สจล. จัดงาน “Dinner Talk” ขับเคลื่อนอนาคตเทคโนโลยีขั้นสูงของประเทศไทย

คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) ในความร่วมมือกับบริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด จัดงาน Dinner Talk ภายใต้หัวข้อ “Shaping Thailand’s Next Advanced Technology Leap” ณ ห้องบอลรูมศาลาไทย โรงแรมแบงค็อก แมริออท มาร์คีส์ ควีนส์ปาร์ค โดยงานนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของประเทศไทยในการมุ่งสู่การเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีขั้นสูงของภูมิภาค

โดยเฉพาะในด้านเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์/การเรียนรู้ของเครื่อง (AI/ML) งานนี้เน้นย้ำถึงความก้าวหน้าของโครงการพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงในด้านเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง เทคโนโลยีเวเฟอร์ และ AI/ML ซึ่งเป็นโครงการระดับชาติที่ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) ภายใต้กองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.)
ความร่วมมือแบบ Triple Helix
โครงการนี้เป็นตัวอย่างของโมเดล Triple Helix ซึ่งเป็นความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคอุตสาหกรรม โดยมีเป้าหมายเพื่อพัฒนากำลังคนที่พร้อมรับอนาคต และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยในภาคเทคโนโลยีขั้นสูง โดยได้รับเกียรติจากผู้นำระดับสูงจากภาครัฐ สถาบันการศึกษา และภาคอุตสาหกรรมเข้าร่วม

ศาสตราจารย์ ดร. สุรินทร์ คำฝอย รองผู้อำนวยการ สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) กล่าวว่า “ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และสถาบันการศึกษา ภายใต้โมเดล Triple Helix ถือเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างในการสร้างอนาคตของภาคเทคโนโลยีขั้นสูงของไทย พัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงด้านเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง เทคโนโลยีเวเฟอร์ และปัญญาประดิษฐ์/แมชชีนเลิร์นนิ่งและ ระบบนิเวศเทคโนโลยีของไทยให้แข็งแกร่งและยั่งยืน เพราะเราตระหนักถึงความต้องการกำลังคนทักษะสูงในอุตสาหกรรมแห่งอนาคตเหล่านี้ โครงการนี้ สอวช. ได้เข้าไปสนับสนุนเพื่อส่งเสริมสนับสนุนน้องๆ ที่เรียนจบปริญาตรี หรือทำงานแล้ว ให้กลับมาฝึกอบรม หรือเรียนต่อในระดับปริญญาโท และปริญญาเอก ถือเป็นปัจจัยสำคัญต่อการยกระดับความสามารถในการแข่งขันของประเทศและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ผมขอชื่นชมสจล. และพันธมิตรที่ริเริ่มโมเดลความร่วมมือเชิงกลยุทธ์แบบนี้ เพื่อให้เกิดการพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูงด้านนี้ขึ้นมา ได้อย่างมีประสิทธิภาพยั่งยืนระยะยาว”

