หอการค้าใต้ฝาก “รัฐบาลใหม่” เร่งแก้วิกฤตเศรษฐกิจวูบ-พืชผลเกษตรตกต่ำ


นายกรกฎ เตรานนท์ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (พัทลุง สงขลา นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร) เปิดเผยว่า ภาคใต้เศรษฐกิจตัวสำคัญต่างตกต่ำและชะลอตัวทั้งการท่องเที่ยวเรื่องการเกษตรผลไม้ ข้าว ปศุสัตว์ อีกทั้งหนี้ครัวเรือนและหนี้ของแรงงาน ซึ่งต่างได้ส่งผลต่อกำลังซื้อที่มีผลทำให้เศรษฐกิจต้องอ่อนแอลง
“เศรษฐกิจการเกษตรฤดูผลไม้ ข้าว ราคาต่างตกต่ำเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 50 % เช่น ข้าวประมาณ 10,000 บาท / ตัน ที่มาเหลืออยู่ประมาณ 5,000 บาท / ตัน ฯลฯ จะผลต่อฤดูทำนาถัดไป ซึ่งก็ต้องชะลอจำนวนหนึ่งหากหยุด 1 ฤดู ก็ต้องว่างงานประมาณ 4 เดือน แรงงานกลุ่มการเกษตรต้องเกิดการว่างงาน แล้วจะสนับสนุนช่วยเหลือกันอย่างไร” นายกรกฎ กล่าว และว่า
เรื่องภาษีกับสหรัฐที่จะมีการแลกเปลี่ยน เช่นการนำเข้าอาหารสัตว์ กากถั่ว ข้าวโพด ซึ่งราคาจะต่ำกว่าของไทย และในขณะที่เงินบาทแข็งค่าก็สามารถนำเข้าเก็บได้ปริมาณมาก แต่จะส่งผลต่อเกษตรกรไทย จึงจะทำอย่างไรให้เกษตรกรอยู่ได้
“ส่วนพืชการเกษตรของไทยที่ส่งออกไปจีน อีกทั้งโครงการที่ภาคเอกชนเสนอไปยังรัฐบาลที่แล้ว จะแก้ไขดำเนินการอย่างไรและจะเดินต่ออย่างไร ภาคเอกช ผู้ประกอบการ จึงมีคำถามที่เสนอถึงรัฐบาลใหม่จัดตั้งแล้วเสร็จ ที่จะต้องมีภาระทันที”
ทางด้าน ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการ ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ รายงานการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคมโดยจากการสัมภาษณ์และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนว่าสิ่งที่คาดหวังและต้องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
ซึ่งประชาชนและนักวิชาการได้เสนอแนะต่อรัฐบาล 1.มีความคาดหวังให้รัฐบาลใหม่ออกมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน เช่นลดราคาพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า แก๊ส และควบคุมราคาสินค้าที่จำเป็น ตลอดถึงลดการผูกขาดตลาดสินค้าเกษตรและพลังงาน พร้อมทั้งปรับโครงสร้างภาษีน้ำมัน พลังงานและภาษีอื่น ๆ อย่างเหมาะสม เพื่อลดภาระรายจ่ายและควบคุมค่าครองชีพ
2. ต้องการให้ออกนโยบายที่ช่วยแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนเป็นระบบ ปรับโครงสร้างหนี้จัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำให้เกษตรกร และผู้มีรายได้น้อย รวมถึงให้ความรู้ทางการเงินเพื่อป้องกันการเกิดหนี้ในอนาคต
3.ให้ช่วยหาแนวทางเพื่อยกระดับรายได้สอดคล้องกับค่าครองชีพ โดยการปรับค่าแรงขั้นต่ำอย่างเป็นระบบ พร้อมทั้งสร้างงานสาขาใหม่ เช่น ดิจิทัล เทคโนโลยีสีเขียว และพลังงานสะอาด ขณะเดียวกันจัดให้มีการพัฒนาทักษะแรงงานเพื่อให้มีความพร้อมในการใช้เทคโนโลยีใหม่ เพื่อรองรับต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
4. และต้องการให้รัฐบาลใหม่ให้ความสำคัญกับภาคเกษตร ซึ่งเป็นรากฐานทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของประเทศ โดยการส่งเสริมสนับสนุนในการทำเกษตรสมัยใหม่ โดยใช้เทคโนโลยีเพื่อลดต้นทุนเพิ่มผลผลิตเพิ่มคุณภาพ รวมถึงส่งเสริมให้เกิดการรวมตัวของเกษตรกรเพื่อเพิ่มอำนาจการต่อรอง ตลอดจนส่งเสริมผลผลิตทางการเกษตรแปรรูป เพื่อต่อยอดและสร้างมูลค่าเพิ่มหาตลาดเพื่อรองรับผลิตภัณฑ์.