“วัฒนธรรม 2 ศาสนา พุทธ-มุสลิม” ต้นแบบพหุสังคมที่ลึกซึ้งสังคมไทย จ.พัทลุง

“วัฒนธรรม 2 ศาสนา พุทธ-มุสลิม” ต้นแบบพหุสังคมที่ลึกซึ้งสังคมไทย จ.พัทลุง





Image
ad1

“วัฒนธรรม 2 ศาสนา พุทธ-มุสลิม” ต้นแบบพหุสังคมที่ลึกซึ้งสังคมไทย จ.พัทลุง สืบทอดมากว่า 100 ปี เครือญาติพี่น้อง 2 เกือบทั้งอำเภอ ระบุต้นตระกูลใหญ่มีชื่อเสียงของประเทศ ตระกูลชนะสิทธิ์ ตระกูลพลเพชร ตระกูลไพชำนาญ ตระกูลขุนจันทร์

นายธนินธรณ์ ขุนจันทร์ บ้านตะโหมด ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ประธานวิสาหกิจท่องเที่ยวเชิงเกษตรจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า  วัฒนธรรม 2 ศาสนาพุทธ มุสลิม มีความเป็นมาการทำบุญ 2  ศาสนาไทยพุทธ ไทยมุสลิม บ้านตะโหมด เทศบาลตำบลตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ยาวนานนับร้อยปี จากความเดิมคือชุมชนบ้านโต๊ะหมูดกับชุมชนถ้ำพระบ้านเขาหัวช้าง ซึ่งเป็นบ้านพี่บ้านน้องที่อยู่ใกล้ชิดร่วมกัน

โดยชุมชนบ้านโต๊ะหมูดเป็นชุมชนชาวมุสลิม ส่วนชุมชนบ้านถ้ำพระเขาหัวช้าง เป็นชุมชนพุทธ แล้วต่อมาช่วงหนึ่งชุมชนบ้านถ้ำพระเขาหัวช้าง ได้เกิดโรคห่าระบาดหรือหรือโรคอหิวาต์  ส่งผลให้ชาวบ้านชุมชนบ้านถ้ำพระเขาหัวช้าง ต้องอพยพยมาสู่ชุมชนบ้านโต๊ะหมูด

“ระหว่างมีการอยู่ปะปนกันก็มีการแต่งงานกันระหว่างมุสลิมพุทธ จึงเกิดมีบุตรหลานกันกันเป็นจำนวนมาก จึงมีการขยายผลเป็นเครือญาติพี่น้องพุทธมุสลิมเกิดขึ้น มีคนเถ้าคนแก่ปู่ย่ายายทวด เป็นคนเดียวกัน”

เมื่อนานนับวันฝ่ายหนึ่งเป็นพุทธได้มีการอาชีพมีการเลี้ยงสุกร เลี้ยงสุนัขขึ้น  ฝ่ายหนึ่งเป็นมุสลิม จึงขอโยกย้ายออกมาทางด้านรอบนอกที่เป็นชุมชนหมู่บ้านบริเวณรอบข้างไป ใน อ.ตะโหมด และมีความเป็นอยู่มาจนถึงปัจจุบัน
ต่อมาชุมชนบ้านโต๊ะหมูด ได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นบ้านตะโหมด และชุมชนถ้าพระเขาหัวช้าง และมีการเรียกกันบ้านเขาหัวช้าง

“ปัจจุบันที่วัดตะโหมด อดีตก็เคยเป็นที่ตั้งสุเหร่ามุสลิม แต่ต่อมาทางวัดตะโหมดได้ขอเป็นพื้นที่ขยายวัดตะโหมด และสุเหร่าก็ตั้งที่หมู่บ้านรอบข้างทุกหมู่บ้าน บ้านโต๊ะหมูดเป็นของคนเถ้าในยุคก่อตั้งชุมชน ที่ชื่อว่าโต๊ะหมูด”

นายธนินธรณ์ กล่าวอีกว่า ต่อมาทั้งพุทธ มุสลิม ที่ถืออว่าต่างมีบรรพบุรุษร่วมกัน ปู่ย่ายายทวดคนเดียวกัน จึงได้มีความคิดจัดทำบุญสุสานร่วมกันบนควนตะโหมด หมู่ 3 บ้านตะโหมด เทศบาลตำบลตะโหมด  โดยมีศาลหลักเมืองเป็นสัญลักษณ์ตั้งแต่นั้นมา

สำหรับสุสานร่วมกัน ซีกหนึ่งเป็นสุสานหรือกุโบร์มุสลิมสำหรับชาวมุสลิม  ส่วนซีกหนึ่งเป็นสุสานหรือป่าช้าสำหรับชาวพุทธ

