เสียงแตก!“จัดตั้งหอการค้ากลุ่มใหม่”สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัด

“จัดตั้งหอการค้ากลุ่มใหม่” หอการค้า พัทลุง สงขลา และหอการค้าสตูล กรอ.สตูล เสียงแตก 2 ส่วน หนึ่งต้องการอยู่กลุ่มจังหวัดฝั่งอันดามัน เชื่อการท่องเที่ยวทางทะเล ส่วนหนึ่งต้องการอยู่กลุ่มจังหวัดชายแดน ศักยภาพสิทธิประโยชน์เรื่องภาษี การลงทุน ดอกเบี้ย หอกาค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ลุ้นเต็มพิกัด สอดคล้องกับบริบทจังหวัดใหญ่ในฐานะ “ลีดเดอร์เศรษฐกิจภาคใต้” มูลค่า GDP กว่า 300,000 ล้านบาท
นายกิตติพิชญ์ กลับคุณ ประธานหอการค้าจังหวัดพัทลุง เปิดเผยว่า คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ครั้งที่ 4/2568 ห้องประชุมตาปี อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี เรื่องทางหอการค้าจังหวัดสงขลา ได้ร่วมประชุมกับหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เพื่อที่จะแยกตัวออกจากกลุ่ม โดยจะรวมจัดตั้งหอการค้ากลุ่มขึ้นใหม่ เพื่อให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์จังหวัด และบริบทเศรษฐกิจจังหวัดสงขลา
สำหรับกลุ่มหอการค้าจังหวัดพัทลุง ทาง กรอ.จ.พัทลุง ต่างเห็นด้วยที่จัดตั้งกลุ่มหอการค้าจังหวัดใหม่
นายกรกฎ เตติรานนท์ ประธานหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย (จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง จ.สงขลา) เปิดเผยว่า แต่ในการจัดตั้งกลุ่มหอการค้าจังหวัดจะต้องอยู่ในระเบียบของกระทรวงมหาดไทย ในการจัดตั้งกลุ่มจะต้องมี 3 หอการค้าจังหวัดขึ้นไป ดังนั้นในการจัดตั้งขึ้นหอการค้าขึ้นใหม่จะต้อง 3 หอการค้าจังหวัดขึ้นไป ดูภาพแล้วโซนจังวัดรอยต่อ จ.สงขลา คือ จ.พัทลุง จ.สตูล จะต้องร่วมกันได้
แต่ จ.สตูล หอการค้าจังหวัดสตูล ปัจจุบันเป็นหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้อันดามัน ซึ่งต่างมีบริบทเดียวคือทะเลอันดามัน ส่วนหอการค้าจังหวัดพัทลุงกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ซึ่งประเด็นอยู่ระหว่างการหารือเพื่อให้ตกผลึกเพื่อนำเสนอต่อกระทรวงมหาดไทยดำเนินการ
นายกรกฎ กล่าว สำหรับหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย เห็นด้วยที่หอการค้าจังหวัดสงขลา จะแยกออกเพื่อให้เหมาะสมกับริบทและยุทธศาสตร์จังหวัด เพราะจังหวัดสงขลา มีทั้งการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ การค้าชายแดน การส่งออกระหว่างประเทศ อุตสาหกรรมแปรรูปขนาดใหญ่ส่งออก อุตสาหกรรมการเกษตร ฯลฯ ซึ่งมี GDP มูลค่ากว่า 300,000 ล้านบาท / ปี ขณะที่กับกลุ่มหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ศูนย์กลาง จ.สราษฎร์ธานี ที่มีมูลค่า GDP กว่า 200,000 ล้านบาท จ.นครศรีธรรมราช GDP มูลค่ากว่า 200,000 ล้าน และมียุทธศาสตร์บริบทที่ต่างกัน
“จ.สงขลา หอการค้าจังหวัดสงขลามีมูลค่า GDP กว่า 300,000 ล้านบาท / ปี และมีศักยภาพทางด้านเศรษฐกิจแทบจะทุกส่วน จึงสมควรเป็นระดับผู้นำทางเศรษฐกิจ เพื่อให้สอดรับกับยุทธศาสตร์จังหวัดเศรษฐกิจใหญ่ระดับภาคใต้ จึงสนับสนุนจังหวัดสงขลา จัดตั้งกลุ่มหอการค้าจังหวัดขึ้นมาใหม่ เพื่อสอดรับกับยุทธศาสตร์” นายกรกฎ กล่าว

