ขับเคลื่อนต่อเนื่อง!จาก "ปฎิญญาบางแก้ว" พัทลุง สู่ภาคใต้กลาง-บน ฝ่าวิกฤติเกษตรตกต่ำ

เดินต่อเนื่อง จาก“ปฎิญญาบางแก้ว “ จ.พัทลุง สู่ภาคใต้กลาง ภาคใต้บน “โจทย์ใหญ่” เกษตรกรรากหญ้าเหยื่อฝ่ายการเมืองถูกกดให้จนแล้วแจก เลือกตั้งไปแล้วเป็นการเมือง “ไม่ตอบโจทก์” เปิเวที “ถอดบทเรียน” ทั่วใต้

นายทศพล ขวัญรอด ประธานภาคีเครือข่ายชาวสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย (คยปท.) เปิดเผยว่า จากการเสวนาแลกเปลี่ยนรู้ภายใต้หัวข้อปาล์มน้ำมัน ยาง ควรไปต่อหรือพอแค่นี้พร้อมทางกลุ่มเกษตรกรได้ร่วมลงนามปฎิญญาบางแก้ว ทางเลือก ทาองรอด เกษตรกรไทย ระหว่าง ภาคีเครือข่ายชาวสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย (คยปท.) สมาคมสหพันธ์ชาวสวนยางแห่งประเทศไทย (ยสท.) กลุ่มวิสาหกิจชุมชน สภาเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  สภาเกษตรกรจังหวัดพัทลุง ฯลฯ เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2568  ที่โรงเรียนบางแก้วพิทยาคม อ.บางแก้ว จ.พัทลุง ทั้งนี้เวที มีผู้เข้าร่วม กว่า 200 คน ที่ผ่านมา

นายทศพล กล่าวต่อว่า ประเด็นที่เสวนาได้สะท้อนประเด็นสำคัญถึงเกษตรกรรากหญ้าบางกลุ่มบางราย และผู้รณณรงค์หาเสียงเลือกตั้งการเสนอและการรับเงิน และในที่สุดเกษตรกรรากหญ้ากลับเป็นจุดต้นเรื่องทุจริตคอรัปชั่นได้ส่งผลให้ฝ่ายการเมืองต้องขยายตัวเติบโตขึ้นอย่างกว้างขวางและเกษตรกรรากหญ้าก็ต้องพบกับความยากลำบากทางเศรษฐกิจเกษตรกรรากหญ้าจึงต้องตกเป็นเหยื่อจึงได้ฝ่ายการเมืองไม่ตอบโจทย์

“บริบทการเมืองฝ่ายการเมืองเกษตรกรรากหญ้าไม่สามารถพึ่งพาได้เสมือนเกษตรกรรากหญ้าถูกกดให้จนแล้วแจกเพราะเมื่อถึงฤดูการเลือกตั้งการเมืองก็เข้ามา”  นายทศพล กล่าว 

และเพิ่มเติมว่า จากประเด็นนี้ได้ส่งผลกระเพื่อมอย่างกว้างขวางต่อกลุ่มเกษตรกรไปทั่วทุกภูมิภาค ทางเครือข่าย และ คยปท.จึงได้ดำเนินการต่อเพื่อให้ตระหนักถึงสัญญาณอันตราย ว่าการใช้สิทธิ์อำนาจอธิปไตยในการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งควรจะใช้สิทธิ์ให้คอบโจทย์

“ขณะนี้อยู่ระหว่างหารือเพื่อให้ตกผลึกที่จะทำการเปิดเวทีเสวนาขยายผลต่อจากปฎิญญาบางแก้ว ทางเลือก ทางรอดเกษตรกรไทยทางภาคใต้ เช่นภาคใต้กลาง จุดรวมที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช  และภาคใต้บนที่ จ.ชุมพรจุดรวม ให้มีการตัวเรื่องอำนาจอธิปไตยที่เกษตรกรรากหญ้า จะต้องใช้เพื่อเลือกตั้ว่าเป็นผลอย่างไรหากรับและให้เข้าไปจะมีผลตอบโจทก์เกษตรกรหรือไม่  เพราะการเข้าไปคือต้องทำหน้าที่ฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ ในการออกแบบกฎหมายและบริหาร
นายทศพล กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา คยปท.และเครือข่าย ได้จัดเวทีเสวนาทางเลือกทางรอดสวนยางพบการเมือง เพื่อนำเสนอนโยบายยางพาราพร้อมกับดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องยางอย่างเป็นระบบโดยเชิญ 8 พรรคการเมือง มีการตอบรับและได้ลงนามปฎิญญานครศรีธรรมราช 15 มกราคม 2566 จำนวน 6 พรรค แต่แล้วจนถึงขณะนี้ไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด

“จึงถอดบทเรียนก่อนเลือกตั้งจากวันนั้นถึงวันนี้ของนักเลือกตั้ง ทำให้เห็นว่าเราอย่าหวังพึ่ง การพึ่งพาตนเองไปสู่การเปลี่ยนแปลงจะต้องเริ่มต้น โดยภาคประชาชนเพื่อภาคประชาชน นโยบายเราต้องเป็นผู้สร้าง รัฐมีหน้าที่สนับสนุน เพราะการชี้นำจากอดีตสู่ปัจจุบันรัฐล้มเหลวเกษตรกรต้องลุกขึ้นมากำหนดทิศทางไปสู่บริบทการพัฒนาแก้ปัญหาความยากจนและเป็นการพัฒนาที่ยั่งยืน ทุกสาขาอาชีพจะต้องตกผลึกทางความคิดและถอดบทเรียน ต้องให้บทเรียนกับนักเลือกตั้งที่ไม่เคยทำหน้าที่แทนเกษตรกร”. นายทศพล กล่าว.