นครบาลสนธิกำลังปิดนานาล่าแก๊งยานรกคนดำ รวบ 8 ชาวไนจีเรีย 1 คนไทย

“ปิดนานาล่าแก๊งยานรกคนดำ” ตำรวจนครบาล และ บช.ปส. 40นาย ปลอมตัวเป็น “ช่างปูน” ขึ้นรถสองแถว และสาวกลางคืนตีเนียนก่อนบุกทลายรวบ 9 คน ยกแก๊ง “กระเจิง” วิ่งหนีตลาดแตกไล่ล่าอย่างดุเดือด บางรายกลืนยาเสพติดลงท้องเพื่อหนีความผิด อึ้งอมยาเสพติดไว้ในปาก เมื่อมีลูกค้าก็คายออกมาให้
จากกระทู้ในเพจดัง "ThailandTourism" เป็นคอมมูนิตี้สำหรับนักท่องเที่ยว มีสมาชิกทั่วโลก 430K คน โพสต์ใหม่เฉลี่ย7,900 ครั้งต่อสัปดาห์ แจ้งเตือนถึง “กลุ่มชายผิวสีชาวแอฟริกา” เป็นจำนวนมาก รายงานพฤติกรรม ขายยาเสพติด , หลอกลวง และพยายามล้วงกระเป๋าซึ่งส่งผลอย่างรุนแรงอันทำให้ชาวต่างชาติตัดสินใจไม่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย ย่านนานา

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งตำรวจทุกหน่วยสแกนพื้นที่ท่องเที่ยวตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งเน้น “การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” นครบาลร่วมกับ บช.ปส.ปฏิบัติการ “ทลายเงามืดนานา” (Take Down Black-Shadow Nana)
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผู้ช่วย ผบ.ตร. , พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. , พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. , พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคํา ผบก.น.5 , พล.ต.ต.นพสิทธิ์ มิตรภักดี ผบก.ปส.1 , พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ รอง ผบก.ปส.1 , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.ภพธร จิตต์หมั่น รอง ผบก.น.5 , พ.ต.อ.คณพศ ธนภูมิบุญญิน ผกก.1 บก.ปส.1 , พ.ต.อ.ยิ่งยศ สุวรรณโณ ผกก.สน.ลุมพินี นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ศอ.ปส.บช.น. , บก.สส.บช.น. , บก.น.5 และ บช.ปส. เปิดปฏิบัติการ “ทลายเงามืดนานา” (Take Down Black-Shadow Nana) จับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสิ้น 9 ราย ดังนี้เป็นชาวไนจีเรีย 8 ราย และชาวไทย 1 ราย

ตรวจยึดของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) บรรจุหีบห่อพันด้วยเทปสีดำ พบที่ตัวผู้ต้องหาเป็นจำนวน 2 ถุง นำหนักรวม 4 กรัม และอีกจำนวนมากอยู่ระหว่างรอผู้ต้องหาถ่ายท้องเพื่อพิสูจน์ทราบ และตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 11 เครื่อง (พบข้อมูลซื้อขายยาเสพติดจำนวนมาก)
โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคเคน) โดยการมีไว้เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2(โคเคน) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำเพื่อการค้า และก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน”ซึ่งจับกุมได้ที่ ริมถนนฟุทบาธ ซ.สุขุมวิท 11 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา จ.กรุงเทพฯ

พฤติการณ์กล่าวคือ สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ตำรวจทุกหน่วยสแกนพื้นที่ท่องเที่ยวทั่วประเทศ ตามนโยบายรัฐบาลที่มุ่งเน้น “การส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน” พล.ต.อ.สำราญ นวลมา รอง ผบ.ตร.(ผอ.ศอ.ปส.ตร.) “จัดชุดลาดตระเวน Online”จนได้พบกับกระทู้ใน Reddit โดยหัวข้อใหญ่เรื่อง"ThailandTourism" ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้บนโลกออนไลน์สำหรับนักท่องเที่ยว มีสมาชิกทั่วโลก 430K คน โพสต์ใหม่เฉลี่ย7,900 ครั้งต่อสัปดาห์ ซึ่งปรากฏการรีวิวแง่ลบแจ้งเตือนถึง “กลุ่มชายผิวสีชาวแอฟริกา” เป็นจำนวนมาก โดยมักรายงานถึงรายงานพฤติกรรม ขายยาเสพติด , หลอกลวง และพยายามล้วงกระเป๋าซึ่งส่งผลอย่างรุนแรงอันทำให้ชาวต่างชาติตัดสินใจไม่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย ย่านนานา
จึงได้สั่งการให้ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส. บูรณาการร่วมกับ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. นำกำลัง ศอ.ปส.ตร. , ศอ.ปส.บช.น. และ บก.ปส.1 แฝงตัวอำพลางลาดตระเวนเดินเท้าในพื้นที่ย่าน นานา-อโศก จนได้พบกับกลุ่มชายผิวสี ยืนจับกลุ่มจำหน่ายยาเสพติดให้กับนักท่องเที่ยวที่ผ่านไปผ่านมา แต่ทว่าจากข้อมูลการสืบสวนปรากฏว่ากลุ่มชายผิวสีนี้มีทักษะการต่อต้านเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี กล่าวคือ จะไม่สนทนากับคนไทย จะพูดคุยแค่กับนักท่องเที่ยวต่างชาติเท่านั้น และหากพบคนไทยหรือคนต้องสงสัยว่าจะเป็นตำรวจจะวิ่งหนีทันที และมีทักษะพิเศษคือการอมยาเสพติดไว้ในปาก เมื่อมีลูกค้ามาขอซื้อก็จะแอบคายออกจากปากแล้วส่งให้ลูกค้า (พบเห็นในกล้องวงจรปิด) และหากเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบจะ“กลืนยาเสพติดลงท้อง” เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบไม่พบของกลาง

