ผู้อพยพหนีการสู้รบชายแดนไทย-กัมพูชา ทะลักสระแก้วแล้ว 142 ราย


ปราจีนบุรี – สถานการณ์ ผู้อพยพ จากจังหวัดสระแก้วทะลัก!ข้ามจังหวัดมาปราจีนบุรีอีก 113 คน รวมเพิ่ม 142 คนขณะหมอยาไทยจาก จ.สุรินทร์หมอไทยดีเด่นแห่งชาติ 2559 ผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้สมุนไพรหมอยาพื้นบ้านในภูมิภาค จ.สุรินทร์ พร้อม นักศึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนไทย ชั้นปีที่4 รวม 4 คน ที่ไปฝึกงาน จ.สุรินทร์มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพระอุปถัมภ์ฯรับกลับมาถึงปราจีนฯแล้ว
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2568 จากสถานการณ์ปะทะระหว่างไทยกับกัมพูชาที่ จ.สุรินทร์ และ ตามแนวชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ล่าสุดนี้ลุกลามมาในภาคตะวันออกที่ จ.สระแก้ว จ.ตราดนั้น
นายสมใจ พุทธเสนา นายอำเภอนาดี อำเภอนาดี เปิดเผยว่า สถานการณ์ ผู้ที่อพยพจากจังหวัดสระแก้ว เข้ามาในพื้นที่ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี วันที่ 26 กรกฎาคม 2568 เวลา 19.00 น. มีผู้อพยพจากอำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว เข้ามาพักกับญาติ ที่หมู่ 3 ตำบล แก่นดินสอ จำนวน 28 คน จากอำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว เข้ามาพักสำนักสงฆ์ วังวารี หมู่ที่ 8 ตำบลแก่งดินสอ อำเภอนาดี จำนวน 35 คน จากอำเภอตาพระยาเข้ามาพักกับญาติ ที่หมู่ 9 บ้านโนนม่วง ตำบลสะพานหิน จำนวน 50 คน ยอดรวมทั้งสิ้น 113 คน เวลา 19.00 น.
ทั้งนี้ สถานที่พักเป็นญาติในหมู่บ้าน และเตรียมอาหาร อุปกรณ์ ของใช้ส่วนตัวมาด้วย ไม่ประสงค์เข้าพักที่ศูนย์พักพิงที่จังหวัดจัดเตรียมไว้ให้ ณ ค่ายลูกเสือห้วยเกษียณ อ.เมืองปราจีนบุรี ที่สามารภรองรับได้ 2,000 คน ขอดูสถานการณ์ประมาณ 2-3 วัน ก่อนตัดสินใจอีกครั้ง ทั้งนี้อำเภอได้สนับสนุนข้าวสารและส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเข้าไปดูแลสุขภาพด้วยแล้ว ทุกคนขวัญและกำลังใจดี
ด้าน ภญ.ดร.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขานุการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพระอุปถัมภ์ฯ หรือ หมอต้อม ผู้เชี่ยวชาญด้านสมุนไพร เปิดเผยว่า ตามที่ได้มอบหมายให้นายจืด เข็มทอง อาสาสมัครมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ในพระอุปถัมภ์ฯ เดินทางไปนำตัว พ่อชอย สุขพินิจ อายุ 87 ปี หมอไทยดีเด่นแห่งชาติ 2559 ผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้สมุนไพรหมอยาพื้นบ้านในภูมิภาค จ.สุรินทร์ ที่เดิมไม่ยอมออกจากบ้าน ทั้งๆที่บ้านอยู่ในวิถีกระสุน การสู้รบ โดยบอกตัวเองแก่แล้ว ยังไงก็ตายขออยู่ที่บ้าน
ตนได้บอกกับพ่อชอยไปว่า อย่าเพิ่งรีบตาย ยังถอดความรู้จากพ่อไม่หมดเลย โดยการไปนำตัวพ่อชอยออกมาจากพื้นที่สู้รบในครั้งนี้ ตนขอเรียกว่า เป็นปฏิบัติการชิงตัวพ่อชอยออกจากบ้าน เพราะพ่อชอยเป็นหมอยาดีเด่นของประเทศ เป็นครูผู้ใจดีของเรา สง่างาม ก็รู้พร้อมเป็นผู้ให้ และมีความรู้เรื่องสมุนไพรที่เรียกว่าหาตัวจับยาก พร้อมรับนักศึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนไทย ชั้นปีที่4 รวม 4 คน ที่ไปฝึกงาน จ.สุรินทร์มาที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่ศูนย์สมุนไพรอีสานใต้อภัยภูเบศรมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศรจ.สุรินทร์ ก่อน นั้น
