ชาวไทยพุทธในเบตง-มาเลเซีย แห่สักการะพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศเพื่อศิริมงคล


ยะลา – ชาวพุทธในพื้นที่ อ.เบตง จ.ยะลา และ ชาวมาเลเซีย สักการะพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ เนื่องในวันเข้าพรรษาเชื่อถ้าได้กราบพระบรมธาตุครบ 9 ครั้ง ชีวิตจะรุ่งเรืองทั้งหน้าที่การงานและครอบครัว ด้านคนไทยพุทธสะท้อนมุมมองต่อกรณีข่าวฉาวในวงการพระสงฆ์
เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่วัดพุทธาธิวาส ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา พุทธศาสนิกชนชาวเบตง และ ชาวมาเลเซียที่นับถือศาสนาพุทธ เดินทางด้วยรถบัสมายังวัดพุทธาธิวาส ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา เพื่อสักการะพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ และร่วมถวายเทียนพรรษาให้กับวัดในพื้นที่เพื่อความเป็นสิริมงคลตลอดช่วงวันเข้าพรรษา
นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางมาสักการะพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ กล่าวว่า วันนี้ชาวมาเลเซียต่างได้พาครอบครัวมาสักการะพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ โดยมีทั้งเชื้อสายไทยและเชื้อสายจีนที่นับถือศาสนาพุทธ ซึ่งส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ทางภาคเหนือของมาเลเซีย มีความตั้งใจเดินทางมาทำบุญที่วัดพุทธาธิวาส ด้วยพลังศรัทธาในพระพุทธศาสนา แต่ละคนมีความเชื่อว่า ถ้าได้กราบสักการะพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ให้ครบ 9 ครั้ง แล้วจะทำให้ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรืองเจริญก้าวหน้าในการประกอบอาชีพ มีโชคลาภ และชีวิตครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข ในขณะที่ชาวไทยพุทธในพื้นที่ต่างพาครอบครัวมาถวายเทียนพรรษาที่วัดพุทธาธิวาส ด้วย
นอกจากนี้ชาวมาเลเซียที่มาสักการะพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ ยังกล่าวอีกว่า หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีชาวมาเลเซียมาสักการะพระมหาธาตุฯแล้วกลับไปบอกญาติพี่น้องและเพื่อนๆ แบบปากต่อปากว่าหลังจากได้มาสักการพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ แล้วทำให้ ชีวิตมีความเจริญรุ่งเรืองเจริญก้าวหน้าในการประกอบอาชีพ มีโชคลาภ จึงได้ชักชวนกันมาท่องเที่ยวในพื้นที่ อ.เบตงและมาสักการะพระมหาธาตุเจดีย์พระพุทธธรรมประกาศ เพื่อมงคลสูงสุดในชีวิตในช่วงวันเข้าพรรษา
ขณะที่ นายปรีชา ศรีสุวรรณ อายุ 58 ปี ชาวไทยพุทธในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เปิดเผยความเห็นต่อกรณีข่าวฉาวในวงการพระสงฆ์ว่า ตนมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นควรพิจารณาอย่างรอบด้าน และไม่ควรเหมารวมไปทั้งหมด เพราะพระสงฆ์ที่ดีและประพฤติปฏิบัติสมควรก็ยังมีอยู่มาก “พระดีก็มีเยอะ อย่าเอาสิ่งที่ไม่ดีมาตัดสินทั้งหมด เราเป็นชาวไทยพุทธ ก็ควรเลือกที่จะศรัทธาในสิ่งที่ดีความเลื่อมใสในพระพุทธศาสนาเป็นเรื่องส่วนบุคคล และยังคงเชื่อมั่นในหลักธรรมคำสอนที่ดีของศาสนา แม้จะรู้สึกหดหู่ใจกับข่าวที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเกี่ยวข้องกับพระชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งควรเป็นแบบอย่างให้กับพระลูกวัดและญาติโยม
"ฝากถึงพระผู้ใหญ่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้มีแนวทางจัดการปัญหาในวงการพระสงฆ์อย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะในเรื่องความโปร่งใสเกี่ยวกับทรัพย์สินวัด และพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดภาพลักษณ์ด้านลบต่อพระพุทธศาสนา “ถ้ายังมีข่าวเกี่ยวกับการใช้เงินวัดแบบไม่โปร่งใส หรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกมาเรื่อย ๆ มันก็ทำให้คนหดหู่ใจจริง ๆ เพราะศาสนาเป็นที่ยึดเหนี่ยวของพวกเรา” นายปรีชาทิ้งท้าย
ถึงแม้จะมีข่าวไม่ดีเกี่ยวกับวงการพระสงฆ์ แต่ตนเองยังคงมีศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่ และหวังว่าพระผู้ใหญ่จะมีมาตรการที่ชัดเจนในการดูแลและกำกับพระสงฆ์ เพื่อรักษาศรัทธาของประชาชนไว้ให้มั่นคง
โดย...เจษฎา สิริโยทัย จ.ยะลา