ปราจีนบุรี – ตำรวจตามรวบ 4 โจ๋ศรีชาวมหาโพธิบุกชำแหละชิ้นส่วนรถจยย.คาที่ตรวจยึดรถโรงพักประจันตคามได้เพียงข้ามวันหลัง ตามจากกล้องวงจรปิด
เมื่อวันที่ 2 ต.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรีความคืบหน้าจากกรณี เพจดังได้รับการร้องทุกข์จากหญิงสาวชาวบ้านหอย อ.ประจันตคาม ได้รับมอบอำนาจจากญาติ รถ จยย.ถูกตำรวจยึดตรวจสอบแต่งรถและท่อดังไว้ที่ สภ.ปผระจันตคาม วันต่อมา ติดตามเพื่อนำรถ จยย.คืนรถจยย.ถูกชำแหละขโมยอะไหล่ไปหลายรายการ ได้แจ้งความร้องทุกข์เป็นเป็นข่าวดัง ตามที่ได้นำเสนอรายละเอียดไปแล้วก่อนหน้า นั้น

พ.ต.อ.ชวลิต สุธรรมมาจารย์ ผกก.สภ.ประจันตคาม ภ.ประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรีกล่าวถึงความคืบหน้าว่า ตามที่เป็นข่าว สถานีตำรวจภูธรประจันตคาม ขอนำเรียนว่า เมื่อวันที่ 27 กันยายน 2568 สายตรวจรถยนต์ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ 191 ว่ามีวัยรุ่นรวมตัวกัน ลักษณะแว๊น ริมถนน ม.6 ต.บ้านหอย โดยมี ด.ต.ธนงค์ชัย ศรีทอง ผบ.หมู่(ป) สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ เป็นผู้แจ้ง และได้เรียกให้หยุดรถไว้ สายตรวจรถยนต์จึงได้ไปตรวจสอบ พบ

“รถจักรยานยนต์ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน” และ “ไม่มีสำเนาคู่มือรถแสดงขณะเรียกตรวจ” และที่สำคัญรถคันดังกล่าว“ไม่มีหมายเลขเครื่องยนต์” ซึ่งเป็นเหตุอันควรสงสัยว่า เป็นรถที่ได้มาจากการกระทำความผิด หรือใช้ในการกระทำความผิด สายตรวจรถยนต์จึงได้ทำบันทึกการตรวจยึดและผู้ขับขี่เซ็นชื่อยินยอมให้ตรวจยึดรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ในบันทึกตรวจยึด พร้อมทั้งแจ้งให้ผู้ขับขี่นำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับตัวรถไปแสดงกับพนักงานสอบสวน จากนั้นจึงนำรถคันดังกล่าวนำส่งพนักงานสอบ เพื่อดำเนินการตรวจสอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องต่อไป

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบผ่านกล้องวงจรปิดพบว่าในวันที่ 28 กันยายน 2568 เวลา 01.00 น. โดยประมาณ ได้มีกลุ่มวัยรุ่น (ไม่ทราบชื่อและจำนวน) ได้แอบลักลอบเข้ามา ในบริเวณที่เก็บรถของกลางและได้ทำการลักทรัพย์(อะไหล่รถ) ขณะนี้ทางชุดสืบสวน สภ.ประจันคาม กำลังติดตามตัวผู้กระทำความผิด มาดำเนินคดีจากการสืบสวน จากกล้อง CCTV ทราบว่า เวลา 01.00 น. โดยประมาณ พบกลุ่มวัยรุ่นชาย จำนวนสี่ราย ได้ซุ่มจอดรถอยู่บริเวณหน้าลานภักดีเดชะ ลาน ติดถนนสุวรรณาสร และได้เดินหลบกล้อง CCTV เข้ามาทางด้านหลังของ สภ.ประจันตคาม ซึ่งเป็นที่เก็บรถของกลางและรถที่ตรวจยึดมา

ด้านพ.ต.อ.มงคล โท้เป๋า ผกก.สภ.ศรีมหาโพธิ เปิดเผยว่า พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ศรีมหาโพธิร่วมกับชุดสืบสวนประจันตคาม สนธิกำลังจับกุมผู้ต้องหาขโมยชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดไว้ตรวจสอบของ สภ.ประจันตคาม ได้ในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ พร้อมรายการสิ่งของที่เป็นรถ จยย.ตระเวนขโมยจากที่อื่น-ชิ้นส่วนอะไหล่รถ จยย.ที่ขโมยจาก สภ.ประจันตคาม ได้ผู้ต้องหาเป็นเยาวนชน อายุระหว่า 14 -16 ปี รวม 4 คน ทั้งนี้เป็นการติดตามจากกล้องวงจรปิด ก่อนนำผู้ต้องหาวัยรุ่นทั้ง 4 รายนี้ ไปสอบสวนดำเนินคดีที่ สภ.ประจันตคามต่อไป และหลังจากสอบสวนและจะนำเยาวชนทั้ง 4 รายนี้มาสอบสวนมาดำเนินคดีต่ออีกในคดีโจรกรรมพื้นที่ สภ.ศรีมหาโพธิด้วย

