แตกตี่น!โดรนปริศนา 10 ลำโผล่ปราจีนฯกลางดึก บินโฉบน่านฟ้าเหนือพล.2รอ."บูรพาพยัคฆ์"


โดรนปริศนากว่า 10 ลำ โผล่ปราจีนบุรีกลางดึก บินโฉบน่านฟ้ากองพลทหาร ‘บูรพาพยัคฆ์’ มหาวิทยาลัย รวมไปถึงพื้นที่ อ.เมือง และ อ.ประจันตคาม
ไลน์กลุ่ม “ผู้ว่าพบสื่อมวลชน” ของ นายกองตรีปพนศกดิ์ ขันติชัยมงคล นายอำเภอประจันตคาม แจ้งว่า ได้รับข้อมูลจากผู้ใหญ่บ้านหลายหมู่บ้าน ใน ต.โพธิ์งาม ว่าพบโดรน 4-5 ลำ บินวนอยู่ในพื้นที่หมู่ 17 หมู่ 10 หมู่ 2 หมู่ 16 หมู่ 3 หมู่ 19 หมู่ 15 บางลำบินไปทาง ต.ดงขี้เหล็ก อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี
ขณะที่ นายเอก วงศ์จินดา นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ รายงานว่า รับแจ้งจากประชาชนว่ามีโดรน บินอยู่เหนือศาลากลาง อบต.ไม้เค็ด อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี จำนวน 4-5 ลำ จึงเดินออกมาดูหน้าอนุสาวรีย์ ร.5 พบโดรนบินอยู่จริง
ต่อมาที่บ้านหนองทะเล หมู่ 4 ต.ดงขี้เหล็ก พบว่าชาวบ้านพากันยืนคอยดูโดรนริมถนนสายสุวรรณศร (ตัดใหม่) ที่มีการพบโดรนบินมากกว่า 10 ลำ ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว มีชาวกัมพูชามารับจ้างเป็นแรงงานจำนวนมาก
นอกจากนี้ พบว่าโดรนยังบินวนรอบ ๆ หน่วยทหารหลายหน่วยที่ขึ้นตรงกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ หรือ “บูรพาพยัคฆ์” ค่ายพรหมโยธี ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับมหาวิทยาลัยหลายหน่วย ไม่ว่าจะเป็น หน่วยทหารปืนใหญ่, กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล (ร้อย ลว.), กองร้อยต่อสู้รถถัง (ร้อย ตถ.)
ทั้งนี้ไม่สามารถระบุจุดปล่อยหรือควบคุมได้ชัดเจน ขณะที่โดรนบินในระดับความสูง 30-40 เมตร สามารถมองเห็นชัดเจน โดยมีพนักงานรักษาความปลอดภัยมหาวิทยาลัย ทหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองปราจีนบุรี และสื่อมวลชนให้ความสนใจรายงานสถานการณ์ดังกล่าว
ด้าน พ.ต.อ. ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช รอง ผบก.ภ.จว.ปราจีนบุรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบติดตามและรายงาน กอ.รมน.ให้รับทราบ โดยทาง ผวจ.ปราจีนบุรีได้มีหนังสือสั่งการทำแผนทำแผนกสรพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง สั่งการห้ามบินโดรนทุกการใช้งานทุกกรณีช่วงสถานการณ์ชายแกนไทยกัมพูชา ประกาศเตือนพร้อมแจ้งโทษตาม พ.ร.บ.เดินอากาศ และทางปกครองทางทหาร มีอำนาจการทำลายได้ หากพบเห็นแจ้งหน่วยทหารที่ กองพล ร 2 รอ. , มทบ.12 , ตำรวจภูธร จ.ปราจีนบุรี ฝ่ายปกครอง จ.ปราจีนบุรี
ทั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ได้ออกประกาศห้ามการบินโดรนทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคม ถึง 15 สิงหาคม 2568 เพื่อรักษาความปลอดภัยและความมั่นคง โดยจังหวัดปราจีนบุรีอยู่ในรายชื่อ 14 จังหวัดที่เป็นพื้นที่เสี่ยง หากผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามพระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ.2497 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