ทูตสหรัฐฯ ชื่นชมเลขาธิการ ศอ.บต.เปิดพื้นที่รับฟังเสียงชาวบ้าน-ไม่ทอดทิ้งปชช. ชายแดนใต้

ทูตสหรัฐฯ ชื่นชมเลขาธิการ ศอ.บต.เปิดพื้นที่รับฟังเสียงชาวบ้าน-ไม่ทอดทิ้งปชช. ชายแดนใต้





ad1

เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ชื่นชมเลขาธิการ ศอ.บต.   ที่เปิดพื้นที่รับฟังเสียงชาวบ้าน และไม่ทอดทิ้ง ปชช. ให้โดดเดี่ยว

วันนี้ (30 มีนาคม 2566) พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พร้อมด้วยผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. และเจ้าหน้าที่  ที่เกี่ยวข้อง ให้การต้อนรับนายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำ ประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ พร้อมคณะฯ ในโอกาสเดินทางลงพื้นที่เพื่อหารือเกี่ยวกับการส่งเสริมความร่วมมือกับหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การศึกษา เศรษฐกิจ  แนวทางการพัฒนาชุมชน การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ณ ห้องรับรอง ชั้น 3 ศอ.บต.

พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ กล่าวว่า ในนามรัฐบาลไทยขอบคุณถึงความจริงใจที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาตั้งใจช่วยเหลือและพัฒนา โดยเฉพาะมิติด้านการศึกษาและการพัฒนาอาชีพซึ่งอยู่ภายใต้โครงการ Together และ Enhance โดยองค์กร USAID ที่ถือเป็นหนทางสำคัญที่จะช่วยในการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน ในพื้นที่ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการที่จะข้ามผ่านความไม่เข้าใจกันและความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน เชื่อว่าการพัฒนาการศึกษา การพัฒนาคน และการพัฒนาสภาพเศรษฐกิจขณะนี้ทุกภาคส่วนกำลังเดินหน้าอย่างเต็มที่ในการเติมเต็ม เพราะเชื่อว่าสิ่งที่ภาครัฐกำลังดำเนินการอยู่นั้นจะเป็นกลไกสำคัญ ที่จะข้ามผ่านอุปสรรคเหล่านี้ไปได้อย่างแน่นอน

นายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวด้วยว่าในส่วนของความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศไทยได้มีการร่วมมือกันมานานกว่า 190 ปี ซึ่งการเดินทางมาเยือนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้ถือเป็นการยกระดับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นตลอดจนความมือในการขับเคลื่อนและดำเนินโครงการต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ได้รับการยกระดับคุณภาพชีวิต   เทียมเท่ากับประชาชนในภูมิภาคอื่นๆ

เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย กล่าวชื่นชมเลขาธิการ ศอ.บต. ที่ทำหน้าที่ในนามรัฐบาลไทยรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกว่ารัฐบาลไม่เคยทอดทิ้งให้โดดเดี่ยวและกล้าที่จะมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นต่าง ๆ ต่อหน่วยงานรัฐบาล ซึ่งหากทุกอย่างเดินหน้าต่อไปอย่างต่อเนื่อง เชื่อว่าพื้นที่จะพบกับความสันติสุขอย่างแท้จริง