ปูพรมบุกค้น 5 จุด ทลายโรงงาน รวบตัวแม่ผลิตยาแก้ไอปลอมรายใหญ่

ปูพรมบุกค้น 5 จุด ทลายโรงงาน รวบตัวแม่ผลิตยาแก้ไอปลอมรายใหญ่





Image
ad1

อย. ร่วม (CIB) ค้น 5 จุด ทลายโรงงาน รวบตัวแม่ผลิตยาแก้ไอปลอมรายใหญ่ เชื่อมโยงเครือข่ายเดิม ยึดยาแก้ไอ 172,000 ขวด มูลค่ากว่า 20 ล้าน

สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา โดย นพ.สุรโชค  ต่างวิวัฒน์ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา, กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย พล.ต.ท.จิรภพ  ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.ณัฐศักดิ์  เชาวนาศัย รอง ผบช.ก., พล.ต.ต.โสภณ  สารพัฒน์ รอง ผบช.ก., เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปคบ. โดยการสั่งการของ พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์  บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.อนุวัฒน์  รักษ์เจริญ, พ.ต.อ.พัฒนพงศ์  ศรีพิณเพราะ, พ.ต.อ.ชัฏฐ  นากแก้ว, พ.ต.อ.สำเริง  อำพรรณทอง รอง ผบก.ปคบ., พ.ต.อ.วีระพงษ์  คล้ายทอง ผกก.4 บก.ปคบ, ปฏิบัติการกวาดล้างเครือข่ายผู้ผลิตและจำหน่ายยาแก้ไอปลอมรายใหญ่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และ จ.ปทุมธานี จับกุมผู้ต้องหา 1 ราย ตรวจยึดยาแก้ไอปลอมกว่า 172,000 ขวด พร้อมวัตถุดิบและอุปกรณ์การผลิต รวมมูลค่าเกิน 20 ล้านบาท

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึด นำโดย พ.ต.ท.พีระ พันธุวงศ์ สว.กก.4 บก.ปคบ. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. และเจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)

สืบเนื่องจากกองกำกับการ 4 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคได้มีการเฝ้าระวังหลังพบการใช้ยาแก้ไอ ยาแก้แพ้ ผิดวัตถุประสงค์ ในกลุ่มวัยรุ่น โดยนำมาผสมกับน้ำกระท่อมเพื่อสร้างความมึนเมา หรือที่รู้จักกันในชื่อ "4x100" ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นให้กลุ่มวัยรุ่นยกระดับไปสู่การเสพสารเสพติดอื่นที่รุนแรงมากขึ้น

โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าตรวจค้นเครือข่ายโรงงานผลิตยาแก้ไอปลอม จนกระทั่งสืบสวนหาข่าวรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่ากลุ่มผู้ผลิตยาแก้ไอปลอมเครือข่ายเดิม ย้ายสถานที่ผลิตและกับเก็บยาแก้ไอปลอมอีกโดยมีพื้นที่เกี่ยวข้องอยู่ใน กรุงเทพมหานคร และ จ.ปทุมธานี

โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับและหมายค้นได้ในที่สุด และสามารถจับกุมตัว น.ส.ไอลดา (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลจังหวัดปทุมธานี ในข้อหา “ร่วมกันผลิตยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันผลิตยาปลอม”

ต่อมาในวันที่ 22 กันยายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้ร่วมกับกับเจ้าหน้าที่จากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา นำหมายค้นเข้าตรวจค้นสถานที่ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตและการขายยาแก้ไอปลอม จำนวน 5 จุด ดังนี้

1. สถานที่ผลิตและแบ่งบรรจุ โกดังแห่งหนึ่ง ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ตรวจยึดยาแก้ไอปลอม วัตถุดิบ อุปกรณ์การผลิต ดังนี้
1) ยาแก้ไอสำเร็จรูปปลอม ยี่ห้อ “ดาทิสซิน” จำนวน 36,400 ขวด
2) ขวดพลาสติกบรรจุยาแก้ไอปลอม (ยังไม่ติดฉลาก) จำนวน 3,200 ขวด
3) ขวดพลาสติกเปล่าสำหรับใช้บรรจุยาแก้ไอปลอม จำนวน 123,467 ขวด
4) สติ๊กเกอร์ฉลากยาแก้ไอปลอม จำนวน 1 กระสอบ

2. สถานที่ผลิต(ต้มยาแก้ไอ) โกดังแห่งหนึ่ง  ต.ลาดหลุมแก้ว อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี ตรวจยึดวัตถุดิบ ขวดบรรจุภัณฑ์ และอุปกรณ์ในการผลิต ที่ใช้ในการต้มยาแก้ไอ 
1) สารเคมีที่ใช้ในการผลิตยาแก้ไอปลอม จำนวน 16 รายการ
2) น้ำตาลทรายขาว 375 กก.
3) หม้อต้มสำหรับใช้ผสมยา 5 หม้อ
4) ถังพักยาขนาด 2,000 ลิตร จำนวน 2 ถัง
5) แก๊สหุงต้มขนาด 48 กก. จำนวน 11 ถัง
6) เครื่องชั่ง เครื่องบรรจุ เครื่องติดฉลาก เครื่องตอกฝา เครื่องปั๊มลม จำนวน 11 รายการ
7) อุปกรณ์การผลิตอื่น เช่น ขวดเปล่า ฉลากยา กล่องกระดาษ อุปกรณ์ตัก บรรจุยาฯ ฯลฯ

