จนท.อุทยานฯเตรียมผลักดัน“พลายงาบิด” กลับเขาอ่างฤาไนแปดริ้ว

จนท.อุทยานฯเตรียมผลักดัน“พลายงาบิด” กลับเขาอ่างฤาไนแปดริ้ว





Image
ad1

ปราจีนบุรี – ช้างป่า “พลายงาบิด” ช้างเขาอ่างฤาไนแปดริ้วข้ามฝั่งมาไกลถึงปราจีนฯติดหล่มกลางทุ่งนา เจ้าหน้าที่เฝ้าระวังเตรียมผลักดันกลับ ก่อนหน้าหิวจัดพังรั้วฟาร์มหมูบุกหากินเข้ามากัดกินกล้วยและข้าวโพดของพนักงานที่ปลูกไว้ด้านใน2วันติดขณะทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เดินหน้าเฝ้าระวังช้างป่า พบฝูงช้าง เคลื่อนไหวในพื้นที่ 4 จังหวัด

นายวิโรจน์ จันทึก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี แจ้งว่าได้พบช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤา จ.ฉะเชิงเทรา (ป่าราบต่ำผืนสุดท้ายของไทยในเขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก จ.ฉะเชิงเทรา จ.สระแก้ว จ.จันทบุรี จ.ระยอง จ.ชลบุรี) ข้ามฝั่งมาหากินไกลถึง จ.ปราจีนบุรีแล้วไม่ยอมคืนถิ่น จำนวน 1 ตัวลักษณะตัวใหญ่มีงาตั้งแต่ช่วงเวลา 8:00 น ที่ผ่านมา

จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.เขาไม้แก้ว พร้อม กำนันตำบลย่านรี ชุด ชรบ.หมู่ที่ 7 ชุดผลักดันช้างป่าหมู่ที่ 7ต.เขาไม้แก้ว และหมู่ที่ 9 ต.ย่านรี อ.กบินทร์บุรี เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่า ปจ.2(ทุ่งโพธิ) ได้ร่วมออกตรวจสอบพบเห็นช้างป่าตัวใหญ่หากินอยู่ริมป่าอ้อย ซึ่งช้างป่าตัวดังกล่าวกำลังติดหล่มวิดน้ำใส่ตัวหมู่ที่9 บ้านเขาด้วน

นายวิโรจน์ จันทึก ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.เขาไม้แก้ว กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบเห็นช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนจังหวัดฉะเชิงเทราข้ามฝั่งเข้ามาหากินอยู่บริเวณข้างหมู่บ้านจึงออกมาตรวจสอบพบช้างตัวใหญ่ลักษณะมีงายาวข้างซ้ายยาวข้างขวาสั้น อยู่บริเวณบ้านเขาด้วนคาดว่าน่าจะเป็นเจ้างาบิด ซึ่งเมื่อ 2 คืนที่ผ่านมาบุกพังกำแพงฟาร์มหมูตำบลพื้นที่หมู่บ้านหนองตลาด หมู่7 ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เข้ามาหากินอาหารในฟาร์ม ทำให้รั้วของฟาร์มหมูได้รับความเสียหาย 2 จุด เป็นแนวยาวโดยบุกหากินเข้ามากัดกินกล้วยและข้าวโพดของพนักงานที่ปลูกไว้ด้านใน2วันติดๆ คาดว่าเจ้างาบิดน่าจะเดินออกจากฟาร์มลาดตะเคียนมาบ้านเขาด้วน ซึ่งระยะทางห่างกัน 6 กิโลเมตร

