ทับลาน ระดมกำลังจนท.เพิ่ม พร้อมด้วยโดรนผลักดันโขลงช้างคืนสู่ผืนป่ามรดกโลก


ปราจีนบุรี-อุทยานฯทับลาน ระดมกำลังเจ้าหน้าที่เพิ่ม พร้อมด้วยอากาศไร้คนขับ (โดรน) 4 ลำ ผลักดันช้างป่ากลับสู่ผืนป่ามรดกโลกอย่างต่อเนื่องแจงเหตุช้างได้แตกโขลงประมาณ 5 ตัว หลุดออกจากแนวเฝ้าระวังเข้าไปบริเวณวัดวังทองวนาราม และได้รื้อเพิงพักคนงานในสวนป่ายูคาลิปตัส โดยคาดการณ์ว่าช้างป่าอาจได้กลิ่นเครื่องปรุงรส จึงทำการรื้อเพื่อค้นหาและรื้อทำลายบริเวณถังขยะ หัวหน้าอุทยานได้สั่งการเจ้าหน้าที่จัดชุดกำลังเข้าเฝ้าระวังประจำบ้านเรือนราษฎร ที่อยู่ด้านในแนวเฝ้าระวังเพื่อให้ความปลอดภัยและความอุ่นใจให้แก่ราษฎร
เมื่อวันที่ 11 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี สถานการณ์ความคืบหน้าจากกรณีโขลงช้างป่าอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลกออปนอกผืนป่า มีโขลงช้างป่าทับลานแม่ลูกอ่อน 5 ตัวยกพลบุกพังเพิงพักคนงานกลางดึกเละ รื้อเสบียงหาอาหารในตู้เย็น-ตู้กับข้าวเสียหายและบางโขลงได้บุกเข้าโรงเรียนและยังบุกเข้าโครงการอนุรักษ์ และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้เขื่อนห้วยสโมง หมู่ 3 บ้านวังไอ้ป่อง ต.แก่งดินสอ อ.นาดี นับเป็นวันที่ 6 ที่ออกจากทับลานหากินนอกพื้นที่ตามที่ได้นำเสนอรายละเอียดแล้วก่อนนี้ นั้น
นายประวัติศาสตร์ จันทร์เทพ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลาน ได้รายงานสรุปสถานการณ์ระบุว่า สืบเนื่องจากคืนวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ขณะผลักดันช้างป่าประมาณ 35 ตัว ซึ่งออกมาในพื้นที่ชุมชน หมู่ 3 บ้านวังไอ้ป่อง ต.แก่งดินสอ เมื่อเจ้าหน้าที่ทำการผลักดัน จึงทราบภายหลังว่าช้างได้แตกโขลงประมาณ 5 ตัว หลุดออกจากแนวเฝ้าระวังเข้าไปบริเวณวัดวังทองวนาราม และได้รื้อเพิงพักคนงานในสวนป่ายูคาลิปตัส โดยคาดการณ์ว่าช้างป่าอาจได้กลิ่นเครื่องปรุงรส จึงทำการรื้อเพื่อค้นหาและรื้อทำลายบริเวณถังขยะ
หัวหน้าอุทยานแห่งชาติทับลานจึงได้สั่งการเจ้าหน้าที่จัดชุดกำลังเข้าเฝ้าระวังประจำบ้านเรือนราษฎร ที่อยู่ด้านในแนวเฝ้าระวังเพื่อให้ความปลอดภัยและความอุ่นใจให้แก่ราษฎร
โดยวันที่ 10 ก.ค. 2568 ที่ผ่านมาตั้งแต่เวลา 14.00 น. คณะเจ้าหน้าที่ได้เปิดยุทธการผลักดันโขลงช้างป่าจำนวน 32 ตัวให้กลับเข้าสู่ป่าธรรมชาติ โดยปรับแผนแบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุด เพื่อเฝ้าระวังและสกัดกั้นบริเวณทางออก (exits point) ตามแนวขอบชายป่า ด้วยการสุมกองไฟจะให้เกิดควัน ตามพิกัดที่
1. 47P 823619E 1562301N
2. 47P 823930E 1562225N
3. 47P 176319E 1562011N
และได้ใช้อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) บินเพื่อตรวจการณ์ จนกระทั่งเวลาประมาณ 18.00 น. ได้ยินเสียงช้างป่าและตรวจพบโขลงช้างประมาณ 32 ตัว เคลื่อนตัวไปทางด้านทิศตะวันตก พิกัดที่ 47P 822842E 1562353N ท้องที่หมู่ที่ 2 บ้านท่าสะตือ จึงได้ติดตามไปผลักดันให้เข้าป่า จนโขลงช้างได้เคลื่อนที่กลับเข้าป่าธรรมชาติ แต่ก็ยังพบช้างป่า พยายามแยกเป็นกลุ่มย่อยและหันหน้าออกจากพื้นที่ป่า เจ้าหน้าที่ก็ได้จัดชุดกำลังเข้าผลักดันและเฝ้าระวังในพื้นที่อย่างต่อเนื่องจนถึงเวลาปัจจุบัน
ทั้งนี้คืนวันที่ 10 ยังไม่พบว่ามีฝนตกหนักในพื้นที่ การปฎิบัติการยังสามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง คณะเจ้าหน้าที่จะทำการเฝ้าระวังผลักดันช้างป่าให้เป็นผลสำเร็จต่อไป
โดย...มานิตย์ สนับบุญ / ปราจีนบุรี