EUDRARDA จับมือ 9 หน่วยงาน ผนึกกำลังงานวิจัย ยกระดับมาตรฐานเกษตรไทยสู่ตลาด EU

EUDRARDA จับมือ 9 หน่วยงาน ผนึกกำลังงานวิจัย ยกระดับมาตรฐานเกษตรไทยสู่ตลาด EU





Image
ad1

ดีเดย์! ไทยเดินเครื่องรับมือกฎเหล็ก EUDRARDA จับมือ 9 หน่วยงาน ผนึกกำลังงานวิจัย ยกระดับมาตรฐานเกษตรไทยสู่ตลาด EU

เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2568 สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ ARDA จับมือ 9 หน่วยงาน ภาครัฐและเอกชน จัดงาน “Kick-off ยกระดับสินค้าและผลิตภัณฑ์เกษตรไทยรองรับระเบียบ EUDR” เพื่อเดินหน้า ความร่วมมืออย่างเป็นทางการในการเตรียมความพร้อมกระบวนการผลิตสินค้าเกษตรของไทยให้สอดรับ European Union Deforestation-free Regulation (EUDR) ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้เต็มรูปแบบในช่วงปลายปีนี้ พร้อมเปิดตัว 9 โครงการวิจัยนำร่อง ที่ ARDA สนับสนุนทุนวิจัย เพื่อใช้เป็นกลไกสำคัญในการผลักดันให้ภาคเกษตรไทยสามารถปฏิบัติตามมาตรฐานใหม่ของ EU อย่างเป็นรูปธรรม โดยมีนายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีฯ

จากข้อมูลของ FAO และ UNEP (2020) ระบุว่าพื้นที่ป่าดั้งเดิมของโลกเหลือเพียง 31% ของพื้นที่ทั้งหมด และช่วงปี 2015–2020โลกสูญเสียป่าไม้ปีละกว่า 10 ล้านเฮกตาร์ รวมแล้วกว่า 80 ล้านเฮกตาร์ตั้งแต่ปี 1990 เพื่อแก้ปัญหานี้สหภาพยุโรป (EU) จึงออกกฎระเบียบ EUDR เมื่อ 29 มิถุนายน 2566 กำหนดว่าสินค้าที่นำเข้า EU ต้องพิสูจน์ได้ว่าไม่เกี่ยวข้องกับการตัดไม้ทำลายป่ามีระบบตรวจสอบย้อนกลับ (Traceability) ถึงแหล่งผลิตที่ชัดเจน และผลิตอย่างถูกต้องตามกฎหมายของประเทศต้นทาง

นายประยูร อินสกุล  ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ถึงแม้ประเทศไทยจะถูก EU จัดให้อยู่ในประเทศกลุ่มความเสี่ยงต่ำ แต่การปรับตัวให้สอดคล้องกับกฎระเบียบ EUDR ยังเป็นเรื่องท้าทายและโอกาสสำคัญที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญ เนื่องจากข้อมูลของสหประชาชาติ (UN Comtrade Database) พบว่าในปี 2567 มีการส่งออกสินค้าเกษตร 7 กลุ่ม ได้แก่ ยางพารา ปาล์มน้ำมัน กาแฟ ถั่วเหลือง โกโก้ โค และไม้ ไปยัง EU มูลค่ารวมกว่า 1.85 พันล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 6.49 หมื่นล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการ SMEs และเกษตรกรรายย่อย โดยเฉพาะยางพาราที่มีสัดส่วนกว่า 90% ดังนั้นการเตรียมความพร้อมจึงไม่เพียงรักษาตลาดที่อาจกระทบโดยตรงต่อรายได้และศักยภาพในการแข่งขันของไทยในตลาดยุโรป แต่ยังเป็นการอนุรักษ์ป่าไม้และยกระดับมาตรฐานสิ่งแวดล้อมของไทยอีกด้วย

งานในวันนี้ ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของประเทศไทยที่ได้รวมนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ มาร่วมดำเนินโครงการวิจัยภายใต้แผนงานมุ่งเป้าฯ EUDR ใน 6 ด้านสำคัญ ได้แก่ 1) ระบบตรวจสอบย้อนกลับ (traceability system) ตลอดห่วงโซ่อุปทาน 2) แพลตฟอร์ม Geolocation สำหรับตรวจสอบพื้นที่ปลูกว่าปลอดจากการบุกรุกป่า 3) ระบบจัดเก็บข้อมูลรองรับการยื่น Due Diligence Statement (DDS) ผ่านระบบของ EU 4) การศึกษากรอบกฎหมายและข้อเสนอเชิงนโยบาย 5) การวิเคราะห์ตลาดสินค้า EUDR และท่าทีประเทศคู่ค้าในอาเซียนและ EU 6) การสร้างความรู้ความเข้าใจกับเกษตรกรเกี่ยวกับ EUDR 

