รอง ผบ.ตร. เผยแก๊งสแกมเมอร์ต่างชาติกว่า 28 ประเทศหนีกวาดล้างข้ามมายังฝั่งไทย 1,233 คน

รอง ผบ.ตร. ติดตามรับฟังสถานการณ์ชายแดนจังหวัดตาก. เผยมีชาวต่างชาติกว่า 28 สัญชาติข้ามมายังฝั่งไทย 1,233 คน พบเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ 2 คน เร่งคัดกรองก่อนส่งฟ้องดำเนินคดี ชี้ อินเดียประสานมีความพร้อมรับคนกลับ ขณะจีนใช้ระบบเดิมส่งคนกลับประเทศ คาด ใช้เวลาประมาณ 10 วัน ดำเนินการได้
เมื่อวันที่ 25 ตุลาคม .2568). พล.ต.อ. ธัชชัย ปิตะนีละบุตร รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคณะ เดินทางประชุมติดตามรับฟังสถานการณ์ชายแดน อ.แม่สอด จังหวัดตาก และมอบแนวทางปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวกับผู้สื่อข่าว ภายหลังการประชุมติดตามรับฟังสถานการณ์ชายแดนจังหวัดตาก และมอบแนวทางปฏิบัติงานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ว่า วันนี้ตนเองได้รับมอบหมายจากพลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะผู้เป็นผู้อำนวยการศูนย์ต่อต้านการค้ามนุษย์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เข้ามาติดตามตรวจสอบเรื่องการเข้ามาของคนต่างชาติ และคนไทยบางส่วน ที่หลบหนีเหตุสงครามในพื้นที่เมืองเมียวดี ประเทศเมียนมา และข้ามเข้ามายังอำเภอแม่สอด ซึ่งได้มีการประชุมร่วมกับผู้บัญชาการภาค และหน่วยเฉพาะกิจราชมนู ซึ่งได้รับรายงานทั้งจากฝ่ายปกครอง ที่เป็นผู้อำนวยการในเรื่องศูนย์สั่งการชายแดน, องค์การบริหารส่วนจังหวัด และได้มีการพูดคุยติดตามสถานการณ์ต่าง ๆ
พบว่าขณะนี้มีคนเข้ามาจากเมียวดี 1,233 คน โดยได้ผ่านกระบวนการคัดกรองไปแล้ว 124 คน และพบว่าเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ 2 คน ซึ่งได้เข้าสู่กระบวนการคุ้มครองดูแลเหยื่อ และนำไปดูแลฟื้นฟูเพื่อส่งตัวกลับประเทศ
ส่วนที่ไม่ได้เป็นผู้เสียหาย ที่ผ่านการคัดกรองคัดแยกแล้วจะถูกดำเนินคดี และส่งฟ้องศาล เมื่อศาลมีการดำเนินการพิพากษาลงโทษแล้ว หากถูกจำคุก หรือปรับ ก็จะมีการควบคุมตัวที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง และประสานไปยังสถานทูตต่าง ๆ เพื่อรับตัวกลับไป

พล.ต.อ. ธัชชัย ยืนยันว่า ตัวเลขไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง และไม่ได้มีความสับสน หน่วยทหาร และ ตม. ซึ่งเป็นหน่วยคัดกรองเบื้องต้น ก็มีตัวเลขตรงกันคือ 1,233 คน และประเทศที่มีจำนวนมากที่สุด คือ อินเดีย รองลงมาคือ จีน และเวียดนาม รวมทั้งหมด 28 สัญชาติ โดยในหนึ่งวัน จะสามารถดำเนินการคัดกรองได้ประมาณ 100 คน เพราะจะต้องคำนึงถึงความพร้อมในการส่งฟ้องไปยัง สำนักงานอัยการ และศาลด้วย ซึ่งขณะนี้มีการส่งฟ้องไปแล้วในล็อตแรก
เมื่อถามว่า มีประเทศที่ประสานงานรับตัวกลับหรือไม่ พล.ต.อ. ธัชชัย ระบุว่า วันนี้ตนเองเดินทางมาพร้อมกับสถานทูตอินเดีย ซึ่งได้มีความพร้อมที่จะรับตัวกลับ แต่เมื่อดูกระบวนการแล้ว อาจจะต้องใช้เวลา เพราะต้องเข้าสู่กระบวนการคัดกรอง และคัดแยก และหากไม่ได้เป็นเหยื่อ ก็ต้องถูกฟ้องศาล อาจจะโดนโทษจำคุก หรือเสียค่าปรับ ซึ่งจะมีเงื่อนไขเวลาอยู่ แต่ตนเองคิดว่าคงใช้เวลาไม่เกิน 10 วัน กระบวนการน่าจะเริ่มขับเคลื่อนส่งตัวกลับ
ส่วนจีน ได้มีการประสานกับทางทูตจีน ก็มีความพร้อมรับตัวกลับไป และคงจะใช้กลไกเดิมที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ที่เคยส่งตัวกลับไปแล้วกว่า 9,000 คน คงจะให้สถานทูตมีการนัดหมายกับในพื้นที่ ในการเตรียมความพร้อม พร้อมย้ำว่า จะต้องไม่มีคนเหล่านี้อยู่ในประเทศไทย จะต้องมีการผลักดันและส่งกลับให้ได้อย่างรวดเร็ว แต่ต้องผ่านกระบวนการคัดกรอง คัดแยกเหยื่อก่อน รวมถึงมีการสืบสวนและขยายผล ในกรณีหากพบว่ามีการไปทำงานในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก็ต้องมีการขยายผลการดำเนินงาน และขบวนการที่มีการลักลอบพาคนเข้ามา ก็จะมีความผิดฐานการค้ามนุษย์ ซึ่งได้ให้กองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (บก.ปคม.) ของทางตำรวจสอบสวนกลางมาขยายผลด้วย
พล.ต.อ. ธัชชัย ยังเชื่อว่า น่าจะมีคนข้ามเข้ามาอีก ซึ่งเรามีการเตรียมการเรื่องนี้ไว้แล้ว โดยขณะนี้ในเบื้องต้นได้ใช้งบประมาณของศูนย์สั่งการชายแดนในพื้นที่ในการดูแล

ส่วนความกังวลในการส่งตัวกลับประเทศของประเทศที่ยังไม่มีความพร้อมนั้น พล.ต.อ. ธัชชัย ระบุว่า เป็นประเทศเอธิโอเปีย เพราะไม่มีสถานทูตอยู่ในประเทศเมียนมา และประเทศไทย เนื่องจากเป็นประเทศที่ห่างไกล ต้องใช้เงินในการส่งกลับสูง ซึ่งขณะนี้ได้ให้ทางผู้บังคับการกองการต่างประเทศ ไปรีบดำเนินการประสาน และอาจจะต้องแจ้งทางกระทรวงการต่างประเทศของไทย ให้ช่วยเหลือดำเนินการในเรื่องนี้ด้วย
จากนั้น พล.ต.อ.ธัชชัย ได้เดินทางไปยังด่านพรมแดนแม่สอด 2 เพื่อไปตรวจเยี่ยม และดูความเรียบร้อยของการคัดกรองคนต่างชาติ ที่หนีเข้ามาจากเมียวดี 1,233 คน โดยได้ผ่านกระบวนการคัดกรองไปแล้ว 124 คน และพบว่าเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ 2 คน ซึ่งได้เข้าสู่กระบวนการคุ้มครองดูแลเหยื่อ และนำไปดูแลฟื้นฟูเพื่อส่งตัวกลับประเทศต้นทาง หรือแจ้งข้อหาดำเนินคดีต่อไป