นายทรงพล จังศิริวัฒนธำรง ประธานหอการค้าจังหวัดสงขลา เปิดเผยว่า ทางหอการค้าจังหวัดสงขลา ซึ่งเดิมอยู่หอการค้ากลุ่มภาคใต้จังหวัดชายแดน ที่ประกอบด้วย หอการค้าจังหวัดสงขลา หอการค้าจังหวัดปัตตานี หอการค้าจังวัดยะลา หอการค้าจังหวัดนราธิวาส และหอการค้าจังหวัดสตูล
แต่มาสมัยอดีตรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีจัดการใหม่ โยกย้ายหอการค้าจังหวัดสงขลา ไปรวมกับหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ส่วนหอการค้าสตูล ย้ายไปอยู่กับหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน
นายทรงพล กล่าวอีกว่า การที่โยกย้ายหอการค้าจังหวัดสงขลาอยู่กับหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย ปรากฏว่าจะมีบริบทกายภาพมิติจะต่างกัน ซึ่งหอการค้าจังหวัดสงขลา มีเศรษฐกิจหลายมิติ เช่น การค้าชายแดน การค้าการท่องเที่ยวและเมืองไมซ์ อุตสาหกรรมแปรรูปอุตสาหกรรมการส่งออก ฯลฯ ขณะที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทย มีโครงการเครือข่ายโคเนื้อศรีวิชัยเป็นสัตว์เศรษฐกิจ แต่ จ.สงขลาไม่มี ขณะที่หอการค้าจังหวัดสงขลา หารือเรื่องการค้าชายแดน แต่ขณะที่หอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยไม่มี ซึ่งจะต่างมิติกันทำให้ จ.สงขลา สูญเสียโอกาสไป
ประกอบกันมีศูนย์กลางกลุ่มอยู่ จ.สุราษฎร์ธานี การเดินทางประชุมหารือระยะทางไกลที่ไม่เอื้ออำนวยต่อฝ่ายกระทรวงมหาดไทยและภาคเอกชน จ.สงขลา
นายทรงพล กล่าวอีกว่า หอการค้าจังหวัดสงขลา เป็นต้นเรื่องจัดตั้งกลุ่มหอการค้าใหม่มาหลายปี ที่จะจัดตั้งหอการค้ากลุ่มใหม่ขึ้นมาเพื่อให้สอดรับกับบริบทกายภาพและมิติทางเศรษฐกิจ โดยจะมีหอการค้าจังหวัดสงขลา หอการค้าจังหวัดพัทลุง และหอการค้าจังหวัดสตูลรวมกัน จากมีบริบทเศรษฐกิจที่จะเหมือนกันและใกล้ชิด ซึ่งเป็นจังหวัดรอยต่อกันและจะเป็นการเชื่อมโยงกันระหว่างระหว่างจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยกับจังหวัดภาคใต้ฝั่งฝั่งอันดามัน โดย จ.พัทลุง เป็นกึ่งกลาง เขา ป่า นา เล จะสอดรับกับเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรม ฯลฯ ในบริบทที่กลมกลือนกัน
“โดย กรอ.จังหวัดพัทลุง ต่างเห็นด้วยที่จะรวมกลุ่มกับหอการค้าจังหวัดสงขลา แต่ทาง กรอ.จังหวัดสตูล โดยในแต่ละส่วนจะมีความเห็นต่าง ทั้งจากหอการค้าจังหวัดสตูล สภาอุตสาหกรรมจังหวัดสตูล สมาคมท่องเที่ยวจังหวัดสตูล ฯลฯ ส่วนหนึ่งก็จะอยู่กับหอการค้ากลุ่มจังหวัดดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ระบุว่าเป็นเชื่อมโยงเรื่องการท่องเที่ยวที่มีศักยภาพ และส่วนหนึ่งจะอยู่กับหอการค้ากลุ่มจังหวัดภาคใต้ชายแดน เพราะเกี่ยวกับศักยภาพเรื่องทางด้านสิทธิประโยชน์ทางด้านการลงทุน ทั้งเงินกู้ และดอกเบี้ย เรื่องจึงอยู่ระหว่างการหารือที่ยังไม่ตกผลึกหลายปี”
นายทรงพล กล่าวว่า สำหรับเรื่องการจัดกลุ่มหอการจังหวัดใหม่ ทางหอการค้า ได้ทำเรื่องถึงกระทรวงมหาดไทยไปแล้ว และปรากฏว่าทางกระทรวงมหาดไทย คืนเรื่องกลับมาว่าให้เจ้าของแต่ละพื้นที่ทำการหารือให้เป็นที่ลงตัวแล้วนำเสนอเรื่องขึ้นขึ้นใหม่เพื่อพิจารณาอนุมัติ
“หากทาง กรอ.จังหวัดสตูล ไม่เห็นด้วย ทางหอการค้าจังหวัดสงขลา ร่วมกับหอการค้าจังหวัดสงขลา จะจัดตั้งหอการค้ากลุ่มใหม่จะได้หรือไม่ก็จะไม่ทราบหลักเกณฑ์รายละเอียอด ขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทยพิจารณา” นายทรงพล กล่าว.