​ด้านดร.วิชาญ อิงศรีสว่าง ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร กล่าวว่า ARDA ได้เสนอหัวข้อประเด็นมุ่งเป้าเรื่อง EUDR เพื่อเตรียมการให้เกษตรกรและผู้ประกอบการมีความพร้อมเมื่อสหภายุโรปบังคับใช้กฎระเบียบนี้  โดยกองทุน ววน. เห็นความสำคัญและความจำเป็นจึงเห็นชอบให้ ARDA มาขับเคลื่อนเรื่องดังกล่าว โดย ARDA ได้เชื่อมโยงนโยบายและผลลัพธ์จากงานวิจัยสู่การปฏิบัติจริง เช่น ระบบ GIS และ Remote Sensing สำหรับตรวจสอบและยืนยันพิกัดแปลงเพาะปลูก ระบบ Traceability แบบ End-to-End สำหรับติดตามสินค้าเป็นล็อตตั้งแต่ฟาร์มถึงปลายทาง และความพร้อมในการยื่น Due Diligence Statement (DDS) แบบเรียลไทม์ รวมถึงแอปพลิเคชันสำหรับเกษตรกรรายย่อย เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถส่งออกสินค้าผ่านกฎระเบียบ EUDR ภายใต้กรอบเวลาที่กำหนดได้อย่างมั่นใจ

สำหรับประเทศไทย ARDA ได้สนับสนุนทุนวิจัยให้มกอช. เพื่อจัดทำกรอบนโยบายระดับชาติ หรือ National policy framework เพื่อให้คณะกรรมการ EUDR ระดับชาติเห็นชอบ และใช้เป็นแนวทางปฏิบัติให้สอดคล้องกับกฎระเบียบ EUDR ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญประเทศ และเพื่อเดินหน้ารับมือกับความท้าทายต่อการปรับตัวของภาคการเกษตรไทย งานในวันนี้ ARDA ได้เปิดตัว 9 โครงการวิจัยที่ให้การสนับสนุนทุนวิจัยล่าสุดเพื่อร่วมขับเคลื่อนการดำเนินงานให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ได้แก่

1. โครงการ การออกแบบระบบเตรียมความพร้อมสินค้าเกษตรตลอดห่วงโซ่อุปทาน – มหาวิทยาลัยรังสิต

​2. โครงการ พัฒนาระบบนำเข้า–ส่งออกตามมาตรฐาน EUDR – สมาคมอุตสาหกรรมดิจิทัลไทย

​3. โครงการ จัดทำแพลตฟอร์ม Geolocation ตรวจสอบพื้นที่ปลูกที่ปราศจากการตัดไม้ทำลายป่า– บริษัท จีไอเอส จำกัด

4. โครงการ วิเคราะห์ตลาดสินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปยัง EU – บริษัท แอคเซส ยุโรป จำกัด

​5. โครงการ ศึกษาอุปสรรคทางกฎหมายในการส่งออกสินค้าและผลิตภัณฑ์ภายใต้กฎระเบียบ EUDR – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

6. โครงการ เสริมศักยภาพผู้เกี่ยวข้องในห่วงโซ่อุปทานปาล์มน้ำมัน – กรมวิชาการเกษตร

7. โครงการ การศึกษาระบบยืนยันความถูกต้องทางกฎหมายของไม้ไทยสำหรับส่งออก – จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

8. โครงการ ทวนสอบข้อมูลเกษตรกรและพิกัดแปลงเกษตรกรรมในเขตปฏิรูปที่ดิน – สำนักงานปฏิรูปที่ดิน            

9. โครงการ การวิจัยและปรับปรุงข้อมูลผังแปลงเกษตรกรรมดิจิทัลให้ถูกต้องตามกฎระเบียบ EUDR   – กรมส่งเสริมการเกษตร

นอกจากนี้ ภายในงานยังมีการสาธิตระบบ Traceability Platform และ Geolocation Platform ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการรับมือกฎระเบียบดังกล่าว รวมถึงการเสวนาในหัวข้อ “สินค้าและผลิตภัณฑ์ของไทยสามารถส่งออกไปสหภาพยุโรปภายใต้ระเบียบ EUDR” โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าและการเกษตรร่วมแลกเปลี่ยนความเห็นและให้แนวทางปฏิบัติที่สำคัญ  

“EUDR ไม่ใช่กำแพงการค้า แต่คือโอกาสครั้งใหญ่ในการยกระดับเกษตรไทยสู่มาตรฐานสากล การพัฒนางานวิจัยครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการปรับตัวตามกฎใหม่ แต่คือการ พลิกโฉมสินค้าเกษตรไทยให้พร้อมแข่งขันบนเวทีโลกอย่างยั่งยืน ARDA
พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนภาคการเกษตรไทย ด้วยหลักวิทยาศาสตร์ งานวิจัย และนวัตกรรม ที่เชื่อมโยงทุกภาคส่วน เพื่อให้ไทยก้าวผ่านกฎระเบียบ EUDR ได้อย่างมั่นใจ”