ อส.ทพ. ยิงปืนหน้าสถานบันเทิงในตัวเมืองยะลาทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย พร้อมนับผิดชอบด้านมนุษยธรรมและไม่แซกแซงในการดำเนินคดีกำลังพลที่ก่อเหตุ

 วันนี้(12สค.65)ตามที่ได้เกิดเหตุอาสาสมัครทหารพรานยิงปืนหน้าสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเขตตัวเมือง จังหวัดยะลา ทำให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 2 ราย และได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ ทราบชื่อคือ อาสาสมัครทหารพราน หัสชัยชาญ ทุ่มนุ่ม สังกัดกรมทหารพรานที่ 49 โดยพฤติกรรมการก่อเหตุทราบว่า อาสาสมัครทหารพรานนายดังกล่าวเข้าไปใช้บริการในสถานบันเทิง ต่อมามีอาการมึนเมาจนขาดสติ และได้เดินออกมาที่รถยนต์ส่วนตัวซึ่งจอดอยู่บริเวณด้านหน้า นำอาวุธปืน AK 47 ออกมายิงกราดไปหลายนัด ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว

ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กอ.รมน.ภาค 4 สน. ขอแสดงความเสียใจกับญาติและครอบครัวของผู้เสียชีวิต รวมทั้งผู้ได้รับบาดเจ็บจากการกระทำของกำลังพล ถึงว่าแม้เรื่องดังกล่าว จะเป็นการกระทำส่วนบุคคลก็ตาม แต่ในฐานะของหน่วยบังคับบัญชา จะได้เข้าไปช่วยเหลือดูแลตามหลักมนุษยธรรม แก่ผู้ได้รับบาดเจ็บและญาติของผู้เสียชีวิต ตามความเหมาะสมต่อไป สำหรับการดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด เจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินการตามกฎหมาย โดย กอ.รมน.ภาค 4 สน. จะไม่เข้าไปแทรกแซงหรือชี้นำแต่อย่างใด  รวมทั้งจะดำเนินการแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวน เพื่อลงทัณฑ์ทางวินัยกับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ทั้งหมด รวมไปถึงผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นจำนวน 2 ระดับ หากพบว่ามีความผิด หรือบกพร่อง จะดำเนินการลงทัณฑ์ทางวินัยตามความเหมาะสม  ส่วนผู้ก่อเหตุปัจจุบันอยู่ในระหว่างดำเนินกรรมวิธี เพื่อปลดออกจากการเป็นอาสาสมัครทหารพราน

 ทั้งนี้ เพื่อเป็นมาตรการควบคุมบังคับบัญชาและกำชับหน่วยในพื้นที่  กอ.รมน.ภาค 4 สน. ได้ออกวิทยุสั่งการเน้นย้ำ ให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้น กวดขัน กำกับดูแลการปฏิบัติของกำลังพลในทุกระดับ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีแนวทางในการปฏิบัติอยู่แล้ว เช่น เรื่องการรักษาวินัย การดื่มสุรา การทะเลาะวิวาท การพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร เป็นต้น หากมีการฝ่าฝืนหรือมีเหตุการณ์ซ้ำเดิมขึ้นอีก จะมีมาตรการลงทัณฑ์สถานหนักทั้งผู้กระทำความผิด ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง และผู้บังคับบัญชา ของกำลังพลนั้น ๆ ส่วนอาวุธที่นำมาก่อเหตุซึ่งเป็นการนำออกมาจากที่ตั้งหน่วยโดยไม่ได้รับอนุญาต ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยต้นสังกัดเร่งดำเนินการสอบสวนเพื่อเอาผิดทางวินัยและอาญา ต่อไป

ล่าสุด ทาง  พล.ต.ท.นันทเดช ย้อยนวล ผบช.ภ.9 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา และ พ.ต.อ.ตรัยฤกษ์ ปัญญาไตรรัตน์ ผกก.สภ.เมืองยะลา ได้ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ

 ด้านพล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผบก.ภ.จว.ยะลา เผยว่า สำหรับความคืบหน้าของทหารพราน มีอาการมึนเมา กร่าง สติแตก ใช้อาวุธปืนสงครามอาก้า AK-47 ของทางราชการทหาร กราดยิงทั่วบริเวณด้านหน้าสถานบันเทิงนาซ่า ใจกลางเมืองยะลา เมื่อกลางดึกที่ผ่านมานั้น จากการตรวจสอบใบอนุญาตทางสถานบริการแห่งนี้ได้รับใบอนุญาตถูกต้อง ประเภทมาตรา 3(1) สามารถปิดไปถึงตี 02.00 น. ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นช่วงประมาณ เที่ยงคืนเศษๆ เพราะฉะนั้นทุกสิ่งทุกอย่างตาม พ.ร.บ.สถานบริการ ท่านนายอำเภอ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ได้เข้ามาตรวจอย่างละเอียด ทุกสิ่งทุกอย่างก็ถูกต้องข้อกฎหมายและทางสถานบันเทิงแห่งนี้ ก็ได้ทำทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางหนีไฟ หรือเรื่องอะไรต่างๆที่เกี่ยวข้องตามข้อกฎหมายที่ต้องบัญญัติไว้ ทางสถานบริการก็ทำมาอย่างถูกต้อง