ล่าสุด พ่อชอย สุขพินิจ อายุ 87 ปี ครูหมอพื้นบ้านของเรา หมอไทยดีเด่นแห่งชาติ 2559 พร้อม นักศึกษาวิทยาลัยการแพทย์แผนไทย ชั้นปีที่4 รวม 4 คน ที่ไปฝึกงาน จ.สุรินทร์พื้นที่ประสบภัย ได้แก่ น.ส. กันตา หงส์ทอง น.ส.ณัฐชยา นัดพบุข น.ส.กรองกาญจน์ จิตพูลผล และ น.ส.ชุติมณฑน์ หัสดีได้เดินทางมาถึง โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร แล้วมี
มีผู้อำนวยการวิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร์ดร.ภก.บุญมี บุญมี โพธ์คำ อาจารย์วิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร์และเจ้าหน้าที่มูลนิธิที่เคยไปเดินป่า ศึกษาสมุนไพรกับพ่อชอยต้อนรับมารอรับ พ่อหมอบอกว่า ได้มาเจอกันก็ดีเพราะไม่รู้ว่าจะได้เห็นหน้ากันก่อนไป จากโลกนี้ไหม
พ่อชอยยังสง่างามและแข็งแรง แต่ตาของพ่อมองเห็นได้ข้างเดียวมีน้องนักศึกษาแพทย์แผนไทยเป็นอาสาสมัครไปนอนค้างกับพ่อที่ สวนสรรพสมุนไพรเชิงเขาใหญ่
พ่อเป็นห่วงบ้านก็ได้แต่บอกว่าตอนนี้พ่อเข้าไปไม่ได้แล้วเค้าไม่ให้คนเข้าไปในบริเวณนั้นแล้วตอนนี้ในหมู่บ้านของพ่อ ที่สุรินทร์เข้าพื้นที่ไม่ได้แล้ว ไม่ปลอดภัย บอกพ่อว่าอยู่นานนานถือโอกาสถ่ายทอดวิชาให้กับลูกศิษย์วิทยาลัยการแพทย์แผนไทยอภัยภูเบศร์พลิกวิกฤตเป็นโอกาสเสียเลยในระหว่างรบครั้งนี้ ขอพ่อชอย มาเป็นครูสมุนไพร สอนนศ.แพทย์แผนไทยจนกว่าเหตุการณ์จะสงบ
ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไป ก่อนหน้านี้ นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผวจ.ปราจีนบุรีในฐานะ ผู้อำนวยการศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปราจีนบุรี (กอ ปภ จ. ปราจีนบุรี) ได้รับประสานจาก ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 13 ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ผ่านฝ่ายปกครองอำเภอกบินทร์บุรี ว่าเมื่อวันที่ 26 กรกฏาคม 2568 เวลาประมาณ 02.00 น. ได้มีผู้อพยพภัยสงครามมาจาก จ.สระแก้ว จำนวน 29 คน เข้ามาในพื้นที่
เบื้องต้น ให้พักอาศัยที่วัดป่าประดู่ หมู่ 13 ต.เมืองเก่า ซึ่งผู้อพยพอ้างว่าไม่สามารถอาศัยที่ศูนย์พักพิงสระแก้วได้เนื่องจากมีแมวและสุนัขมาด้วย
จังหวัดปราจีนบุรี โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จ.ปราจีนบุรี (สนง.ปภ.จว.ปราจีนบุรี) ได้ตรวจสอบข้อมูลเบื้องต้น ทราบว่า ประชาชนเดินทางมาจาก ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว เหตุที่อพยพเข้ามาในพื้นที่ หมู่ที่ 13 ต.เมืองเก่า เนื่องจากมีญาติอยู่ในหมู่บ้านนี้ จำนวนผู้อพยพ มี 29 คน ไม่สะดวกที่จะพักอาศัยอยู่บ้านญาติ ผญบ. จึงประสานให้พักอาศัยที่วัดประดู่
ญาติของผู้อพยพ ชื่อ นางอำนวย เขียวแดง เลขที่ 23 ม.13 ต.เมืองเก่า (คนจังหวัดปราจีนบุรี) ญาติชื่อ น.ส.หทัยรัตน์ ธรรมชาติ เลขที่ 21 ม.11 ต.คลองหาด อ.คลองหาด จ.สระแก้ว (ผู้อพยพ) ส่วนผู้อพยพรายอื่น ๆ รู้จักกันและได้ติดตามมาด้วย
ความเป็นอยู่ วัด ผญบ. และญาติผู้อพยพได้ดูแลในเบื้องต้น พร้อมได้ประสานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปราจีนบุรีดำเนินการช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว
โดย...มานิตย์ สนับบุญ/ทองสุข สิงห์พิมพ์/ปราจีนบุรี