ซึ่งได้จัดชุดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามช้างป่าเพื่อไม่ให้เข้าใกล้บ้านเรือนประชาชนเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ขณะเดียวกันได้แจ้งให้นายธรรมรัฎฐ์ งามแสง นายอำเภอกบินทร์บุรีได้รับทราบแล้ว และประสานงานกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนและสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 1 (ปราจีนบุรี) ตลอดจนชุมชนข้างเคียงให้เฝ้าระวัง คาดเย็นจรดค่ำนี้น่าจะทำการผลักดันเจ้างาบิดออกจากพื้นที่ให้กลับไปยังพื้นที่ผืนป่าอนุรักษ์เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไนแปดริ้วต่อไป

ขณะที่เพจกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ระบุว่า ...เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เดินหน้าเฝ้าระวังช้างป่า พบฝูงช้าง เคลื่อนไหวในพื้นที่ 4 จังหวัด เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ภายใต้การกำกับของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 (ศรีราชา) เดินหน้าปฏิบัติงานเฝ้าระวังและแก้ปัญหาช้างป่าออกนอกพื้นที่อย่างเข้มข้น โดยระดมชุดเคลื่อนที่เร็วทั้ง 7 ชุด ร่วมกับเครือข่ายอาสาสมัครในพื้นที่ ลาดตระเวนตลอด 24 ชั่วโมง

จากการปฏิบัติงาน พบการเคลื่อนไหวของช้างป่าในหลายพื้นที่สำคัญ โดยเฉพาะพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ที่พบฝูงช้างป่ากว่า 30 ตัว กำลังหากินนอกพื้นที่อนุรักษ์บริเวณอ่างเก็บน้ำประแกต และพบอีกฝูงหนึ่งประมาณ 30+ ตัว เข้าพักบริเวณป่าเนิน 4G ตำบลพวา อำเภอแก่งหางแมว
.
นอกจากนี้ ยังพบช้างป่าฝูงเล็กเคลื่อนไหวในหลายพื้นที่ ได้แก่ บริเวณบ้านเขาสีเสียด จังหวัดฉะเชิงเทรา พบช้างป่า 6 ตัว, บ้านเขาจันทร์ จังหวัดสระแก้ว พบช้างป่า 4 ตัว ซึ่งกำลังออกจากป่ายูคาลิปตัส และบริเวณเกาะป่าหนองบัวลอย อำเภอสนามชัยเขต พบช้างป่า 4 ตัว

นายเอกชัย แสนดี หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน เปิดเผยว่า ชุดเคลื่อนที่เร็วทั้ง 7 ชุด ประกอบด้วย ชุดที่ 1, 2, 3, 4, 6, 9 และ 13 ได้ปฏิบัติงานอย่างใกล้ชิดกับชุมชนในพื้นที่ครอบคลุม 4 จังหวัด ได้แก่ ฉะเชิงเทรา สระแก้ว ชลบุรี ระยอง และจันทบุรี โดยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านในการแจ้งเหตุเมื่อพบช้างป่าออกหากินนอกพื้นที่
.
สำหรับพื้นที่ที่เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าไม่มีช้างป่าออกนอกเขตฯ ได้แก่ บ้านเขาตลาด, บ้านหนองปรือกันยาง ในจังหวัดฉะเชิงเทรา, บ้านแสงตะวัน-บ้านเขาตะกรุบพัฒนา ในจังหวัดสระแก้ว, บ้านมาบยาง จังหวัดชลบุรี และบ้านยางเอน จังหวัดระยอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงเฝ้าระวังและพร้อมรับแจ้งเหตุตลอดเวลา
.
ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ ขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่ หากพบช้างป่าออกนอกเขตให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที และงดเว้นการเข้าใกล้หรือยั่วยุช้างป่า เพื่อความปลอดภัยของชีวิตและทรัพย์สินของทุกคน พร้อมทั้งเน้นย้ำว่าการทำงานร่วมกับชุมชนและอาสาสมัครเป็นกลไกสำคัญในการดูแลความปลอดภัยจากปัญหาช้างป่า

โดย...มานิตย์ สนับบุญ -ข่าว/ทองสุข สิงห์พิมพ์ – ภาพ / ปราจีนบุรี###