พิชิต “ภูสอยดาวหน้าฝน” ชมธรรมชาติทุ่งหญ้า ดอกไม้ สายหมอกกลางขุนเขา

พิชิต “ภูสอยดาวหน้าฝน” ชมธรรมชาติทุ่งหญ้า ดอกไม้ สายหมอกกลางขุนเขา





Image
ad1

ช่วงเดือนสิงหาคม-ธันวาคมของทุกๆปี นักเดินทางสายธรรมชาติเริ่มเก็บกระเป๋า แพ็คเป้ เตรียมตัวเดินทางพิชิตป่าชมธรรมชาติ  กลางขุนเขา ซึ่งเป็นช่วงเดือนที่ดอกไม้ ต้นไม้ เขตป่าร้อนชื้นงดงามมาก เนื่องจากเป็นช่วงปลายฤดูฝน เตรียมย่างเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้

หลายๆพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะแถบภาคเหนือช่วงนี้เริ่มมีอากาศที่เย็นสบาย เหมาะสำหรับนักเดินป่า สายธรรมชาติ เนื่องจากป่าไม้กำลังเขียวขจี หมอกยามเช้า ดอกไม้นานาพันธุ์บานสะพรั่ง เติมสีสันความงดงามให้ผืนป่า แต่บางช่วงต้อเผชิญกับลม ฟ้า อากาศเมืองไทยที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอด อาจเจอฝนตกบ้าง ที่เป็นอุปสรรคกับนักเที่ยวท่องเที่ยวบ้าง

“ภูสอยดาว” ถือว่าเป็นผืนป่า ยอดเขาที่สวยงามอีกแห่งที่บรรดานักเดินป่ามีความฝันอยากจะเดินทางไปพิชิต นอนกลางเต้นท์สัมผัสกับธรรมชาติสักครั้ง ซึ่ง “อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว” ตั้งอยู่บริเวณพื้นที่ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิษถ์ ที่มีอาณาจักรกว้างใหญ่ไพศาล ครอบคลุมหลายอำเภอ บางแห่งเป็นพื้นที่ติดกับรอยตะเข็บอำเภอชาติตระกาล จังหวัดพิษณุโลก

นึกถึง “ภูสอยดาว” อีกมนต์เสน่ห์ที่ธรรมชาติรังสรรค์สวยงาม ทั้งผืนป่าสนธรรมชาติ ขึ้นเรียงรายสุดลูกหู ลูกตา ยามเช้ามาเมื่อสัมผัสสายหมอกขาวโพนจะมีความรู้สึกเหมือนยืนอยู่ในเทพนิยาย  จะทำให้นักเดินป่าได้สูดอากาศบริสุทธิ์ ดื่มดำกับธรรมชาติอย่างเต็มอิ่ม

อีกไฮไลท์หนึ่งที่พลาดไม่ได้ การเดินป่าพิชิตภูสอยดาว จะได้สัมผัสกับทุ่งดอกหญ้าที่ใหญ่สุดของเมืองไทย ยิ่งถ้าเดินทางมาในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน  เสมือนกับเดินอยู่ในสวนดอกไม้นานาพันธุ์ ที่ดูสบายตา สบายใจ เนื่องจากเป็นช่วงฤดูฝนดอกไม้มีการเจริญเติบโตงดงาม บางชนิดดอกเบ่งบาน ไม่ว่าจะเป็นดอกหงอนนาค ดอกสร้อยสุวรรณ และดอกหญ้าหอม

ยิ่งถ้าเป็นช่วงฤดูหนาว จะได้สัมผัสดอกกระดุมเงิน กล้วยไม้รองเท้านารีอินทนนท์ บานสะพรั่ง ดื่มดำกับต้นเมเปิลผลัดใบสีแดง สัมผัสแสงแดดที่เบาบางส่องมายามเช้า พร้อมกับสายหมอกขาวๆ เหมือนภาพวาดในฉากละคร

ที่สำคัญนักเดินป่า ที่จะไปพิชิตภูสอยได้ ต้องมีความพร้อมทางร่างกายและจิตใจ เนื่องจากระยะทางเดินป่าภูสอยดาว รวมๆราว 7 กิโลเมตร ซึ่งบางช่วงเป็นภูเขาลาดชันบ้างในบางช่วง แต่นักเดินป่ามีความมุ่งมั่น ลุยป่า แต่บางช่วงมีที่พักริมทางให้หายเหนื่อย ดื่มน้ำ เติมพลังบ้าง ยิ่งเดินมายังเนินส่งญาติ เนินปราบเซียน เนินป่าก่อ เนินเสือโคร่ง และที่ทุกคนจะต้องจดจำไปทั้งชีวิต คือ “เนินมรณะ” เป็นช่วงที่ชันที่สุดของการพิชิตป่าภูสอยดาว แต่เมื่อถึงจุดหมายทุกคนหายปริทิ้ง ได้เห็นความงดงามวิว ทิวทัศน์ มองเห็นธรรมชาติด้านบนที่ดูแปลกตา แต่ชื่นใจกับความงดงาม

ซึ่งในระหว่างทางแต่ละเนินได้สัมผัส น้ำตกภูสอยดาวจนถึงจุดหมายปลายกางเต้นท์ จนมาถึง “ลานภูสอยดาว” เหมือนยืนอยู่อีกโลกหนึ่งของเมืองธรรมชาติงดงาม ร่มรื่น ท่ามกลางป่าสนทุ่งหญ้าเขียวขจี ซึ่งการเดินป่าแห่งนี้ อย่างน้อยพิชิตความทรหด พลังแห่งร่ายกาย ว่ามีความแข็งแรงแค่ไหน ถ้าประเภทมือใหม่ หัดเดิน ต้องเตรียมตัวกันสักนิดเรื่องสภาพร่างกาย

เพราะ “อุทยานภูสอยดาว” ดินแดนปราบเซียนของนักเดินป่า ที่บทพิสูจน์ถึงความโหด ความสนุกท้าทาย เพื่อแลกกับความสวยงามทางธรรมชาติอยู่เบื้องหน้า ท้าพิสูจน์ให้ทุกคนมาสัมผัสกัน