เตรียมขนมทำบุญเดือนสิบ ประเพณีชาวใต้สืบทอดมาแต่โบราณ

เตรียมขนมทำบุญเดือนสิบ  ประเพณีชาวใต้สืบทอดมาแต่โบราณ





Image
ad1

ย่างเข้าเดือนสิบ ชาวใต้ต่างแดน ทำงานอยู่ไกล ใกล้แค่ไหน คงเตรียมตัวกลับสู่บ้านเกิด เพื่อเดินทางมาร่วมทำบุญ “วันสารทไทย” ปีนี้ตรงกับวันจันทร์ 8 กันยายน เดือน 10 ซึ่งการทำบุญแบ่งออกเป็นสองวาระ คือ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 หรือบางคนเรียกว่า วันรับตายาย  บางท้องถิ่นเรียกวันรับเปรต แต่งานทำบุญครั้งนี้ เพื่อร่วมอุทิศส่วนกุศลให้กับบุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว ส่วนวันส่งเปรต ตรงกับวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10

ซึ่งการไปทำบุญเลือกวัดใกล้บ้าน ที่บรรพบุรุษ ปู่ ย่าตา ยาย เคยอาศัยอยู่ในอดีต โดยมีการยกหมับ อาหารคาวหวานไปถวายพระภิกษุ  อีกส่วนหนึ่งจะนำอาหารไปแขวนไว้ตามร้านบริเวณหน้าวัด (ทางวัดจัดสร้างขึ้นมาเป็นนั่งร้าน) เพื่อวางอาหารไว้ที่สูงจัดแบ่งเป็น 2 แบบ คือร้านนอก ร้านใน เพื่อจัดไว้ให้กับเปรต ส่วนใหญ่บางคนจะทำอาหารที่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วชอบทานในอดีตไปถวายพระ ส่วนประเภทขนมหลักๆที่ขาดไม่ได้ คือขนมเจาะหู ขนมลา ขนมข้าวพอง ข้าวต้ม บางท้องถิ่นทำขนมจู้จุ่น (แบนๆคล้ายไข่ดาวทำจากแป้ง)

การทำร้านเปรตนั้น บางวัดจัดทำเป็นเสาสูงราดน้ำมัน ไม่ให้ใครขึ้นไปชิงเปรตก่อนเวลา จะเกิดไหลลื่นตกลงมา ซึ่งบริเวณร้านเปรตมีสายสิญจน์วงรอบ โดยที่ปลายสายสิญจน์ข้างหนึ่งจะโยงมาอยู่ที่พระภิกษุชักบังสุกุล ซึ่งชาวบ้านที่มาร่วมทำบุญกรวดน้ำให้กับผู้ล่วงลับ ก่อนที่จะถึงช่วงชิงเปรตได้เมื่อพิธีเสร็จ พระดึงสายสิญจน์ เป็นสัญญาณอันว่า ทุกคนพร้อมที่ไปแย่งชิงอาหาร ของว่างที่วางไว้บนร้านเปรต  ซึ่งอาหารเหล่านนี้ใครที่มาไปรับประทานที่บ้าน ถือว่าได้กุศลและเป็นสิริมงคลกับตัวเอง

งานบุญเดือนสิบ มีความเชื่อว่าที่สืบทอดกันมาตั้งแต่สมัยโบราณ การได้กลับบ้านเกิดเพื่อมาร่วมทำบุญบรรพบุรุษ จะได้บุญกุศล  เพื่อความเจริญก้าวหน้าในการทำมาหากินในอาชีพ การค้า และอยู่เย็นเป็นสุข จนกลายเป็นวัฒนธรรมและประเพณีสำคัญของชาวใต้ด้ามขวานทองที่สืบทอดกันมายาวนาน