เหยื่อกว่า 30 รายจี้เอาผิดสาวเช่าสินค้าแบรนด์เนมเชิดขายสูญกว่า 30 ล้าน

เหยื่อกว่า 30 รายจี้เอาผิดสาวเช่าสินค้าแบรนด์เนมเชิดขายสูญกว่า 30 ล้าน





Image
ad1

"ทนายรัชพล"พากลุ่มผู้เสียหายกว่า 30 ราย ร้อง ผบช.ก.เร่งรัดคดี สาวแสบเช่ากล้องดิจิตอล เช่าสินค้าแบรนด์เนม เชิดหนีเอาไปขาย เสียหายกว่า 30 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 18 ส.ค.68  ที่ ด้านหน้ากองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ถนนพหลโยธิน เขตจตุจักร กทม.นายรัชพล ศิริสาคร ทนายความ พากลุ่มผู้เสียหายกว่า 30 ราย เข้าพบ พงส.บก.ป.เพื่อยื่นหนังสือถึง พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (ผบช.ก.) ขอให้ช่วยเร่งรัดคดีกรณี น.ส.ป่าน ที่มีพฤติกรรมหลอกเช่ากล้องถ่ายรูปดิจิตอลแล้วเอาไปขาย และบางรายโดนเอาข้อมูลส่วนตัวไปยืมสินค้าแบรนด์เนมก่อนเชิดหนี โดยก่อเหตุรายวันๆ ละหลายร้านค้าหลายราย เบื้องต้นพบมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อกว่า 30 ราย มูลค่าความเสียหายรวมกว่า 30 ล้านบาท

น.ส.สมสกุล (นามสมมุติ) อายุ 25 ปี ประกอบธุรกิจให้เช่ากล้องถ่ายรูป ร้านค้าตั้งอยู่ย่าน ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.68 ได้รับการติดต่อจาก น.ส.หยก ขอเช่ากล้องยี่ห้อริโค่ รุ่น จีอาร์ 3 เป็นเวลา 1 วัน พอถึงกำหนดคืน ไม่นำส่งคืนตามกำหนดที่ตกลงไว้ จึงรู้ตัวว่าถูกขโมย และทราบว่าโดนบล็อกในเวลาต่อมา ทางร้านจึงทำการประกาศขอความช่วยเหลือและเตือนภัยในกลุ่ม จึงพบว่ามีผู้เสียหายที่โดนในเวลาเดียวกัน …

ต่อมาสืบพบกล้องถูกโพสต์ขาย โรงรับจำนำย่านบางนา จึงทำการเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้นำทีมสืบสวนเข้าไปอายัดกล้องไว้ แต่ก็ไม่สามารถอายัดไว้ได้เนื่องจากทางร้านปฏิเสธการคืนและอ้างว่าซื้อมาอย่างถูกกฎหมาย ต้องนำหมายศาลเข้ายึด แต่สืบทราบว่าราคาที่ซื้อมาก็ถูกกว่าราคาตลาด และได้เบาะแสเพิ่มเติมว่าไม่ใช่นางสาวหยกนำไปขาย แต่เป็นแฟนหนุ่มของนางสาวป่าน ทำให้รู้ว่าเรื่องนี้ทำกันเป็นขบวนการ ไม่ใช่ทำโดยคน ๆ เดียว และพบผู้เสียหายจำนวนมาก ที่ถูกกระทำโดยนางสาวป่าน ทั้งร้านเช่ากล้องและร้านเช่าแบรนด์เนม

ตัวแทนผู้เสียหายเปิดเผยว่า น.ส.ป่าน ได้ก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง โดยจะติดต่อเช่าสินค้าจากร้านค้าออนไลน์รายวัน และใช้กลอุบายหลายวิธีในการก่อเหตุ โดยเฉพาะการแอบอ้างว่าจ้างพนักงานที่มีบุคลิกดีเพื่อไปเช่ากล้องให้ลูกค้าชาวจีน พร้อมให้ค่าจ้างสูงถึง 3,000-5,000 บาทต่อวัน นอกจากนี้ยังพบว่า น.ส.ป่าน ได้หลอกให้ผู้ชายมาคบหาเป็นแฟนเพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการรับของจากร้านค้า ซึ่งเชื่อว่าเป็นการสร้างความซับซ้อนเพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่สาวถึงตัวได้ง่าย
แม้ผู้เสียหายบางส่วนได้เข้าแจ้งความดำเนินคดีท้องที่เกิดเหตุแล้ว แต่คดีกลับมีความล่าช้า ทำให้กลุ่มผู้เสียหายรวมตัวกันมาขอความช่วยเหลือจากตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อให้เร่งรัดการดำเนินคดีและจับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็ว

ทั้งนี้ ทนายรัชพลและกลุ่มผู้เสียหายหวังว่าการยื่นหนังสือในครั้งนี้จะช่วยให้คดีมีความคืบหน้า และสร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ที่ได้รับผลกระทบต่อไป