เวทีประชาพิจารณ์เดือด!คนปราจีนบุรีต้าน EEC หวั่นกลายเป็น “ถังขยะอุตสาหกรรม” กลุ่มทุนต่างชาติ


ปราจีนบุรี-ชาวปราจีนชูป้ายค้านสวนไม่เอา EEC ในเวทีเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นนโยบายการขยายพื้นที่ EEC หวั่นกลายเป็น “ถังขยะอุตสาหกรรม” ของกลุ่มทุนต่างชาติในอนาคตก่อนสรุปความเห็นยื่นต่อ ครม.!ในเดือน ก.ย.นี้
เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรีนายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นต่อ (ร่าง) รายงานข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการขยายพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ทั้งจากภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมากรวมกว่า 600 คน ณ หอประชุมอำเภอเมืองปราจีนบุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดย มีพ.ต.ท.ถาวร แก้วมาเรือน สวป.สภ.เมืองปราจีนบุรี ร.ต.ท.ไพฑูรย์ เอื้อเฟื้อกลาง ร้อยเวรสายตรวจ พร้อมกำลังชุด สายตรวจรถยนต์ สายตรวจ จยย.ปฏิบัติหน้าที่ป้องกันเหตุรักษาความสงบเรียบร้อย
นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี การประชุมรับฟังความคิดเห็น(ร่าง)รายงานการเสนอแนะเชิงนโยบายการขยายพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก นี้เพื่อรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอจากประชาชนในพื้นที่ โดยเฉพาะความห่วงใยจากประชาชนที่มีความกังวลในเรื่องผลกระทบและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสิ่งแวดล้อม การจัดการน้ำ หรือผลกระทบต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในปัจจุบัน เพื่อให้การพัฒนาจังหวัดปราจีนบุรีเป็นไปอย่างยั่งยืน และตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชนในพื้นที่อย่างแท้จริงก่อนส่งสรุปความคิดเห็นที่ได้รับเสนอต่อ ครม.ต่อไปหลังสิ้นเดือน ก.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานพบกลุ่มผู้ประชุมแบ่งเป็น 2 ฝ่าย ประกอบด้วย กลุ่มเห็นด้วยกับ eec มีประมาณ 400 - 500 คน และ กลุ่มไม่เห็นด้วยส่วนใหญ่เป็นประชาชนที่มาจากอำเภอกบินทร์บุรีอำเภอมหาโพธิ์ ประมาณ 100 คน โดยกลุ่มไม่เห็นด้วยได้เตรียมป้ายผ้า และป้ายโปสเตอร์กระดาษ “ไม่เอา EEC” ตั้งแต่ก่อนร่วมเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น
นางนวรถ ปะรักมะสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักแผนกภาพรวมอีอีซี
ในระหว่างการประชุมแสดงความเห็นพบผู้ร่วมแสดงความคิดหลัก ๆ อาทิ นายสุนทร คมคาย ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) , นางระตะนะ ศรีวรกุล ประธานเครือข่ายเกษตรอินทรีย์ปราจีนบุรี , นายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม กลุ่มปราจีนบุรีเข้มแข็งต่างแสดงความเห็นโดยรวม สรุปว่า ..
นางระตะนะ ศรีวรกุล ประธานเครือข่ายเกษตรอินทรีย์
... คัดค้านการเสนอให้ปราจีนบุรีเป็นพื้นที่ขยายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ให้ยุติการ โครงการจัดจ้างที่ปรึกษาจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายการขยายพื้นที่เขต EEC จนกว่าจะมีการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ (SEA) อย่างมีส่วนร่วมจากประชาชน ทุกระดับ โดยเสนอให้จัดเวทีแลกเปลี่ยนข้อดี-ข้อเสียระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคมอย่างโปร่งใส กฎหมาย EEC จะส่งผลกระทบต่อยกเลิกผังเมืองเดิมและจัดทำผังการใช้ประโยชน์ที่ดินใหม่
นายวีระพันธ์ ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี
โดยไม่ผ่านกระบวนการมีส่วนร่วม ส่งผลให้พื้นฐานเศรษฐกิจของภาคตะวันออก เช่น เกษตรกรรมและการท่องเที่ยว ถูกลดความสำคัญและอาจเสียสิทธิในที่ดินปราจีนบุรีเป็นแหล่งผลิตอาหารและสมุนไพรสำคัญของประเทศ มีความอุดมสมบูรณ์ทั้งทรัพยากรธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยว แต่การขยายพื้นที่อุตสาหกรรมจะยิ่งทำลายระบบนิเวศ เกิดมลพิษในแม่น้ำ และส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของชุมชนโดยรวม
นายสุนทร คมคาย ประธานเครือข่ายทสม.
