พิจิตรวิกฤตแล้ว!ผู้ว่าฯลงพื้นที่เยี่ยมชาวบ้านเหตุแม่น้ำน่าน-แม่น้ำยมล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนที่ลุ่มต่ำริมน้ำ

พิจิตรวิกฤตแล้ว!ผู้ว่าฯลงพื้นที่เยี่ยมชาวบ้านเหตุแม่น้ำน่าน-แม่น้ำยมล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนที่ลุ่มต่ำริมน้ำ





Image
ad1

เมื่อวันที่  1 กันยายน 2568  นางสาวธนียา นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่เยี่ยมราษฎรที่มีบ้านเรือนอยู่ริมแม่น้ำน่านชุมชนหลังสถานีรถไฟพิจิตร พื้นที่เขตเทศบาลเมืองพิจิตร ที่ได้รับผลกระทบจากระดับน้ำที่เพิ่มขึ้น โดยข้อมูลจากโครงการชลประทานพิจิตรที่รายงานว่าระดับน้ำในแม่น้ำน่านที่สถานีวัดระดับน้ำ N7A บ้านราชขวัญ อ.เมืองพิจิตร วันนี้ระดับน้ำเพิ่มขึ้น 14 ซม. จึงทำให้ระดับน้ำสูงกว่าตลิ่งฝั่งขวา 24 ซม. จึงทำให้หลายพื้นที่ริมแม่น้ำน่านในจุดที่ลุ่มต่ำเกิดน้ำท่วมบ้านเรือนราษฎรแล้วเกือบ 100 หลังคาเรือน 

โดยเฉพาะที่ ต.ท่าฬ่อ  ต.ในเมืองพิจิตร ส่วนระดับน้ำในแม่น้ำยมก็เอ่อล้นตลิ่งท่วมในพื้นที่ ต.รังนก ต.สามง่าม  ต.กำแพงดิน อ.สามง่าม  , อ.โพธิ์ประทับช้าง น้ำได้ท่วมพื้นที่ ต.วังจิก  ต.โพธิ์ประทับช้าง  ต.ไผ่ท่าโพ  ต.ไผ่รอบ โดยพื้นที่ที่น้ำท่วมส่วนใหญ่เป็นทุ่งนาข้าวที่เกษตรกรเกี่ยวข้าวหนีน้ำไปหมดแล้วตั้งแต่กลางเดือน สิงหาคม 68 ในส่วนของน้ำที่ท่วมบ้านเรือนราษฎรส่วนใหญ่ คือ บ้านที่อยู่ริมแม่น้ำยม ซึ่งชาวบ้านคุ้นชินกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแบบนี้เป็นประจำมายาวนานหลายสิบปีแล้ว จึงทำให้ทุกๆบ้านมีเรือเป็นพาหนะในช่วงน้ำท่วมนี้อีกด้วย

ส่วนถนนในหมู่บ้านเส้นทางสามง่าม – บ้านใหม่ –รังนก ที่บริเวณบ้านจระเข้ผอมน้ำจากแม่น้ำยมเอ่อล้นตลิ่งท่วมช้ามถนนสูงประมาณ 10 ซม. ชาวบ้านยังคงใช้สัญจรไปมาได้ แต่คาดว่าในอีก 2-3 วัน จากเหตุผลตกหนักภาคเหนือตอนบนมวลน้ำจำนวนมหาศาลก็คงจะไหลมายังแม่น้ำยม-แม่น้ำน่าน รวมถึงน้ำจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ น้ำจากแม่น้ำเข็กหรือแม่น้ำวังทอง รวมถึงน้ำจาก อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก ก็คงจะไหลมาเข้าพื้นที่ อ.สากเหล็ก อ.วังทรายพูน อ.ทับคล้อ ซึ่งอาจจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมหนักในพื้นที่ จ.พิจิตร 

นางสาวธนียา  นัยพินิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจิตร กล่าวว่า สถานการณ์ปัจจุบันยอมรับว่าเกิดน้ำเอ่อล้นตลิ่งในพื้นที่ล่มต่ำบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ แม่น้ำยม-แม่น้ำน่าน แล้วจริง แต่ขณะนี้พยายามปกป้องพื้นที่เศรษฐกิจของเทศบาลเมืองพิจิตรเอาไว้ให้ได้ ส่วนพื้นที่การเกษตรฝั่งขวาของแม่น้ำยมชาวนาเกี่ยวข้าวเสร็จหมดแล้ว ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม 68 จึงไม่มีความเสียหายด้านการเกษตรมากนัก ส่วนเส้นทางคมนาคมบนถนนสวยหลักที่เข้า-ออก จ.พิจิตร ยังคงใช้เส้นทางคมนาคมได้ตามปกติ ดังกล่าวอีกด้วย

โดย...สิทธิพจน์ เกบุ้ย/จ.พิจิตร