ฉก.ราชมนูช่วยต่างชาติกว่า 90 คนแล้วหลังทหารเมียนมาทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งฐานในอาคาร' KK ปาร์ค'

ฉก.ราชมนูช่วยต่างชาติกว่า 90 คนแล้วหลังทหารเมียนมาทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตั้งฐานในอาคาร' KK ปาร์ค'





Image
ad1

ทหารไทย ฉก.ราชมนู  ช่วยต่างชาติ ข้ามแดน ' KK ปาร์ค' กว่า 90 คนแล้ว หลังทหารเมียนมาเข้ากวาดล้างสแกมเมอร์ คาด คืนนี้มีอีก 200-300 คน นำเข้าขั้นตอนตรวจสอบตามกฎหมายแล้ว ส่วนใหญ่เป็นชาวจีน ไม่ฒ๊คนไทย ขณะที่ชาวฟิลิปปินส์ กว่า 18 คน ขอความช่วยเหลือด่วน คาดจะมีต่างชาติทะลักอีกกว่า 2,000 คน

เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2568. พ.อ.ชนกานต์ แสงศร ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ซึ่งดูแลพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมา 5 อำเภอชายแดน (แม่สอด-พบพระ-แม่ระมาด-อุ้มผาง-ท่าสองยาง)  ได้รับรายงานว่ามีชาวต่างชาติ ข้ามแม่น้ำเมย บริเวณชายแดน  จาก ' KK ปาร์ค'   จังหวัดเมียวดี  รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เนื่องจากมีการกวาดล้างสแกมเมอร์ของทหารเมียนมา

เจ้าหน้าที่ทหาร หน่วยเฉพาะกิจราชมนู พบว่ามีชาวต่างชาติไม่ต่ำกว่า 90 คน ข้ามแม่น้ำเมย จากเคเคปาร์ค จากเมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา ตรงข้าม ต.แม่กุ อ.แม่สอด จ.ตาก เพื่อมายังประเทศไทย หลังการกวาดล้างสแกมเมอร์ของทหารเมียนมา ซึ่งไทยได้ให้การช่วยเหลือตามหลักมนุษยธรรม และนำเข้าสู่ขั้นตอนทางกฎหมาย เนื่องจากคนเหล่านี้เข้าเมืองผิดกฎหมาย ทหาร ฉก.ราชมนู จึงนำส่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองแม่สอด เพื่อทำการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด กรมการปกครอง และ สำนักงานพัฒนาสังคมเพื่อความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัดตาก 

ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดตาก( ด่านตม.แม่สอด ) พบว่าเป็นชาวต่างชาติทั้งหมด ไม่มีคนไทย สวนใหญ่เป็น ชาวจีน อินเดีย ปากีสถาน ซึ่งคาดว่าน่าจะมีการข้ามแดนเข้ามาอีก เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ทหาร  ฉก.ราชมนู ได้ประสานทุกหน่วยงานทำตามขั้นตอนทางกฎหมาย และยังไม่พบผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์  โดยฝ่ายความมั่นคงคาดการณ์ว่าน่าจะมีชาวต่างชาติทะลักเข้าไทยอีกไม่ต่ำกว่า 200-300 คน ซึ่งใช้ช่องทางธรรมชาติข้ามแม่น้ำเมย หลบหนีมายังประเทศไทย ทางไทยจึงต้องให้การช่วยเหลือทางมนุษยธรรม หากพบเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ก็จะนำเข้ากลไก NRM และหากไม่ใช่เหยื่อ ก็ดำเนินการตามขั้นตอนดำเนินคดีเข้าเมืองผิดกฎหมายและส่งกลับประเทศ 

อย่างไรก็ตามมีรายงานจากกรมการปกครอง ประเมินในเบื้องต้นว่ามีผู้คนจำนวนมากหลบหนีออกจากพื้นที่อย่างเร่งด่วน และหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงขึ้น อาจมีผู้หลบหนีเข้าสู่ประเทศไทยประมาณ 2,000 คน  

นอกจากนี้ องค์กรเอกชน  ยังได้รับการร้องขอความช่วยเหลือจากชาวฟิลิปปินส์ 18 ราย และปากีสถาน 1 ราย ที่พยายามหลบหนีออกมาจากบอสจีนและไม่ปลอดภัย จึงได้มีการประสานขอความช่วยเหลือไปทางกองกำลัง BGF ซึ่งได้ส่งทหารเข้าไปตรวจสอบตามพิกัดที่ขอความช่วยเหลือแล้ว

ซึ่งขณะนี้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับ หน่วยเฉพาะกิจราชมนู และ ตำรวจตระเวนชายแดน ได้ดำเนินกระบวนการคัดกรองผู้หลบหนีประมาณ 80–100 คน ที่เพิ่งข้ามพรมแดนเข้ามาผ่านทาง จุดตรวจแม่กุ ในขณะนี้ยังมีผู้หลบหนีมาเพิ่ม คาดการณ์ว่า ภายในช่วงค่ำของวันนี้ จำนวนผู้หลั่งไหลเข้ามาอาจเพิ่มขึ้นถึง 200–300 คน