จึงบูรณาการกำลัง ชุดปราบปรามยาเสพติดนครบาล (ศอ.ปส.บช.น. ), บก.ปส.1 สยบไพรี และ สน.ลุมพินี กว่า 40 นาย แต่งกายเป็น “ช่างปูน” อัดขึ้นรถ 2 แถว ไปจอดบริเวณไซส์งานก่อสร้างกลางซอยสุขุมวิท 11 ใกล้กับจุดที่ชายผิวสีจับกลุ่มขายยาเสพติด ระหว่างที่ไปถึงตำรวจอำพลางในชุดช่างเทปูนกว่า 20 ชีวิต ต่างลุ้นไปด้วยกันว่ากลุ่มคนร้ายจะรู้ตัวหรือไม่ แต่ปรากฏว่าใบหน้าของเจ้าหน้าที่สืบสวนสามารถแนบเนียนไปกับพื้นหลังไซส์งานก่อสร้างอย่างลงตัว กลุ่มคนร้ายตายใจเข้าใจว่า 20 ชีวิตบนรถ 2 แถว นั้นเป็นคนงานก่อสร้างจริง จึงยังจับกลุ่มขายยาเสพติดต่อไป ผ่านไปไม่นานได้มีชาวต่างชาติ 2 รายถูกกลุ่มคนร้ายชักชวนพูดคุย
ก่อนคายยาเสพติดออกจากปากแล้วส่งมอบสิ่งของบางอย่างกันต่อหน้าต่อตา ชุดสืบสวนที่อำพลางในชุดช่างก่อสร้าง จึงลงจากรถ 2 แถว ยืนล้อมกลุ่มคนร้ายอย่างแนบเนียน ทันใดนั้น พล.ต.ต.ธีรเดชฯ จึงได้สั่งการ “เอาเลย” ชุดสืบสวนที่อำพลางในชุดช่างก่อสร้างที่ยืนรายล้อมกลุ่มคนร้าย ตะครุบตัวจนกลุ่มคนร้าย “ผึ้งแตกรัง” บางรายสามารถวิ่งหนี บางรายกลืนของกลางยาเสพติดลงท้อง แต่ทว่าไม่ทันการณ์ถูกชุดสืบสวนรวบตัวได้ทั้งหมด 9 คนพร้อมของกลางยาเสพติด หลังจับกุมตัวได้นำส่พนักงานสอบสวน บก.ปส.1 เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบช.น. หัวหน้าศูนย์ปราบปรามยาเสพติด บช.น. / รองโฆษกฯ กล่าวว่า “จากแผนประทุษกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดของกลุ่มชายผิวสีชาวแอฟริกา มักลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยด้วยการ “กลืน” กล่าวคือจะนำยาเสพติดห่อในพลาสติกอย่างแน่นหนาและกลืนเข้าไปในท้องเป็นจำนวนมาก ก่อนจะนั่งเครื่องบินเข้ามายังประเทศไทย แล้วมาขับถ่ายนำยาเสพติดออกมาแล้วจะนำมาขายยังแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยส่วนมากจะเป็นกลุ่มประเภท โคเคน จากการขยายผลการจับกุมครั้งนี้พบว่าเป็นขบวนการลักลอบนำยาเสพติดเข้ามาในประเทศไทยผ่านช่องทางเครื่องบิน และกลุ่มผู้ที่คอยจำหน่ายจะใช้ยุทธวิธีพิเศษ นำยาเสพติดพันเทปไว้แล้วซุกซ่อนไว้ในปาก เมื่อถูกจับกุมจะทำการกลืนยาเสพติดเข้าไปในท้องทันที ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่พบของกลาง ซึ่งคดีนี้เราใช้การอำพลางจนสามารถเข้าถึงตัวคนร้ายได้ไว
แต่ยังมีอีกหลายรายที่สามารถกลืนยาเสพติดไปได้ทัน ซึ่งขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการให้ผู้ต้องหาดื่มนมและถ่ายท้องเพื่อพบของกลางเพิ่มเติม ซึ่งระหว่างการจับกุมในย่านนานาพบว่ามีชาวต่างชาติมากล่าวชื่นชมกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก เพราะกลุ่มคนผิวสีนี้มีการสร้างความเดือดร้อนให้กับนักท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก อันเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง ซึ่ง พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. ได้สั่งการให้ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติในลักษณะนี้ทั่วพื้นที่นครบาล และจะมีบูรณาการร่วมกับ พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง ผบช.ปส. หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการขยายผลให้ถึงที่สุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวในประเทศไทย ตามนโยบายของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.”ภพ