ต่อมา เวลา 20.00 น. พ.ต.อ.ชวลิต สุธรรมมาจารย์ ผกก.สภ.ประจันตคาม กล่าวว่า หลังการจับกุม 4 โจ๋ วัย 14-16 ปี ได้พร้อมของกลางรถจักรยานยนต์ 3 คัน พร้อมชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์จำนวนมาก ภายในห้องเช่า เขตพื้นที่อำเภอศรีมหาโพธิ โดยทางชุดสืบสวน สภ.ประจันตคาม พร้อมด้วยชุดสืบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ ได้ร่วมกันติดตามไล่จากกล้องวงจรปิดทราบว่า ทั้ง 4 โจ๋หลังออกจาโรงพักผ่านตลาดสดประจันตคามมุ่งหน้าเข้าเขต อ.ศรีมหาโพธิ ได้ตามกล้องวงจรปิดทราบตัว4โจ๋ได้สนธิกำลังกับ สภ.ศรีมหาโพธิจับกุม 4 โจ๋วัยรุ่นดังกล่าว ที่เข้ามาลักถอดชิ้นส่วนอะไหล่รถ ภายในโรงจอดรถของกลางที่มีลูกกรงเหล็กและมีกุญแจล็อคประตูไว้อย่างแน่นหนา ได้ดังกล่าว

โดยสรุปเหตุการณ์ เมื่อช่วงกลางดึกของคืนวันที่ 28 กันยายน 2568 หนุ่มวัยโจ๋ ทั้ง 4 คนนี้ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มาจากบ้านพักที่อยู่ในเขตอำเภอศรีมหาโพธิ ทั้ง 4 คน โดยนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์มาคันละ 2 คน รวม 4 คน ได้จอดแวะที่ปั๊มน้ำมันสี่แยกไฟแดงประจันตคาม

จากนั้นได้รอคอยเวลาให้ดึกช่วงปลอดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจที่มักจะออกมาเดินตรวจตรารอบๆ บริเวณด้านนอก และปลอดจากประชาชนที่มาแจ้งความในเรื่องต่าง ๆ พยายามขับรถวนดูก่อนจะเข้ามาลักถอดชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ ที่เป็นของกลางที่ตรวจยึดไว้ และในช่วงดึกปลอดคน จึงได้จอดรถทิ้งไว้ และเดินหลบมุมกล้องวงจรปิดเข้ามาในบริเวณข้าง สภ.และเดินแอบไปบริเวณด้านหลัง สภ.ซึ่งเป็นที่จอดรถของจักยานยนต์ที่เป็นของกลางที่ตรวจยึดไว้ จากนั้นได้ปีนข้ามรั้วเข้าไปภายในและแอบถอดชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ไปได้จำนวนหนึ่ง ตามภาพที่ปรากฏ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาวัยโจ๋ทั้ง 4 คน ขณะนั้นได้มีผู้ปกครองของเด็กที่พักอาศัยอยู่ที่บ้านโปร่งไผ่ ม.7 ต.ท่าตูมและบ้านระเบาะไผ่ ม.5 ต.หนองโพรง ติดตามมาเยี่ยมส่วนผู้ต้องหา วัยโจ๋ อีก 2 คน พักอาศัยอยู่ที่บ้านวังสำราญ ม.10 ต.ท่าตูมและอีก 1 คนก็พักอาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ อำเภอศรีมหาโพธิ รวมทั้ง 4 คน

ซึ่งตรวจสอบแล้วไม่มีผู้ต้องหาคนใดเป็นบุตรหลานของเจ้าหน้าที่ตำรวจจากกระแสสังคมบางคนได้กล่าวว่า หากไม่ได้เป็นลูกหลานของเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วคงจะไม่มีใครเข้าไปขโมยของในโรงพักได้ ยืนยันว่ากล้องวงจรปิดมีประโยชน์ต่อการติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุทุกพื้นที่ถ้ากล้องมีมาตรฐาน

โดย...มานิตย์ สนับบุญ /ข่าว-ภาพ/ปราจีนบุรี ###