ชาวบางบาลพลิกวิกฤตน้ำท่วมรวมกลุ่มหาปลาขายเสริมรายได้จุนเจือครอบครัว


พระนครศรีอยุธยา - น้ำท่วมพลิกวิกฤตเป็นโอกาส หาปลาสร้างรายได้เลี้ยงปากท้องดูแลครอบครัว ชาวบ้านรวมตัววันหยุดหารายได้เสริมโดยหารหาปลา ในพื้นที่น้ำท่วมแก้มลิง หรือ ทุ่งรับน้ำบางบาล
สถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พบว่า ตอนนี้ระดับน้ำในพื้นที่แก้มลิง หรือ ทุ่งบางบาล ที่ใช้เป็นทุ่งรับน้ำในพื้นที่ ตำบลวัดยม อำเภอบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ตอนนี้น้ำได้เข้าเต็มทุ่งทำให้เป็นเหมือนทะเลสาบ กว้างใหญ่ ริมสองฝั่งถนน สาย 3412 หรือ ถนนสาย อยุธยา – ผักไห่ ที่เป็นถนนสายสำคัญอีกเส้นทางหนึ่งของชาวอยุธยา ระดับยังต่ำกว่าถนนเล็กน้อย
โดยด้พบกับกลุ่มชาวบ้าน 1 กลุ่ม กว่า 10 คน ที่รวมตัว จอดรถกันหลายคันบรรทุกถังน้ำแข็ง และ เรือเล็กติดเครื่องยนต์ อีกหลายลำในน้ำริมถนน จึงได้เข้าไปสอบถามกับ นาย วิทยา ภุภีกิจ อายุ 59 ปี ชาว ตำบลไผ่ขวาง อำเภอเมืองสุพรรณบุรี จังหวัดสุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ที่เห็นอยู่คือกลุ่มชาวบ้านที่มาจาก จังหวัดสุพรรณบุรี มีอาชีพหลัก ที่มารวมตัวหาปลากันเป็นอาชีพเสริมในช่วงหน้าน้ำหลาก ในวันหยุด รวมตัวกันมาจากหลายตำบล หลายอำเภอ เป็นกลุ่มพ้องเพื่อนคนรู้จักที่ชอบหาปลาเช่นเดียวกัน พลิกวิกฤตเป็นโอกาส หาปลาเป็นรายได้ เฉลี่ยรายได้ 500 ขึ้นไปต่อวัน เลี้ยงครอบครัวได้
ช่วงน้ำท่วมแบบนี้และเป็นวันหยุดเราก็จะมาสำรวจพื้นที่ต่างๆที่น้ำท่วม เช่นตรงที่ทุ่ง เป็นบ่อทรายที่น้ำท่วม เราก็จะมาดูถ้ามีน้ำขึ้นเราก็จะมาลงข่าย ตกปลา หาตามจุดต่างๆว่าตรงไหนได้ดี บางคนได้ ถึง 30 กิโลกรัมต่อวัน ก็จะได้ปลาหลายๆชนิด ปลานิล ปลาแขยง ปลาใหญ่ๆบ้าง เล็กบ้างรวมๆกันไป โดยจะนำไปขาย บางครั้งก็มีคนมารับถึงที่ บางวันเจอปลาดีๆสูงถึง 2,000 – 3,000 บาทต่อวัน
พบว่าในถังน้ำแข็งทุกคนก็เตรียมน้ำแข็งแช่ไว้ใส่ปลาเพื่อเตรียมขาย เจอปลาตัวใหญ่มาก ถ้าตายก็ทำปลาร้า บางส่วนก็ใช้ประกอบอาหาร ทานกัน เรียกว่าสร้างรายได้เสริมช่วงวันหยุดในหน้าน้ำท่วม อีกหนึ่งหนทางที่พลิกวิกฤตเป็นโอกาสหารายได้เลี้ยงปากท้องเลี้ยงครอบครัว
ทั้งนี้สถานการณ์น้ำท่วม ในพื้นที่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จากการที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท คงการระบายน้ำลงสู้พื้นที่ท้ายเขื่อนในอัตรา 2,300 ลบ.ม./วินาที เป็นวันที่ 3 ส่งผลทำให้มวลน้ำของแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา แม่น้ำน้อย คลองสาขาต่างๆที่รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา หลายพื้นที่ระดับน้ำเริ่มลดระดับลงต่อเนื่อง เฉลี่ยยประมาณ 5 -10 ซม.
จังหวัดพระนครศรีอยุธยามีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม 12 อำเภอ 147 ตำบล 889 หมู่บ้าน มีประชาชนได้รับความเดือดร้อน 49,239 ครัวเรือน หลายชุมชนที่อยู่ติดกับแม่น้ำเจ้าพรยา แม่น้ำน้อย และคลองสาขา ที่อยู่นอกแนวคันกันน้ำระดับน้ำยังคงท่วมสูงถึงแม้ระดับน้ำจะเริ่มลดลงบ้างแล้วเล็กน้อย
ส่วนสถานการณ์ในลุ่มแม่น้ำป่าสัก เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จังหวัดลพบุรี ระบายน้ำในอัตรา 200 ลบ.ม./วินาที ขณะที่เขื่อนพระราม 6 ตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ระบายน้ำในอัตรา 235 ลบ.ม./วินาที ระดับน้ำท้ายเขื่อน ลดลงประมาณ 30 ซม. และที่สะพานปรีดี – ธำรง อำเภอพระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำลดลงประมาณ 30 ซม.