รมช.สธ.นำทีมตรวจ 2 ร้านย่านวังทองหลาง–ห้วยขวาง ยึดอาหารนำเข้าผิดกฎหมาย จากจีน

รมช.สธ.นำทีมตรวจ 2 ร้านย่านวังทองหลาง–ห้วยขวาง ยึดอาหารนำเข้าผิดกฎหมาย จากจีน





Image
ad1

รมช.สาธารณสุขนำทีมตรวจ 2 ร้านย่านวังทองหลาง–ห้วยขวาง ยึดอาหารนำเข้าผิดกฎหมาย จากจีน เตรียมตรวจหาสารปนเปื้อนดำเนินคดีทันที

วันนี้ (7 ต.ค 68)  นายวรโชติ สุคนธ์ขจร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ร่วม สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)  และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (ป.คบ.) ลงพื้นที่ตรวจค้นร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต จีน 2 ที่ แห่งแรกในพื้นที่วังทองหลาง แห่งที่2 ในพื้นที่ เขตห้วยขวาง ที่นำเข้า ผลิตภัณฑ์อาหาร จากประเทศจีนมาขายแบบผิดกฎหมาย หวั่นเป็นอันตรายต่อผู้บริโภค  ยึดของกลาง เป็นอาหารสำเร็จรูป และ ขนมขบเคี้ยว อีกมากมาย

นายวรโชติ สุคนธ์ขจร กล่าวว่า วันนี้มาลงพื้นที่ ตรวจสอบ ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน ที่นำเข้าผลิตภัณฑ์อาหารแบบผิดกฎหมาย ซึ่งตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้ นาย อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่ได้สั่งการกระทรวงสาธารณสุขให้ตรวจสอบ ซุปเปอร์มาร์เก็ตจีน พี่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ทั่วประเทศ ซึ่งเราก็จะนำ ผลิตภัณฑ์อาหารไปตรวจสอบ ว่ามีสารปนเปื้อน ที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคหรือไม่ ซึ่งจากการสังเกตผลิตภัณฑ์ทั้งหมดที่ยึดได้ น่าจะมีมูลค่าความเสียหายค่อนข้างมาก

 ซึ่งผลิตภัณฑ์บาง ยี่ห้อ จากการสังเกต ไม่น่านำมาบริโภคเลย และอะไรที่ผิด ก็ต้องว่ากันไปตามผิดซึ่งทางเจ้าของร้านก็ต้องมารับผิดชอบ และต้องมารับทราบปัญหาที่เขาได้กระทำลงไป และนี่คือตัวอย่างในการลงมาตรวจสอบ เป็นจุดเริ่มต้น ที่จะเอาจริงเอาจัง ในการตรวจสอบร้านอาหารเถื่อน แม้กระทั่งคลินิกเถื่อนเราก็จะไม่ปล่อยไป จะตรวจสอบทุกมิติทุกอย่างให้ครอบคลุม

จากการสอบถามพนักงานในร้าน ทราบว่า เจ้าของร้านเป็นคนจีนโดยจ้างคนไทยเป็นพนักงานขายในร้าน และพนักงานก็สามารถพูดภาษาจีนได้ เพื่อง่ายต่อการขายของให้กับคนจีน โดยโทษที่เจ้าของร้านจะได้รับคือถ้าผลิตภัณฑ์ไม่มีฉลากภาษาไทย ก็จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท และอาหารไม่มีเลขฉลาก อย. ปรับไม่เกิน 30,000 บาท แล้วถ้าอาหารไม่มี อย. ก็จะปรับไม่เกิน 50,000 ถ้าขายยาหรือผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุกไม่เกิน 5 ปีและปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับก็จะมีกฎหมายรับรองทุกอย่าง แล้วจะต้องตรวจสอบว่า ทางร้านมีการกระทำความผิดที่ร้ายแรง หรือไม่ ถ้าพบ ก็จะสั่งปิดร้านทันที

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ทางร้านมีสาขาอื่นอีกหรือไม่ นายวรโชติ สุคนธ์ขจร บอกว่า ร้านดังกล่าวมีแค่สาขาเดียวแต่ก็จะตรวจสอบร้านอื่นๆที่มีลักษณะแบบเดียวกันอย่างแน่นอนว่ากระทำผิดกฎหมายหรือไม่ จะสอดส่องให้ละเอียดและตอนนี้ได้ตั้งคณะทำงานเรียบร้อยแล้วรอดูว่า ร้านไหนจะเป็นร้านต่อไปในการโดนตรวจสอบ และจากการตรวจสอบพบว่าร้านลักษณะแบบนี้มีเพิ่มขึ้นในหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครเนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีการ ตรวจสอบอย่างจริงจัง และไม่ใช่แค่ไหนกรุงเทพฯเราก็จะไปตรวจสอบ ที่ต่างจังหวัดด้วย พบว่าก็มีลักษณะแบบเดียวกัน

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่าก่อนหน้านี้ที่ได้มีการยึดผลิตภัณฑ์ลักษณะแบบนี้ไปตรวจสอบพบสารอันตรายหรือไม่ เภสัชกรหญิง สุภัทรา บุญเสริม เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา  บอกว่า ส่วนมากจะเจอวัตถุกันเสียที่มากเกินกฎหมายกกำหนด และเจอสารเจือปนในอาหารที่ไม่อนุญาตให้ใช้เป็นต้น

สุดท้ายนี้ นายวรโชติ สุคนธ์ขจร  อยากฝากถึงประชาชนทุกคน อยากให้ช่วยสอดส่องดูแลถ้าพบร้านอาหารจีนที่มีลักษณะเข้าข่ายผิดกฎหมายกรุณาแจ้งมาได้ที่ สายด่วน 1556  ก่อนที่นายวรโชติ สุคนธ์ขจร พร้อมทีมงาน จะเดินทางไปตรวจสอบร้านที่ 2 ย่านห้วยขวาง ยึดของกลางเป็นอาหาร และผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากประเทศจีนอีกจำนวนมากนำไปตรวจสอบและดำเนินคดีตามกฎหมานต่อไป