3. สถานที่จัดเก็บและส่งยาแก้ไอปลอม ภายในบ้านพัก ภายในซอยกำนันแม้น 12 แขวงบางขุนเทียน เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร ตรวจยึดยาแก้ไอปลอมยี่ห้อ Datissin จำนวน 5,750 ขวด

4. ห้องพักย่านถนนพระราม 2 ซอย 54 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพทหานคร ตรวจยึด
1) สมุดบัญชีเงินฝากธนาคารที่เกี่ยวเนื่องกับการกระทำความผิด จำนวน 10 บัญชี
2) โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต จำนวน 4 เครื่อง
3) หนังสือเดินทาง จำนวน 2 เล่ม
4) เครื่องนับธนบัตร สมุดจดบันทึกข้อมูลการซื้อขายยาแก้ไอ จำนวน 2 รายการ  

5. สถานที่ผลิต ภายในโกดังแห่งหนึ่ง หมู่ 13 ต.ลำลูกกา อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี ตรวจยึดวัตถุดิบ ขวดบรรจุภัณฑ์ และอุปกรณ์ในการผลิต ที่ใช้ในการต้มยาแก้ไอ
1) ถังกวน ถังบรรจ จำนวน 107 ถัง
2) เตาแก๊ส เครื่องบรรจุ เครื่องหมุนฝา จำนวน  19 รายการ
3) ขวดเปล่า วัตถุดิบอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิต จำนวน 116 รายการ

รวมตรวจค้น 5 จุดตรวจยึด ยาแก้ไอปลอมรวมทั้งสิ้น 170,000 ขวด โดยเป็นยาแก้ไอปลอม ยี่ห้อ “ดาทิสซิน” จำนวนกว่า 40,000 ขวด ขวดเปล่ารอการบรรจุกว่า 120,000 ขวด รวมถึงวัตถุดิบอุปกรณ์ในการผลิตจำนวนมาก รวมมูลค่าของกลางกว่า 20,000,000 บาท โดยจุดที่ใช้ในการผลิตและแบ่งบรรจุ มียอดการผลิตยาแก้ไอ วันละ 30,000 ขวด คิดเป็นมูลค่าวันละประมาณ 1,500,000 บาท โดยทำมาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน

จากการสืบสวนพบว่าเครือข่ายผู้กระทำความผิด จะย้ายสถานที่ผลิตอย่างสม่ำเสมอ โดยกระจายจุดผลิต บรรจุ และกระจายสินค้าให้แยกห่างจากกันในหลายพื้นที่ จากนั้นนำส่วนผสม วัตถุดิบ และบรรจุภัณฑ์จากสถานที่ต่างๆ มาลักลอบผลิต เพื่อให้ยากแก่การติดตาม ตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเป็นเครือข่ายเดิมที่เคยถูกเข้าตรวจค้นดำเนินคดีมาก่อนหน้านี้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปคบ. ได้เข้าทำการตรวจค้นไปแล้ว เมื่อเดือนสิงหาคม 2567, มกราคม 2568, เมษายน 2568 และมิถุนายน 2568 ที่ผ่านมา แต่ยังกระทำผิดซ้ำซากโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้บริโภค หวังแต่ผลประโยชน์ทางด้านธุรกิจ สร้างปัญหาให้แก่สังคมส่วนรวม

เบื้องต้นการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยา พ.ศ.2510
1. ฐาน “ผลิตและขายยาโดยไม่ได้รับอนุญาต” โทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี และปรับไม่เกิน10,000 บาท
2. ฐาน “ผลิต และขายยาปลอม” โทษจำคุกตั้งแต่ 3 ปี ถึงตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 50,000 บาท

นพ. วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ร่วมมือกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) จนสามารถจับกุมเครือข่ายลักลอบผลิตยาน้ำแก้ไอปลอมได้สำเร็จในครั้งนี้ โดยขอเตือนประชาชนให้ระมัดระวังการนำยาแก้แพ้และยาแก้ไอมาใช้ในทางที่ผิด เช่น การนำไปผสมในเครื่องดื่ม “4x100”

ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงต่อสุขภาพ เนื่องจากการลักลอบผลิตยาปลอม โดยสถานที่ผลิตเหล่านี้ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานการผลิตที่ดี (GMP) และไม่ถูกสุขลักษณะ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์ที่ได้อาจปนเปื้อนและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค