ร้านค้าเมืองยโสธรแห่ร่วมโครงการ"คนละครึ่งพลัส" หวังช่วยกระตุ้นศก.ปลายปี

ร้านค้าเมืองยโสธรแห่ร่วมโครงการ"คนละครึ่งพลัส" หวังช่วยกระตุ้นศก.ปลายปี





Image
ad1

บรรยากาศการลงทะเบียนโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ที่จังหวัดยโสธรเป็นไปอย่างคึกคัก ร้านค้ารายย่อยต่างตอบรับเข้าร่วมโครงการอย่างล้นหลาม สะท้อนความหวังในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากช่วงปลายปี ขณะที่ประชาชนเตรียมเฮ! รับสิทธิ์ร่วมจ่าย 50% ลดภาระค่าใช้จ่ายในยุคที่ข้าวของแพงขึ้น

เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2568 นายชาญชัย ศรศรีวิชัย ผู้ว่าราชการจังหวัดยโสธร มอบหมายให้ นายสมชัย บูรณะ ปลัดจังหวัดยโสธร ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าการดำเนินโครงการ "คนละครึ่งพลัส" ซึ่งเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาล เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มกำลังซื้อให้ประชาชน พร้อมทั้งสร้างรายได้ให้แก่ร้านค้ารายย่อย ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยโดยรวมฟื้นตัวอย่างเป็นรูปธรรม

"คนละครึ่งพลัส" มุ่งเน้นการร่วมจ่ายระหว่างภาครัฐและประชาชน โดยภาครัฐจะร่วมจ่ายค่าสินค้าและบริการ 50% ไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อวัน โดยผู้ที่ยื่นแบบแสดงรายการภาษีจะได้รับสิทธิ์สูงถึง 2,400 บาทต่อคนตลอดโครงการ และผู้ที่ไม่ได้ยื่นแบบภาษีจะได้รับสิทธิ์ 2,000 บาทต่อคนตลอดโครงการ

ส่วนขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการสุดง่าย  สำหรับร้านค้า: เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม - 19 ธันวาคม 2568  ร้านค้าเดิมที่มีแอป "ถุงเงิน" เพียงอัปเดตแอปพลิเคชัน ด้านร้านค้าใหม่ (บุคคลธรรมดา) ถ่ายรูปตนเองคู่กับร้านค้า, บัตรประชาชน, หน้าบัญชีธนาคาร และแบบฟอร์มการสมัคร จากนั้นให้กำนัน หรือผู้ใหญ่บ้าน หรือปลัดอำเภอรับรอง และนำเอกสารยื่นที่ธนาคารกรุงไทย และร้านค้าใหม่ (นิติบุคคล) นำหลักฐานยื่นที่ธนาคารได้ทันที พร้อมดาวน์โหลดแอป "ถุงเงิน"

สำหรับประชาชน: เริ่มลงทะเบียนในวันที่ 20 - 26 ตุลาคม 2568 เวลา 06.00 - 22.00 น. ของทุกวัน ผ่านแอปฯ เป๋าตัง โดยกดแบนเนอร์โครงการ "คนละครึ่งพลัส" เท่านั้น คุณสมบัติ สัญชาติไทย, อายุ 16 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป ณ วันที่ลงทะเบียน, ไม่เป็นผู้ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ณ วันที่ 1 ต.ค. 68 และไม่เคยถูกระงับสิทธิในโครงการคนละครึ่งเฟส 1-5  โดยระยะเวลาใช้จ่าย ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม 2568 - 31 ธันวาคม 2568 เวลา 06.00 - 23.00 น.

โครงการ "คนละครึ่งพลัส" ถือเป็นความหวังครั้งใหม่ที่จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในประเทศ สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ และบรรเทาภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในช่วงปลายปีที่มักมีการจับจ่ายใช้สอยสูง
หากมีข้อสงสัยหรือต้องการความช่วยเหลือ ศูนย์ช่วยเหลือสำหรับประชาชน: โทร. 0-2111-1122 ตลอด 24 ชั่วโมง ตรวจสอบผลการลงทะเบียน/วงเงินคงเหลือ: โทร. 0-2111-1122 กด 2 ตลอด 24 ชั่วโมง

สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง: โทร. 02-273-9020 ต่อ 3510, 3238, 3313, 3512, 3532 หรือ 3502 (จันทร์-ศุกร์ 08.30 - 16.30 น. เว้นวันหยุดราชการ)