ดร. จิตติ มังคละศิริ รองผู้อำนวยการ หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนากำลังคน และทุนด้านการพัฒนาสถาบันอุดมศึกษา การวิจัยและการสร้างนวัตกรรม (บพค.) กล่าวถึงบทบาทของโครงการที่ได้รับมอบหมายจาก ววน. ว่า“โครงการนี้เป็นหนึ่งในเสาหลักของยุทธศาสตร์ชาติด้านวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ 2568 ที่มุ่งสร้างงานใหม่ที่มีมูลค่าสูงและรายได้ดีในสามอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ เซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง ยานยนต์ไฟฟ้า และปัญญาประดิษฐ์ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศและเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่คนไทยโดยคาดหวังต่อโครงการนี้ว่าต้องการสนับสนุนพัฒนาทักษะบุคลากรขั้นสูง ทั้งบุคลากรในภาคอุตสาหกรรม ตั้งเป้าหมายที่จะ พัฒนากำลังคน ภายใน 2 ปี จำนวน 7,500 คน ครอบคลุมการ Reskill และ Up Skill เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการทั้ง 3 อุตสาหกรรมสนับสนุนพัฒนากำลังคน ผ่านการมีพันธมิตรเป็นผู้ขับเคลื่อน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมกันออกแบบหลักสูตรและลงทุนร่วมกัน เพราะเป้าหมายของ บพค. ไม่ใช่แค่การฝึกอบรม แต่คือการสร้างโอกาสการทำงานที่มั่นคง ยกระดับรายได้คนไทยให้สูงขึ้น เพราะนี้คืออนาคตของประเทศ และความมั่นคงของเศรษฐกิจไทย
นายนรเชษฐ์ แซ่ตั้ง รองประธานอาวุโสฝ่ายปฏิบัติการและผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทย บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะตัวแทนภาคอุตสาหกรรม กล่าวว่า “เรามุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพของบุคลากรไทย เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับเทคโนโลยีแห่งอนาคต โครงการ Triple Helix จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับทั้งองค์กรและระบบนิเวศเทคโนโลยีของไทย สร้างรากฐานที่ยั่งยืนสำหรับอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงของประเทศ”
รองศาสตราจารย์ ดร. สมยศ เกียรติวนิชวิไล คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. กล่าวต้อนรับผู้เข้าร่วมงาน โดยเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของสจล. ในการพัฒนาหลักสูตรและฝึกอบรมบุคลากรให้ตอบโจทย์อุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงว่า“โครงการนี้ต่อยอดจากความร่วมมือที่มีมาอย่างยาวนานระหว่างคณะวิศวกรรมศาสตร์ สจล. กับภาคอุตสาหกรรม และได้ขยายผลเป็นโครงการระดับชาติ เพื่อสร้างบุคลากรที่มีสมรรถนะสูงในด้านเทคโนโลยีเวเฟอร์และ AI/ML”
“ในปีแรก เราได้ฝึกอบรมบุคลากรกว่า 800 คน ทั้งจากภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรม และตั้งเป้าจะพัฒนาให้ครบ 3,000 คนภายใน 3 ปี เพื่อรองรับการขยายตัวของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูงและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ”

มุมมองระดับโลกจากผู้เชี่ยวชาญนานาชาติ
ภายในงานยังมีการบรรยายพิเศษจากผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ ได้แก่:
-ดร. หัวชิง ยิน หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี ซีเกท เทคโนโลยี สหรัฐอเมริกา
-ศาสตราจารย์ ฮองโชว์ คู อาจารย์รับเชิญ มหาวิทยาลัยแห่งชาติหยางหมิงเจียวตุง (National Yang Ming Chiao Tung University: NYCU) ประเทศไต้หวัน
-ดร. สถิตีย์ บอม รองประธานฝ่ายข้อมูลและการวิเคราะห์ ซีเกท เทคโนโลยี สหรัฐอเมริกา
ศาสตราจารย์ เจมส์ เดวิส รองอธิการบดีฝ่ายไอที (CIO/CTO) กิตติคุณ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ลอสแอนเจลิส (University of California, Los Angeles: UCLA)
ผู้เชี่ยวชาญได้แบ่งปันมุมมองเกี่ยวกับ เทคโนโลยีเวเฟอร์ การผลิตชิป การจัดการข้อมูลขั้นสูง และการประยุกต์ใช้ AI/ML ในอุตสาหกรรมจริง ซึ่งเป็นองค์ความรู้สำคัญต่อการพัฒนากำลังคนเทคโนโลยีในประเทศไทยสู่ ความร่วมมือระดับชาติ เพื่อระบบนิเวศเทคโนโลยีที่ยั่งยืน โครงการพัฒนากำลังคนสมรรถนะสูง ดำเนินการโดยความร่วมมือระหว่างสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (สจล.) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) สถาบันวิจัยแสงซินโครตรอน (สซ.) บริษัท ซีเกท เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด
งาน Dinner Talk ครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง ความมุ่งมั่นของประเทศไทยในการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างยั่งยืน ผ่านการบูรณาการของสามภาคส่วนหลักในโมเดล Triple Helix และถือเป็นจุดเริ่มต้นของการ “ก้าวกระโดดครั้งใหม่” ในการสร้างบุคลากรคุณภาพเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจนวัตกรรมไทยในอนาคต เดินหน้าสู่ “Thailand’s Next Leap”

