พิษพายุ "บัวลอย"ฝนตกหนักท่วมอำเภอนาดี-ประจันตคาม เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย

พิษพายุ "บัวลอย"ฝนตกหนักท่วมอำเภอนาดี-ประจันตคาม เร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย





Image
ad1

ปราจีนบุรี– พิษพายุโซนร้อนบัวลอยท่วม 2 อำเภอน้ำลดระดับเกือบปกติเหลือเฉพาะที่ลุ่มต่ำติดแควสโมง ลดระดับเอ่อท่วมเฉพาะด้านท้ายชุมชนตลาดเก่า 100 ปีหรือเฉพาะฝั่งท่าเรือเก่าติดต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรีที่ลุ่มต่ำที่สุด ขณะทางเขื่อนเก็บน้ำนฤบดินทร์จินดา หรอห้วยสโมงระบายน้ำเพิ่มจากเดิม 2.9 ล้าน ลบ.ม./วัน เนื่องจากน้ำในอ่างระดับสูงถึง 94 เปอร์เซนต์ อยู่เกินเกณฑ์

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรีความคืบหน้าจากกรณีพายุโซนร้อน "บัวลอย" ส่งผลให้น้ำท่วมใน 2อำเภอ อำเภอนาดี อำเภอประจันตคาม จังหวัดปราจีนบุรี โดยเฉพาะบริเวณ ต.แก่งดินสอ และ หมู่ 4 บ้านบุกล้วย ในอำเภอนาดี มีน้ำท่วมสูงกว่า 1.20 เมตร และท่วมถนนหลายเส้นทาง ตามรายละเอียดที่นำเสนอแล้วก่อนหน้านี้  นั้น

ความคืบหน้าล่าสุด    นางมาละนี  จินดารัตน์ หัวหน้า ปภ.จังหวัดปราจีนบุรี กล่าวว่า   กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี ภายใต้การอำนวยการของนายวีระพันธ์  ดีอ่อน ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี/ผู้อำนวยการจังหวัด ได้ติดตามสถานการณ์วาตภัย จากอิทธิพลพายุ "บัวลอย" ทำให้เกิดฝนตกหนัก และมีน้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน พืชผลทางการเกษตร เส้นทางคมนาคม ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนในพื้นที่จังหวัดปราจีนบุรี เบื้องต้น จำนวน 2 อำเภอ 4 ตำบล 16 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 182 ครัวเรือน ดังนี้   อำเภอนาดี ( 1 ตำบล 8 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 44 ครัวเรือน)  แอละ  อำเภอประจันตคาม ( 3 ตำบล 8 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 138 ครัวเรือน)

สถานการณ์พบคลี่คลายลดระดับลง และเข้าสู่ภาวะปกติและเหลือเพียงที่ลุ่มต่ำติดแควสโมงบางส่วน    อำเภอนาดี และอำเภอประจันตคาม บูรณาการร่วมกับ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)ในพื้นที่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนในการขนย้ายสิ่งของ พร้อมนำรถบรรทุกน้ำเพื่อฉีดล้างทำความสะอาดบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

ขณะเดียวกันกองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรี ได้เฝ้าระวัง ติดตามสถานการณ์ และแจ้งเตือนให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารอย่างต่อเนื่อง ทุกระยะ พร้อมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน อำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่ง ได้เตรียมความพร้อมด้านวัสดุอุปกรณ์ เครื่องมือ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เผชิญเหตุ (เคลื่อนที่เร็ว) พร้อมปฏิบัติการให้ความช่วยเหลือประชาชนได้ตลอด 24 ชั่วโมง ได้อย่างทันท่วงที

จากการลงพื้นที่พร้อมด้วยนายบุญช่วย ไชยมูล หัวหน้าฝ่ายป้องกันและปฏิบัติการ , นายสมใจ  พุทธเสนา นอภ.นาดี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแก่งดินสอ ( อบต.) , พื้นที่หมู่ 4 บ้านบุกล้วย ต.แก่งดินสอ  จากเหตุการณ์ภัยธรรมชาติน้ำหลาก ทำให้เกิดน้ำท่วมสะพานการสัญจรไม่ได้และน้ำท่วมบ้านเรือนได้รับการเสียหายนั้น   ขณะนี้สถานการณ์ปกติแล้ว ในการใช้รถใช้ถนน และกำลัง ซ่อมเปลี่ยนเดินท่อ PVCประปาใหม่ บนสะพานเพราะน้ำพัดเสียหายส่วนผู้ได้รับความเดือดร้อนก็ขัดล้างทำความสะอาดบ้านเรือน เพื่อเข้าอยู่อาศัย ต่อไป

และ สำรวจพื้นที่ติดตั้งสะพานเบลีย์ร่วมกับ ทีมวิศวกร จากศูนย์ ปภ. เขต 3 ปราจีนบุรี  ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านทับไทร เพื่อเป็นเส้นทางสัญจรชั่วคราว ให้กับชาวบ้านที่ประสบปัญหา น้ำท่วมเส้นทางไม่สามารถสัญจรได้   โดยได้ร่วมกันพิจารณาแนวทางการวางสะพานเพื่อความปลอดภัย และให้ประชาชนสามารถสัญจรใช้ชีวิตได้ตามปกติ

