โซเชียลเดือด!ซัดผอ.โรงเรียนเงียบเฉยปมเด็กม.5ทำร้ายครูเจ็บสาหัส

โซเชียลเดือด!ซัดผอ.โรงเรียนเงียบเฉยปมเด็กม.5ทำร้ายครูเจ็บสาหัส





Image
ad1

อุทัยธานี -คลิป เว่อนโซเชียล เด็กม.5 รัวหมัดถีบตีเข่าใส่ครู ไม่ยั้ง สาเหตุ ไม่พอใจ ครูให้คะแนนจากเต็ม  20 ให้เพียง  18  ทำให้โซเชียลเดือดเคลื่อนไหวใต้โพสต์โรงเรียนถามถึงผอ.เงียบจัง

จากกรณี  มีคลิปว่อนโซเชียล เด็กนักเรียนชาย ม. 5 รัวต่อยหน้า ตีเข่า เตะครูสาวกลางห้องเรียน ไม่พอใจคะแนนที่ครูให้ จากคะแนนเต็ม 20 ได้เพียง 18 คะแนน จนทำให้เด็กม.5 เตะโต๊ะที่ครูนั่งตรวจข้อสอบ 1 ครั้ง แล้วก็ออกจากห้องไปประมาณ 10 นาที ก่อนจะกลับเข้ามาใหม่ แล้วพูดว่า “ครูต้องขอโทษผม” ครูก็เลยถามย้อนกลับไปว่า “ใครกันแน่ที่ต้องขอโทษ” ซึ่งนักเรียนคนดังกล่าวก็นั่งอยู่ที่โต๊ะประมาณ 2-3 นาที

แล้วจู่ๆ ก็ลุกขึ้นมาต่อยใบหน้าครูหลายครั้ง เตะ และตีเข่าใส่ครู จนเพื่อนๆ ในห้องเกิดอาการหวาดกลัว แต่ก็พยายามเข้ามาช่วยห้าม กระทั่งมีครูอีกคนเข้ามาช่วย หลังเกิดเหตุครูได้ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งมีอาการฟกช้ำที่ดวงตา หัวด้านซ้ายบวม ซี่โครงอักเสบ หลังจากเกิดเหตุแล้วทางผู้ปกครองของเด็กได้ติดต่อเข้ามาขอโทษครู และเข้ามาทำเรื่องลาออกจากโรงเรียนในเวลาต่อมา
  
วันนี้ผู้สื่อข่าวได้ติดตามไปยังโรงเรียนดังกล่าวซึ่งอยู่ในการปิดเรียนอยู่ และตรวจสอบบรรยากาศภายหน้าห้องเรียนที่เกิดเหตุ และบริเวณด้านหน้าโรงเรียน ยังเงียบสนิท และในขณะเดียวกันใต้โพสต์ของโรงเรียนดังกล่าว ได้มีการเคลื่อนไหว หลังจากที่เป็นข่าวไปแล้ว ได้มีนักโซเชียลเข้ามาคอมเม้นท์ เป็นจำนวนมาก ว่าถามถึงผอ.โรงเรียนไม่ออกมาอธิบายหรือมาชี้แจงแต่อย่างใด กลัวเสียชื่อโรงเรียนหรืออย่างไร อย่างไรทางสังคมก็อยากให้ผอ.โรงเรียนดังกล่าวควรออกมาชี้แจง

ล่าสุดครูสาวที่ถูก นร.ชายคนดังกล่าว ทำร้ายเครียด อยากลาออก หลังรู้ว่าครอบครัวของนร.ที่ก่อเหตุมีฐานะ กลัวอิทธิพล และอับอายที่โดนทำร้ายต่อหน้าลูกศิษย์ โดยคุณครูคนดังกล่าว ได้ ทำงานที่ โรงเรียนมา 10 กว่าปี  แต่ในเรื่องคดี จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด 

ทั้งนี้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี เขต 2 รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  ได้ส่งตัวแทนและฝ่ายกฎหมายเพื่อเยี่ยมให้กำลังใจ ครูสาว เนื่องจาก นายชาดา ไทยเศรษฐ์  ติดภาระกิจ หลังจากเสร็จภาระกิจจะเข้าเยี่ยมครูสาว ด้วยตัวเอง

 และในวันนี้ 12 ส.ค 68 เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกตัว เด็นนักเรียนม.5 คนดังกล่าว  มาสอบปาดคำ  โดยมีผู้สื่อข่าว ทุกสำนักปักหลักรอตั้งแต่เช้าตรู่  เพื่อรอสัมภาษณ์ผู้ปกครอง สอบถาม ความเป็นอยู่และสิ่งแวดล้อมของเด็ก