 และมีการตรวจตรากับฝ่ายปกครองมาโดยตลอด เช่นกัน ส่วนการท่องเที่ยวราตรี ที่มีเหตุใช้อาวุธปืน ช่วงเที่ยงคืนเศษๆ เพราะฉะนั้นก็อยู่ในหวงใบอนุญาตที่ได้อนุญาตให้ได้อยู่แล้ว และเป็นเหตุที่เกิดขึ้นข้างนอกร้านไม่ได้เกิดข้างในร้าน ปกติเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายจะมีการมาตรการเข้มงวดอยู่แล้ว ในเรื่องของการตรวจไม่ให้เอาอาวุธปืน ของมีคม เข้าไปอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นฝ่ายเจ้าหน้าที่ในทุกๆส่วน ที่มีอาวุธหรืออะไรที่มีความล่อแหลมส่วนใหญ่ก็จะเก็บในรถยนต์ของตัวเอง ก็ถ้าผิดกฎหมายก็ว่ากันผิดไปตามกฎหมายในส่วนของอาวุธต่างๆ พอรับแจ้งเหตุก็สามารถสืบสวนและไล่ติดตามจนกระทั่งจับกุมผู้กระทำความผิดอย่างรวดเร็ว อันนี้ก็ถือว่ารวดเร็ว

ผบก.ภ.จว.ยะลา ยังกล่าวอีกว่า ตนเองและผู้ที่เกี่ยวข้องก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสียอย่างสุดซึ้ง อย่างไรก็ตามทั้งหมดก็จะดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมายและดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่ครั้งนี้ก็ต้องยอมรับว่าผู้ก่อเหตุมีอาการมึนเมามาก่อนแล้ว และเข้ามาเที่ยวต่อและมีการทะเลาะวิวาทข้างในร้าน แหละออกมาหยิบอาวุธปืนของตัวเอง มายิงจนเกิดการสูญเสียในครั้งนี้ สำหรับกรณีดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาฆ่าโดยเจตนาอยู่แล้วและพาอาวุธพาในเมือง-หมู่บ้านตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งไปทั้งหมดแล้ว  และที่สำคัญทางผู้บังคับบัญชาสั่งให้ดำเนินคดีตามกฏหมาย ไม่ได้มีการช่วยเหลือใดๆทั้งสิ้น ว่าไปตามข้อกฎหมายทุกอย่าง

 ทางด้านนายอุปถัมภ์ ศิริไชย เจ้าของสถานบันเทิงนาซ่า  กล่าวว่า ส่วนใหญ่เจ้าหน้าที่ที่ออกมาท่องเที่ยวราตรี เขามักจะไม่ค่อยฝากอาวุธปืนกัน เขามักจะเก็บไว้ในรถยนต์ส่วนตัว เพื่อความปลอดภัยของเขามากกว่า แต่เหตุการณ์ที่เกิดนี้ มองว่าน่าจะเป็นเหตุสุดวิสัย เนื่องจากผู้ใช้อาวุธปืน น่าจะขาดสติมากกว่า จนเป็นเหตุที่เกิดขึ้นแบบนี้ ทางร้านก็ต้องเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่มันเกิดขึ้นช่วงบริเวณใกล้ๆกับร้านตรงนี้ขึ้นมา แล้วทั้ง 2 คน เป็นลูกค้าที่เสียชีวิตก็เป็นลูกค้าทางร้านอีกด้วย อีกคนนึงก็เป็นเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลความปลอดภัยให้กับทางร้านอีกด้วย (CQ) ปกติร้านของตนก็จะมีการตรวจอาวุธปืน หรือของมีคม ก่อนเข้ามาภายในร้านตลอดอยู่แล้ว เพราะว่าด้วยทางกฎหมายเขาห้ามพกพาอาวุธปืนเข้ามาข้างในร้าน ถ้ามีอาวุธปืนเขาก็จะฝากหรือเก็บไว้ในรถยนต์ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วเขาเลือกที่จะเก็บในรถยนต์ของตัวเองมากกว่า เพื่อความปลอดภัยของเขาเองด้วย สำหรับการ์ดเป็นเจ้าหน้าที่ของร้าน ทางร้านพร้อมจะดูแลอยู่แล้ว ในเบื้องต้นที่คุยไปแล้วนั้น ก็จะดูแลในเรื่องของการบำเพ็ญกุศลก่อน และก็จะค่อยสืบเนื่องต่อไป เจ้าหน้าที่ของร้านไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้นตนเองยินดีที่จะช่วยเหลืออยู่แล้ว