พร้อมกับสำรวจพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วม ในพื้นที่ชุมชนตลาดเก่า100 ปีเทศบาลตำบลกบินทร์ อำเภอกบินทร์บุรี   ที่อาจได้รับผลกระทบจากการเพิ่มขึ้นของปริมาณน้ำในแม่น้ำปราจีนบุรีในห้วงนี้   โดยได้ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ประชาชนในชุมชนรับทราบข้อมูลและเตรียมขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูงและเฝ้าระวังในพื้นที่   นางมาละนี  กล่าว

ด้านนายวิเชียร  เหลืองอ่อน  ผู้อำนวยการโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษานฤบดินทรจินดา กล่าวว่า  สถานการณ์น้ำในเขื่อนนฤบดินทรจินดา ต.แก่งดินสอ อ.นาดี  ตอนนี้อยู่ในระดับ 94 เปอร์เซ็นต์  หรือราว 277  ล้าน ลบ.เมตร  (ความจุกักเก็บ 295 ล้าน ลบ.ม.)  ตอนนี้น้ำใกล้เต็ม   สถานการณ์ด้านท้ายน้ำดีขึ้น  จะเพิ่มการระบายน้ำเพิ่มขึ้นจากเดิมเล็กน้อย  (ระบายน้ำ 2.9 ล้าน ลบม.)  ที่ผ่านมาระบาย 2 ล้าน ลบ.ม. ด้วยภาวะฝนตกหนักท้ายอ่าง ฯและในอ่างฯปริมาณสูงจนน้ำท่วมบ้านเรือนได้รับผลกระทบดังกล่าว    ตอนนี้สถานการณ์น้ำท่วมดีขึ้นเนื่องจากพื้นที่น้ำท่วมนั้นเป็นที่สูงน้ำระบายลงแควสโมงผ่านลงแควหนุมานลงสู่ต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี   ตอนนี้ระบายน้ำ 2.9 ล้าน ลบม.เพราะว่าฝนตกในอ่างมากปริมาณน้ำในอ่างเกินเกณฑ์ควบคุมมาตลอด นายวิเชียร  กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานต่อไป  จากการลงพื้นที่ตรวจสอบที่ต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี(บางปะกง) เทศบาลตำบลกบินทร์ อ.กบินทร์บุรี ที่เกิดจากแควหนุมานที่น้ำไหลมาจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลานมรดกโลก อ.นาดี มารวมบรรจบกับแควพระปรงที่มวลน้ำไหลมาจากเทือกเขาสอยดาว จ.สระแก้ว รวมบรรจบกันเป็นต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรี(บางปะกง) พบน้ำเพิ่มขึ้นในปริมาณสูงเนื่องจากรองรับน้ำป่าทั้งจาก อ.นาดี และน้ำป่าจาก จ.สระแก้วที่ถูกน้ำท่วม

ที่ด้านท้ายตลาดชุมชนตลาดเก่า 100 ปี หรือ เรียกว่าท่าเรือเก่าในอดีตที่ลุ่มต่ำที่สุดและตั้งติดใกล้ต้นน้ำแม่น้ำปราจีนบุรีที่สุดน้ำได้เอ่อล้นตลิ่งท่วมเฉพาะฝั่งด้านท่าเรือเก่าระดับน้ำท่วม กว่า30- 40 ซม. มีบางส่วนกำลังเริ่มไหลลาดผ่านผิวถนนและผ่านท่อระบายน้ำเริ่มเข้าสู่ชุมชนแล้วเล็กน้อย

พบประชาชนในชุมชนฯยังคงใช่ชีวิตตามปกติ โดยก่อนหน้าเมื่อต้นเดือน ก.ย.น้ำได้เอ่อท่วมมาแล้วครั้งหนึ่ง   ทางเทศบาลฯได้ประกาศเสียงตามสายแจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำในแม่น้ำปราจีนบุรี ตามที่ทางปภ.และ จังหวัดแจ้งเตือน

นางชญาพร คำถาวร ชาวชุมชนตลาดเก่ากล่าวว่า น้ำได้เอ่อท่วมท่วมบ้านของตนมานานแล้วเนื่องจากบ้านของตนอยู่ติดกับริมแม่น้ำ หรือท่าเรือเก่า   และได้เก็บข้าวของไว้ก่อนแล้ว ซึ่งชุมชนตลาดเก่าเทศบาลตำบลกบินทร์น้ำท่วมทุกปีน้ำจากทางต้นแม่น้ำมันยังเยอะขณะนี้น้ำยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเฉลี่ย 2 ซม./ชม.   น้ำท่วมแช่ฝั่งท้ายตลาดหรือท่าเรือเก่าอยู่อย่างนี้เป็นเดือนแล้วค่ะ

โดย...มานิตย์ สนับบุญ-ข่าว/ทองสุข สิงห์พิมพ์–ภาณุวัฒน์ พันธ์สาย-ภาพ/ปราจีนบุรี###