ตำรวจมอบเงินคืน2เหยื่อถูกแก๊งตุ๋นหลอกลงทุนกว่า 1.7 ล้านบาท


ศูนย์ War Room ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามล่าเอาเงินคืนให้ผู้เสียหาย “MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” ส่งมอบให้ 2 เหยื่อ รวมกว่า 1.7 ล้านบาท
วันนี้ (21 สิงหาคม 2568) เวลา 11.30 น. พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้บัญชาการ ศูนย์บริหารเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์นานาชาติ (ผบ.ศกค.) หรือ International Anti-Scam and Human Trafficking Syndicate Command Center (IAC) และผู้อำนวยการศุนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ผอ.ศปอส.ตร.) แถลงข่าว “ศูนย์ Warroom ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามล่าเอาเงินคืนให้ผู้เสียหาย MONEY CASH BACK ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” โดยมี พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท., พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท./รอง ผบ.ศกค., พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท./รอง ผบ.ศกค., พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. และ พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1 พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมแถลงข่าว ณ ห้อง “Warroom IAC” ณ ห้องประชุม 1 ชั้น 7 อาคารศูนย์ฝึกอบรมตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ พล.ต.อ.ธัชชัยฯ เป็น ผบ.ศกค. ได้เดินหน้าขับเคลื่อน “Warroom IAC” ร่วมกับหน่วยงานด้านความมั่นคงและการเงินทั้งในประเทศ และหน่วยงานระหว่างประเทศ อาทิ UNODC, FBI และ Interpol เพื่อจัดการปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์อย่างบูรณาการ โดยครอบคลุมตั้งแต่การกวาดล้างเครือข่าย การระงับบัญชี ติดตามเส้นทางการเงิน ไปจนถึงการคุ้มครองเหยื่อ โดยเน้นมาตรการเชิงรุกภายใต้แนวคิด “ปิดประตูทุบหม้อข้าว” เพื่อมุ่งสร้างผลลัพธ์ที่ชัดเจนภายใน 3 เดือน โดยเฉพาะการตัดวงจรเครือข่ายใหญ่ในกัมพูชา ซึ่งเป็นฐานสำคัญในการหลอกลวงประชาชนไทยและต่างประเทศ
พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดดำเนินการตามโครงการ “MONEY Cash Back ปิดบัญชี ตามล่าม้า คว้าเงินคืน” อย่างต่อเนื่อง โดยก่อนหน้านี้ สามารถจับกุมเครือข่ายบัญชีม้าของขบวนการหลอกลวงออนไลน์ และสามารถติดตามนำคืนให้แก่ผู้เสียหายตามขั้นตอนในโครงการ “MONEY CASH BACK” ไปแล้วหลายครั้ง รวมจำนวนเงินกว่า 232.2 ล้านบาท โดยล่าสุด สามารถติดตามอายัดเงินของผู้เสียหายจากการถูกหลอกลวงออนไลน์ได้เพิ่มเติมอีก 2 ราย มีรายละเอียด ดังนี้
กรณีที่ 1 รวบเครือข่ายหลอกเทรดหุ้นออนไลน์ ลวงอดีตข้าราชการลงทุนสูญเงินกว่า 8 ล้าน อายัดทัน 1.2 ล้าน นำคืนผู้เสียหายสืบเนื่องจากเมื่อช่วงเดือน ธ.ค.67 ผู้เสียหายเป็นอดีตข้าราชการได้พบเพจเฟซบุ๊กปลอมบัญชีหนึ่ง ได้โฆษณาเกี่ยวกับการลงทุนเทรดหุ้นออนไลน์ จึงเกิดความสนใจ ต่อมาได้ถูกดึงเข้ากลุ่มไลน์ชื่อ (LINE Globaledgemax)โดยช่วงแรกเริ่มจากลงทุนจากยอดจำนวนน้อย ปรากฏว่าสามารถถอนเงินกำไรออกมาได้จริง จึงได้ลงทุนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แต่เมื่อโอนเงินลงทุนในยอดเงินที่สูงขึ้น กลับไม่สามารถถอนเงินออกมาได้ รวมมูลค่าความเสียหาย จำนวน 8,076,559.46 บาท จึงได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อ บช.สอท. ในเวลาต่อมา