ผู้ว่าฯศรีสะเกษแจ้งเตือนชาวบ้านริมตลิ่งอพยพด่วนหลังเขื่อนหัวนาวิกฤตน้ำกักเก็บเกินจุ

ผู้ว่าฯศรีสะเกษแจ้งเตือนชาวบ้านริมตลิ่งอพยพด่วนหลังเขื่อนหัวนาวิกฤตน้ำกักเก็บเกินจุ





Image
ad1

ด่วน!“เขื่อนใหญ่ศรีสะเกษปักธงแดงแล้ว! ผู้ว่าฯ ลงพื้นที่เขื่อนหัวนา สั่งแจ้งเตือนชาวบ้านอพยพ หลังน้ำวิกฤตเกินความจุ หวั่นท่วมพื้นที่เกษตรกว่า 6,000 ไร่”

สถานการณ์น้ำในจังหวัดศรีสะเกษยังน่าเป็นห่วงอย่างยิางหลังจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องในช่วงวันที่ 17–23 กันยายนที่ผ่านมา ส่งผลให้มีปริมาณน้ำหลากจำนวนมากไหลลงแม่น้ำชี และแม่น้ำมูล จนระดับน้ำในเขื่อนหัวนาสูงเกินความจุถึงกว่า 152% ล่าสุดวันนี้ 28 กันยายน 2568 นายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์ด้วยตนเอง พร้อมปักธงแดงแจ้งเตือนประชาชนริมตลิ่งให้รีบขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง เตรียมพร้อมอพยพทุกเมื่อ

ที่เขื่อนหัวนา อำเภอกันทรารมย์ เจ้าหน้าที่ต้องเปิดบานประตูระบายน้ำทั้ง 14 ช่อง เพื่อเร่งระบายน้ำลงสู่แม่น้ำมูล หลังพบว่าระดับน้ำเพิ่มขึ้นกว่า 20 เซนติเมตรในรอบ 24 ชั่วโมง โดยขณะนี้มีปริมาณน้ำเก็บกักถึงกว่า 99 ล้านลูกบาศก์เมตร เกินกว่าความจุที่ออกแบบไว้ และยังคงมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ข้อมูลจากโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาหัวนา ระบุว่า พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแล้วคือ 4 ตำบล ได้แก่ ตำบลหว้านคำ ตำบลหนองแก้ว ตำบลหนองงูเหลือม และตำบลตะบิ้ง อำเภอกันทรารมย์ รวมพื้นที่เกษตรกรรมเสียหายแล้วกว่า 6,495 ไร่ และมีแนวโน้มขยายวงกว้างหากฝนตกซ้ำเติม

ขณะเดียวกัน ลำห้วยสำราญ อำเภอเมืองศรีสะเกษ ซึ่งรับน้ำจากอ่างเก็บน้ำหลายแห่งทั้งในจังหวัดศรีสะเกษและสุรินทร์ ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะสูงขึ้นอีกกว่า 80 เซนติเมตรในไม่กี่วันข้างหน้า ทำให้ประชาชนในพื้นที่ริมตลิ่งเริ่มหวาดผวา หลายครอบครัวเร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง ขณะที่ปั๊มน้ำมัน ปตท.ท่าเรือ ต้องเร่งบรรจุกระสอบทรายทำแนวกั้นน้ำรอบร้านสะดวกซื้อเพื่อป้องกันน้ำท่วม

จังหวัดศรีสะเกษขอให้ประชาชนทุกพื้นที่เสี่ยง ติดตามประกาศแจ้งเตือนจากทางราชการอย่างใกล้ชิด เตรียมพร้อมอพยพ และเฝ้าระวังสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สิน ทั้งนี้ จังหวัดศรีสะเกษ โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดศรีสะเกษ ร่วมกับ เทศบาลเมืองศรีสะเกษ

และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ติดตามสถานการณ์ลงพื้นที่อย่างใกล้ชิด รวมทั้งเตรียมความพร้อมในการรับมือหากสถานการณ์น้ำยังคงเพิ่มระดับขึ้น รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการดูแลช่วยเหลือประชาชนหากได้รับผลกระทบ ทั้งในด้านการช่วยเหลือในพื้นที่เสี่ยงทันที การอพยพ และการฟื้นฟูหลังน้ำลด

พร้อมทั้งปักธงเหลืองแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้เตรียมการล่วงหน้า หากประชาชนได้รับความเดือดร้อนหรือจำเป็นต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรศัพท์แจ้งได้ที่ สาย ด่วน 199, 045-620911 และ 045-612646 ตลอด 24 ชั่วโมง

เสนาะ วรรักษ์/รายงาน