ตำรวจบุกรวบเซลล์ปลอมตุ๋นบริษัทน้ำมัน เชิดเงินหนีซ่อนตัวนาน 3 ปี

ตำรวจบุกรวบเซลล์ปลอมตุ๋นบริษัทน้ำมัน เชิดเงินหนีซ่อนตัวนาน 3 ปี





Image
ad1

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. ร่วมกันจับกุม นางสาวรวีวรรณฯ อายุ 41 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ ศาลจังหวัดบัวใหญ่ ที่ 75/2567 ลง 20 ส.ค.67 โดยกล่าวหาว่ากระทำผิดฐาน “ฉ้อโกงและโดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือ ข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยอาจเกิดความเสียหายแก่บุคคลใดบุคคลหนึ่ง" โดยสถานที่จับกุม บริเวณบ้านแห่งหนึ่งใน อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์

พฤติการณ์ เมื่อประมาณปี 2566 นางสาวรวีวรรณฯ ได้ส่งข้อความผ่านแอปพลิเคชันไลน์อ้างเป็นพนักงานของโรงน้ำแข็งแห่งหนึ่ง ติดต่อขอซื้อน้ำมันดีเซลล์กับบริษัทน้ำมัน โดยตกลงซื้อน้ำมันจำนวน 15,000 ลิตร มูลค่ากว่า 270,000 บาท โดยให้บริษัทจัดส่งน้ำมัน จำนวน 2 แห่ง แห่งที่ 1 ให้จัดส่งที่โรงน้ำแข็งสาขาประทาย จำนวน 6,000 ลิตร และแห่งที่ 2 ให้จัดส่งที่โรงน้ำแข็งสาขาชัยภูมิ จำนวน 9,000 ลิตร ทางบริษัทน้ำมัน หลงเชื่อจึงส่งน้ำมันให้โรงน้ำแข็งดังกล่าว ทั้ง 2 แห่ง โดยมีพนักงานโรงน้ำแข็งลงลายมือชื่อรับน้ำมัน เมื่อบริษัทน้ำมันส่งน้ำมันครบจึงได้ทวงถามผู้ต้องหา แต่ผู้ต้องหาแจ้งว่าให้รอทำเรื่องเบิกเงินจากโรงน้ำแข็งแล้วจะนำเงินมาชำระค่าน้ำมันให้ ต่อมาเมื่อบริษัทน้ำมันทวงถามนางสาวรวีวรรณฯ ก็บ่ายเบี่ยงไม่ยอมชำระ จากนั้นบริษัทได้ติดต่อไปหาโรงน้ำแข็ง จึงได้ทราบว่าผู้ต้องหาไม่ใช่พนักงานของโรงน้ำแข็ง และโรงน้ำแข็งได้ชำระเงินค่าน้ำมันทั้งหมดให้ผู้ต้องหาแล้ว บริษัทน้ำมันจึงเชื่อว่าถูกนางสาวรวีวรรณฯ หลอกลวง จึงเข้าพบแจ้งความที่ สภ.ประทาย จ.นครราชสีมา นางสาวรวีวรรณฯ รู้ว่าตนถูกออกหมายจึงได้หลบหนีคดีไปกว่า 3 ปี

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปคม. สืบทราบว่านางสาวรวีวรรณฯ หลบซ่อนตัวอยู่บ้านหลังหนึ่งใน อ.เมืองกาฬสินธุ์ จ.กาฬสินธุ์ โดยไม่ออกจากบ้านตัดขาดการติดต่อกับโลกภายนอก โดยทำสภาพรอบบ้านให้เสมือนเป็นบ้านที่ไม่มีผู้พักอยู่อาศัย เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขออนุมัติหมายค้นต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ เพื่อเข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว เมื่อเข้าไปตรวจค้นในบ้านพบว่าในบ้านเหมือนมีการติดกล้องวงจรปิดรอบบ้านและภายในบ้านเพื่อดูสถานการณ์รอบบ้าน และพบนางสาวรวีวรรณฯ แอบซ่อนตัวอยู่ใต้ราวตากผ้าภายในห้องนอนจึงได้ดำเนินการจับกุมตัว จากนั้นนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สภ.ประทาย จ.นครราชสีมา

เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป และจากการตรวจสอบประวัติคดีอาญาของนางสาวรวีวรรณฯ ยังพบว่ามีหมายจับอีก 1 หมายจับ คือ หมายจับศาลแขวงสุรินทร์ ที่ จ.8/2568 ลงวันที่ 29 ม.ค.68 ในความผิดฐาน “ยักยอกทรัพย์” เหตุเกิดปี 2566 ขณะทำงานเป็นเซลล์ขายน้ำมัน เบิกน้ำมันดีเซลไปขายให้ลูกค้า แต่ไม่ส่งเงินคืนบริษัท สร้างความเสียหายเกือบ 8 แสนบาท ผู้เสียหายจึงแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
และผู้ต้องหายังมีประวัติคดีเกี่ยวกับการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมายโดยมีลักษณะหรือมีการกระทำเจตนาที่จะไม่ให้มีการใช้เงินตามเช็คนั้น มูลค่าความเสียหาย 400,000 บาท และขณะเดียวกัน ผู้ต้องหายังถูกขึ้นบัญชี Blacklistseller.com เว็บไซต์แจ้งเตือนผู้บริโภคว่าเป็นผู้ขายที่ควรระวัง ฝากเตือนลูกค้าให้ระวังการทำธุรกรรมกับบุคคลนี้

สอบถามคำให้การผู้ต้องหาเบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา