อดีตผอ.ศูนย์พัฒนาเกษตรภูสิงห์เล่าย้อนน้ำตาคลอได้รับโอกาสเฝ้ารับเสด็จ "สมเด็จพระพันปีหลวง" รายงานโครงการพลิกผืนดินศรีสะเกษ

อดีตผอ.ศูนย์พัฒนาเกษตรภูสิงห์เล่าย้อนน้ำตาคลอได้รับโอกาสเฝ้ารับเสด็จ  "สมเด็จพระพันปีหลวง" รายงานโครงการพลิกผืนดินศรีสะเกษ





Image
ad1

อดีต ผอ.ศูนย์พัฒนาเกษตรภูสิงห์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับโอกาสเฝ้ารับเสด็จ ถวายรายงานถึง 7 ครั้ง กับโครงการพัฒนาเกษตรภูสิงห์ ที่ช่วยชาวบ้าน ลืมตา อ้าปากได้ แห่งแรกของไทย

ที่ ศูนย์พัฒนาเกษตรภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ของ องค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ได้ทรงดำริให้เกิดมี จากความที่จังหวัดศรีสะเกษในอดีต ได้ขึ้นชื่อว่า เป็นจังหวัดศรีสะเกษ ที่ประชาชนมารายได้ ในระดับยากจนเป็นลำดับสุดท้ายของประเทศ ถึงกับมีข่าวว่าประชาชนบางคนกินดิน แม้แท้จริงแล้วจะเป็นอาการแพ้ท้องของหญิงที่ตั้งท้องก็ตาม ในความหวงใยของพระองค์ท่านฯ ได้คิดหาวิธี และได้ดำริให้จัดตั้ง ศูนย์พัฒนาเกษตรภูสิงห์ เมื่อปี พ.ศ.2537

โดยมี นาย มงคล จำปาทอง ไปทำหน้าที่คนแรกของศูนย์ แม้จะอยู่ในพื้นที่สีแดง ของการแบ่งแยกความคิดของประชาชน ที่จะเข้าลัทธิคอมมิวนิสต์ กับการเป็นคนไทย ทำให้การดึงใจประชาชนมาทำงาน มาเรียนรู้เกษตรทฤษีใหม่ นั้นยากลำบากมาก แต่ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ ต่อสมเด็จพระราชชินีฯ ในขณะนั้น ทำให้เกิดความมุ่งมั่นในการทำงาน และได้มีโอกาส รับเสด็จ เข้าเฝ้าใกล้ชิด ถวายรายงานถึงความก้าวหน้า รับเสด็จที่จังหวัดศรีสะเกษ ถึง 7 ครั้ง นับเป็นความภาคภูมิใจหาที่สุดมิได้

นาย มงคล จำปาทอง อดีต ผอ.ศูนย์พัฒนาเกษตรภูสิงห์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( มีน้ำตาคลอ เสียงสั่น ) กล่าวว่า ในเรื่องของความรู้สึกต่อพระองค์ท่าน ผมมีความประทับใจต่อพระองค์ท่าน ในการที่พระองค์ท่านได้เอาใจใส่ แสดงความห่วงใยต่อชาวจังหวัดศรีสะเกษ โดยเฉพาะในพื้นที่ยากจน เด็กกินดิน หญิงกินดิน ซึ่งการทรงงานของพระองค์ท่าน ตามที่ผมได้ถวายงานต่อหน้าพระองค์ท่าน ในความก้าวหน้าของศูนย์พัฒนาเกษตรภูสิงห์ พระองค์ท่านก็จะทรงบอกว่า ทำต่อไปน่ะลูก ซึ่งผมเองนั้นนประทับใจ ที่พระองค์ท่านเอาใจใส่ ต่อเกษตรกรของศรีสะเกษเรา ไม่ว่าจะเป็นอำเภอภูสิงห์ หรืออำเภอต่างๆ

มงคล จำปาทอง อดีต ผอ.ศูนย์พัฒนาเกษตรภูสิงห์ อันเนื่องมาจากพระราชดำริ

โดยพระองค์จะสอบถามตลอดว่า มีเกษตรกรเขามาดูงานกันไหม เข้ามาดูงานเกษตรมากไหม แล้วเราได้ช่วยเขาอย่างไรบ้าง ทรงถามไถ่ตลอด พร้อมให้กำลังใจแก่คณะทำงาน ทุกครั้งที่ผมเองได้เข้าเฝ้า ทำให้พวกเราปลาบปลื้มเป็นอย่างมาก ซึ่งพระองค์ท่านไม่ถือตัวเลย กับ พสกนิกรของพระองค์ ซึ่งทรงยิ้มแย้ม แจ่มใส โดยพระองค์ท่านได้เสด็จจังหวัดศรีสะเกษ มากถึง 7 ครั้ง และทุกครั้ง ผมก็ได้มีโอกาสเข้าเฝ้าถวายรายงาน ถึงความก้าวหน้าของศูนย์พัฒนาเกษตรภูสิงห์ โดยตลอด เป็นความภาคภูมิใจ ในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น สู่ตนและครอบครัว

พงษ์พัฒน์ไตรพิพัฒน์ ภาพ/ข่าว
เสนาะ วรรักษ์/รายงาน