นอกจากนี้โรงงานอุตสาหกรรมเดิมจำนวนมากอยู่แล้ว ยังเผชิญกับปัญหา แรงงานต่างด้าว ภาวะมลพิษซ้ำซาก ทั้งกลิ่นเหม็น น้ำเสีย และเสียงดัง โดยเฉพาะการเข้ามาของ “ทุนจีนเถื่อน-จีนเทา” ที่ดำเนินกิจกรรมรีไซเคิล หล่อหลอม และฝังกลบขยะอุตสาหกรรม ยิ่งสร้างภาระให้ชุมชน หากยังเดินหน้าผลักดันให้เป็นเขต EEC อาจทำให้ปราจีนบุรีกลายเป็น “ถังขยะอุตสาหกรรม” ของกลุ่มทุนต่างชาติในอนาคต ...
นายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม กลุ่มปราจีนบุรีเข้มแข็ง
ระหว่างที่นายสุเมธ เหรียญพงษ์นาม กลุ่มปราจีนบุรีเข้มแข็ง ความคิดเห็นนั้นกลุ่มไม่เห็นด้วยกับ EEC ได้นำป้ายผ้าความยาวกว่า 20 เมตรมาขึงกลางหน้าเวทีประชุมพร้อมส่งเสียงไม่เอา EEC จนต้องปิดเวทีการประชุมผู้ร่วมประชุมแยกย้าย ทั้งนี้เหตุการณ์ทั่วไปปกติไม่รุนแรง
นางนวรถ ปะรักมะสิทธิ์ ผู้อำนวยการสำนักแผนภาพรวมสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) หรือ EEC กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้เป็นการรับฟังความคิดเห็นทุกภาคส่วน ได้ส่งหนังสือเชิญ มีคนลงทะเบียน 650 คน และวอร์คอินอีกส่วนหนึ่ง
พบประชาชนมี 2 ส่วน ประชาชนต้องการ และ กลุ่มภาคประชาสังคม โดยพบว่ากลุ่มประชาสังคมแสดงความคิดเห็นยึดเวทีแสดงความคิดเห็นส่วนฝ่ายประชาชนต้องการไม่มีโอกาสแสดงความเห็นถูกยึดเวทีจากกลุ่มประชาสังคม
ในวันนี้ทาง EEC ได้นำเสนอภาพรวมการพัฒนา EEC ทั้ง 3 จังหวัดที่ผ่านมาคือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง ดำเนินการอย่างไร ผลเป็นอย่างไร และ ในส่วนของอาจารย์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ได้ประชุมกลุ่มย่อยก่อนหน้านี้แสดงจุดเด่น ข้อกังวลที่จัดกลุ่มย่อยที่ได้รับผ่านมา
ต่อไปเสนอร่างรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ นำผลการศึกษาฯ เสนอต่อคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) เพื่อพิจารณา ก่อนเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อทราบ ทั้งนี้ หากเห็นชอบให้มีการขยายพื้นที่ฯ สกพอ จะจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกาขยายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (เพิ่มเติม) เพื่อเสนอ กพอ. และ ครม. พิจารณาให้ความเห็นชอบ ก่อนประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป นางนวรถ กล่าว
ด้านนายสุนทร คมคาย ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน (ทสม.) กล่าวว่า ไม่เห็นด้วย ในฐานะเป็นแกนนำ ของคน ปราจีนบุรี เข้มแข็ง เราคิดว่า เสียงของพี่น้องชาวปราจีนบุรีปกติขอตัดสินของ ความสำคัญดินน้ำป่า เห็นความสำคัญ ด้วยตัวเองของพี่น้องชาวปราจีนบุรี ขอการพัฒนาแบบปกติการพัฒนาจากท้องถิ่นเห็นแก่คนตัวเล็กตัวน้อยคนรากหญ้า พัฒนาเพิ่มเติบโตขึ้นมีรายได้ที่ดีขึ้นไป ไม่ได้การลงทุน จากต่างชาติ แรงงานต่างด้าว นายสุนทรกล่าว
โดย...มานิตย์ สนับบุญ -ข่าว/ณัฐนันท์ –ภาพ/ ปราจีนบุรี ###