ตำรวจหอบสำนวนคดีอาคารสตง.ถล่มกว่า 9.8 แผ่นส่งอัยการดำเนินคดี 23 ผู้ต้องหา


พนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ นำสำนวนคดีอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน หรือ สตง. แห่งใหม่ พังถล่ม จำนวน 51 กล่อง 233 แฟ้ม 98,926 แผ่น ส่งให้อัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 8 สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พิจารณาสั่งฟ้องผู้ต้องหา ทั้งนิติบุคคล และบุคคล รวม 23 ราย ในจำนวนนั้นมี นายเปรมชัย กรรณสูตประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาในกลุ่มนี้ด้วย ซึ่งคณะพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง โดยมี พลตำรวจตรี นพศิลป์พูลสวัสดิ์ และพลตำรวจตรี สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล และหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน มายื่นสำนวนด้วยตนเอง
พนักงานสอบสวนได้ สรุปสำนวนคดีอาคารที่ทำการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่ม เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.10 น.ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหว โดยมีจุดศูนย์กลางที่ประเทศเมียนมาร์ แรงสั่นสะเทือนถึงประเทศไทยและในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ส่งผลให้อาคารก่อสร้างสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน(แห่งใหม่) บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ได้ทรุดตัวถล่มลงมาทับซ้อนกัน เป็นเหตุให้มีผู้รับบาดเจ็บสาหัสและมีผู้เสียชีวิตเป็นนวนมาก ตามคดีอาญาที่ 621/2568ของ สถานีตำรวจนครบาลบางซื่อ กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ตามที่ปรากฎเป็นข่าวเผยแพร่ทราบกันทั่วไปแล้วนั้น
กองบัญชาตำรวจนครบาลโดย พลตำรวจโท สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ได้มีคำสั่งแต่งตั้งพนักงานสืบสวนสอบสวนที่ 192/2568 ลง 4 เมษายน 2568 โดยมี พลตำรวจตรี สมควร พึ่งทรัพย์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน และ พลตำรวจตรี นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เป็นรองหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เพื่อร่วมกันทำการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานทั้งปวง พิสูจน์ทราบสาเหตุของการเกิดเหตุการณ์ครั้งนี้ และดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามกฎหมายในทุกมิติ
จากการสืบสวนสอบสวนของคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยรวบรวมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ ได้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ในฐานะนิติบุคคล 7 ราย , บุคคล 16 ราย รวม 23 ราย ในข้อหา “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุมหรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม” ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตร 227, 238 , 264 , 268 , 83 , 91
คดีนี้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาครบถ้วนแล้ว และอยู่ระหว่างฝากขังผู้ต้องหาต่อศาลอาญา ครั้งที่ 6 จะครบกำหนดในวันที่ 26 กรกฏาคม 2568 ซึ่งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน เชื่อมั่นในพยานหลักฐานเพื่อยืนยันการกระทำผิดผู้ต้องหาเนื่องจากได้ส่งวัตถุ และแบบแปลนไปให้สถาบันต่างๆ ตรวจพิสูจน์ ซึ่งได้มีผลการตรวจยืนยัน อาทิเช่น 1.การออกแบบและมีแก้ไขแปลนอาคารที่เกิดเหตุ ไม่เป็นไปตามหลักมาตรฐาน 2.ใช้วัสดุที่ต่ำกว่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ในแบบแปลน 3.ผู้ควบคุมงานที่ไม่ควบคุมดูแลการก่อสร้างให้เป็นไปตามแบบแปลน โดยพบว่ามีการแอบอ้างชื่อวิศวกรมาเป็นผู้ควบคุมงานโดยผู้นั้นมิได้มาทำหน้าที่ควบคุมงานจริง เป็นต้น