ได้ฤกษ์ชิมลางตลาด “ทุเรียนมูซังคิง-โอชี หนามดำ” เนื้อแน่น สีสวย ชวนชิมของดีเมืองยะลา


ช่วงเดือนมิถุนายน-ต้นเดือนสิงหาคม จังหวัดชายแดนใต้ แถบยะลา และนราธิวาส จะได้ชิมทุเรียนมูซังคิง หรือ “เหมาซาน” หนึ่งสายพันธ์สุดยอดของทุเรียนใต้ยุคนี้ ที่มีต้นกำเนิดอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งเป็นทุเรียนสายพันธุ์พื้นเมืองที่ปลูกกันมายาวนาน แต่เมืองไทยเพิ่งนิยมนำมาปลูกกันแถวชายแดนใต้อย่างจริงจังเพียงไม่กี่ปีที่ผ่านมา
ด้วยความที่สภาพภูมิอากาศ ทางใต้จะลักษณะคล้ายคลึงกับมาเลย์ ทำให้ปลูกขึ้นง่าย ตั้งแต่อ.เมือง อ.เบตง อ.บานังสตา อ.ธารโต ชาวสวนปลูกกันมากมาย เนื่องจากมีสภาพอากาศร้อนชื้น มีฝนตกลงมาตลอดทั้งปี ดินจะร่วนมีความชุ่มชื่น บางแห่งเป็นดินภูเขา สามารถปลูกตามไหล่เขาก็ได้ หากมีการปรับพื้นให้ถ่ายเทน้ำได้ดี
ลักษณะพิเศษของ “ทุเรียนมูซังคิง” คือ มีเนื้อสีเหลืองเข้มละเอียด รสชาติหวานเข้มข้น แบบไม่มีเสี้ยน แถมยังมีรสขมแทรก ส่งกลิ่นหอมชวนน่ารับประทาน รูปลักษณ์ลูกทุเรียนจะออกสีเขียวอ่อนๆอมเหลืองนิด ก้านยาว ลูกเรียวๆ หนามทุเรียนยาวตรง ปัจจุบันตลาดสิงคโปร์และมาเลย์ มีพ่อค้านิยมขายกันมาก ช่วยหลังๆมานี้ ชาวสวนทุเรียนแถบยะลา นราธิวาสนิยมปลูกกันมาก ส่งผลให้ปีนี้มีผลิตออกสู่ตลาดกันเป็นจำนวนมาก
แม่ค้าขายทุเรียน มูซังคิง ร้านกะยะห์บุดี เล่าว่าปีนี้ทุเรียนจะออกเร็ว เนื่องจากมีฝนตกลงมาต่อเนื่อง ซึ่งเดือนมิถุนายนเริ่มมีวางขายในตลาดเมืองใหม่ ยะลา หาซื้อได้ แต่เชื่อว่าราวเดือนกรกฎาคมนี้ จะเป็นช่วงที่แต่ละสวนตัดทุเรียนขายกันอย่างเต็มที่ ราคาทุเรียนตอนนี้ 200 บาทต่อกิโล บางแห่งยังขายกันกิโลกรัมละ 250 บาท แต่ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับความสวยงามของแต่ละลูก ถ้าเกรดๆดีจะแพง ซึ่งเดือนหน้านี้ถ้าออกมาขายกันเยอะราคาตกลงมาระดับหนึ่ง
“ปกติทุเรียนมูซังคิง จะปลูกกันเยอะแถวยะลาและนรา ปีนี้ลูกค้าสามารถเลือกซื้อกันอย่างเต็มที่ ช่วงแรกๆอาจราคาสูงนิดหนึ่ง ซึ่งกลุ่มลูกค้าทั่วไป เขาจะชอบทานมูซังคิม เนื่องจากเนื้อทุเรียนอร่อย สีเหลือง กลิ่นหอม ต่างจากสายพันธุ์อื่น ซึ่งก่อนหน้านี้ส่วนใหญ่มาจากมาเลย์ เป็นทุเรียนพื้นเมือง แต่คนไทยชอบทานกันมาก จึงบอกต่อกันแบบปากต่อปาก นอกจากนี้ ยังมีทุเรียนโอชี หนามดำ กำลังมาแรง ลักษณะลูกจะออกป้อมๆ กลมๆ หนามสั้นๆ เนื้อสีเหลืองทอง ราคาขายใกล้เคียงกับทุเรียนมูซังคิง” แม่ค้าทุเรียนกล่าว
ส่วนลูกค้าที่นิยมซื้อกันมาก มีทั้งคนไทย มาเลย์ และสิงคโปร์ เพราะว่าราคายังไม่แพงมากเมื่อเทียบกับทุเรียนที่ขายกันในแต่ละประเทศ นอกจากนี้ ยังเป็นที่ต้องการลูกค้าในกรุงทพฯ ที่ชอบทานทุเรียนใต้ แต่ที่ยะลาราคาทุเรียนยังไม่สูงมาก ถ้าเทียบจากแหล่งอื่นๆ ตอนนี้เพิ่งอยู่ในช่วงเริ่มออกสู่ตลาด ยังมีขายกันไม่มากนัก ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับผู้บริโภคจะชอบทานทุเรียนแบบไหน บางคนชอบทานหมอนทอง ที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ เนื่องจากเนื้อเยื่อเยอะ แน่น กลิ่นหอมลูกโต หรือบางคนชอบทุเรียนก้านยาว จะมีรสชาติความอร่อยต่างกัน แต่ที่ทางใต้ยังมีทุเรียนแต่ละถิ่นรสชาติจะต่างกัน