นายธนินธรณ์ กล่าวอีกว่า ทุกวันที่ 15 เดือนเมษายนของทุกปี จะมีการทำพิธีบุญ 2 ศาสนาพร้อมกัน ณ สถานที่ดังกล่าว ชาวพุทธก็จะมีพระสงฆ์ทำพิธีทางศาสนา ส่วนฝ่ายมุสลิมจะมี ผู้ทรงคุณวุฒิทำพิธีทางศาสนา โดยประชาชนต่างเข้าร่วมด้วยความพร้อมเพรียงกันทั้งพุทธ มุสลิม

“ผมเองคนรุ่นตายายก็เป็นมุสลิมและพุทธ มีเครือญาติทั้งมุสลิมเต็มพื้นที่บางหมู่ เช่น ที่บ้านมาบหมู่ 4 เทศบาลตำบลควนเสาธง ฯลฯ  จะไปมาหาสู่ทางด้านสังคมอาชีพร่วมกันมาอย่างปกติ และอยู่กันฉันท์มิตรพี่น้องกลมกลืนกันดีมาอย่างยาวนาน ซึ่งเป็นไปต้นแบบของพหุวัฒนธรรม พหุสังคมสันติสุขอย่างแท้จริง”

นายธนินธรณ์  กล่าวว่า ในกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยงเชิงเกษตรจังหวัดพัทลุงพุทธ มุสลิมก็ร่วมกั ก็มีอาหารมุสลิมแฟร์รี่จัดทำเป็นปิ่นโตร้อยสาย เพื่อบริการให้กับงานกิจกรรม และนักท่องเที่ยวที่เข้ามาท่องเที่ยว

ซึ่งจะเป็นอาหารพื้นบ้าน เช่น แกงคั่วหยวกกล้วยไก่บ้าน, น้ำเคย, ปลาทอด, ยำผักกูด, แกงส้ม, น้ำพริกมะขาม ฯลฯ ซึ่งเป็นอาหารปลอดสารพิษที่ผลิตในชุมชน โดยจะไม่มีอาหารต้องห้ามสำหรับชาวมุสลิม.

นายอรุณ ไพชำนาญ  บ้านตะโหมด เขตเทศบาลตำบลตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง รองประธานกรรมการกลุ่มเกษตรกรทำนาตะโหมด ที่สมาชิกประมาณ 4,000 ราย สถาบันกลุ่มเกษตรกรที่มีชื่อเสียงของประเทศ   กล่าวว่า วัฒนธรรม 2 ศาสนา  พุทธ มุสลิม ได้เป็นมาต่อเนื่องกว่า 100 ปี ตั้งแต่รุ่นทวดรุ่นปู่ ตนเองทวดก็เป็นมุสลิม แต่ต่อมาได้เป็นพุทธ

สำหรับตนจึงเป็นพี่น้องเครือญาติทั้งพุทธและมุสลิมมีเป็นจำนวนมาก และทุกวันที่ 15 เมษายนของทุกปีก็ร่วมทำบุญกุศล 2  ศาสนาร่วมกันทั้งพุทธและมุสลิมโดยจะเป็นสัดส่วนกันละซีกที่สุสานหรือป่าช้าสำหรับฝ่ายพุทธ  และฝ่ายมุสลิมก็จะเป็นกุโบร์ ทำพิธีทางศาสนาทำบุญเยี่ยมสุสาน  ให้กับบรรพบุรุษร่วมกัน

“แต่เดิมนั้นพุทธก็จะฝังเหมือนกับมุสลิม แต่ต่อมาก็ได้สร้างเมรุขึ้นมาทำการณาปนกิจ”

นายอรุณ กล่าวอีกว่า นับวันเวลาต่อมา พุทธ มุสลิม 2 ศาสนาก็มีการเติบโตขยายตัวขยายตัวออก โดยมีเครือญาติไปยังหมู่รอบข้างไปยังแต่ละหมู่ เช่น บ้านท่าเชียด บ้านควน บ้านมาป บ้านคลองนุ้ย บ้านคลองหัวช้าง บ้านควนอินนอโม ฯลฯ  ทั้งเทศบาลตำลตะโหมด เทศบาลตำบลเขาหัวช้าง เทศบาลตำบลคลองใหญ่  เทศบาลตำบลควนเสาธง และเทศบาลตำบลแม่ขรี ครอบคลุมไปทั้งอำเภอตะโหมด จ.พัทลุง

“สำหรับต้นตระกูลใหญ่  2  ศาสนา พุทธ มุสลิม เช่น ตระกูลชนะสิทธิ์  ตระกูลพลเพชร ตระกูลไพชำนาญ และตระกูลขุนจันทร์ ฯลฯ และสำหรับตนเองตระกูลไพชำนาญ มีเครือญาติพี่น้องทั้งพุทธ มุสลิม เรามีความเป็นอยู่กันอย่างญาติพี่น้องที่กลมกลืนกัน แม้ว่าจะนับกลุ่มหนึ่งพุทธและญาติกลุ่มหนึ่งมุสลิม”.