อีสานร้อนระอุอาหารเป็นพิษป่วยโรคอุจจาระร่วงพุ่งแนะกิน“สุก ร้อน สะอาด”

อีสานร้อนระอุอาหารเป็นพิษป่วยโรคอุจจาระร่วงพุ่งแนะกิน“สุก ร้อน สะอาด”





ad1

นครราชสีมา –ควบคุมโรคที่ 9 เผย สภาพอากาศร้อน พบ ปชช. ในเขตสุขภาพที่ 9  ป่วยโรคอุจจาระร่วง และอาหารเป็นพิษในปีนี้กว่า 1,800 ราย  กำชับ ปชช.และนักท่องเที่ยว รับประทานอาหาร “สุก ร้อน สะอาด”

นายแพทย์ทวีชัย วิษณุโยธิน ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 นครราชสีมา เปิดเผยว่า “สภาพอากาศร้อนจัดในช่วงนี้ อาจทำให้อาหารบูดเสียได้ง่าย โดยเฉพาะอาหารที่ปรุงไว้ล่วงหน้าเป็นเวลานานและปริมาณมาก เช่น กับข้าวที่วางขายในตลาดต่างๆ , ข้าวกล่องที่เตรียมไว้บริการผู้เข้าร่วมการประชุมสัมมนาต่างๆ รวมทั้ง อาหารกลางวันของเด็กนักเรียน  ซึ่งหากอาหารบูดเสีย มีเชื้อโรคปนเปื้อน เมื่อรับประทานเข้าไปจะทำให้มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง ถ่ายอุจจาระเหลวเป็นน้ำหรือมีมูกเลือด ร่วมกับอาการอื่นๆ เช่น ปวดศีรษะ คอแห้งกระหายน้ำ และอาจมีไข้ได้  นอกจากนี้ ผู้ป่วยสามารถจะแพร่เชื้อไปสู่ผู้อื่นผ่านทางอุจจาระและอาเจียน

ซึ่งสถานการณ์โรคอาหารเป็นพิษในประเทศไทย ในห้วงตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2567 ถึง 14 กุมภาพันธ์ 2567 พบผู้ป่วยโรคอาหารเป็นพิษ มากถึง 13,975 ราย ยังไม่มีผู้เสียชีวิต โดยพบมากที่สุด 3 อันดับแรก คือ กลุ่มอายุ 0-4 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 5-9 ปี และกลุ่มอายุ 70 ปีขึ้นไป ตามลำดับ  ส่วนสถานการณ์โรคอาหารเป็นพิษในเขตสุขภาพที่ 9 ตั้งแต่วันที่ 7 มกราคม 2567 ถึง 10 กุมภาพันธ์ 2567 พบผู้ป่วย จำนวน 1,803 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิต เมื่อแยกเป็นรายจังหวัด พบว่า จังหวัดสุรินทร์ มีผู้ป่วยมากสุด 850 ราย รองลงมาคือ จังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้ป่วย 409 ราย , จังหวัดนครราชสีมา มีผู้ป่วย 402 ราย และจังหวัดชัยภูมิ มีผู้ป่วย 142 ราย  ซึ่งกลุ่มอายุที่พบสูงสุดคือ กลุ่มอายุ 0-4 ปี รองลงมาคือ กลุ่มอายุ 5-9 ปี และกลุ่มอายุ 10-14 ปี ตามลำดับ

ดังนั้น ประชาชนควรป้องกันตนเองจากโรคอาหารเป็นพิษ แนะนำให้ยึดหลัก “สุก ร้อน สะอาด” โดยขอให้รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ หากเป็นอาหารค้างมื้อ ควรนำมาอุ่นร้อนให้ทั่วถึงก่อนรับประทาน  ให้ดื่มน้ำและน้ำแข็งที่สะอาดมีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานการผลิตสะอาด และล้างวัตถุดิบให้สะอาดก่อนนำมาปรุงประกอบอาหาร  รวมทั้ง ล้างมือด้วยสบู่และน้ำให้สะอาดทุกครั้งหลังเข้าห้องน้ำหรือสัมผัสสิ่งสกปรก เพื่อลดความเสี่ยงของการปนเปื้อนเชื้อโรค นอกจากนี้ ให้หลีกเลี่ยงอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ และหากอาหารมีรูป รส กลิ่น สี ที่ผิดปกติ ไม่ควรนำมารับประทาน ส่วนข้าวกล่องและอาหารที่เตรียมสำหรับคนหมู่มาก ผู้ปรุงอาหารควรแยกกับข้าวบรรจุใส่ถุงต่างหาก ไม่ควรตักราดข้าว  ในขณะที่อาหารบุพเฟ่ต์สำหรับงานเลี้ยง-งานประชุม ไม่ควรเตรียมไว้ข้ามมื้อ  และที่สำคัญ อาหารที่ปรุงไว้นานเกิน 2 ชั่วโมง ต้องนำมาอุ่นร้อนให้ทั่วถึงก่อนรับประทานทุกครั้ง  

สำหรับผู้ที่ได้รับเชื้อ มีอาการป่วยโรคอาหารเป็นพิษ ควรให้จิบสารละลายเกลือแร่ โอ อาร์ เอส บ่อยๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ หากอาการไม่ดีขึ้นให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว หากมีข้อสงสัยสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร. 1422

โดย...ประสิทธิ์  ตั้งประเสริฐ / นครราชสีมา