น่าน – คณะสงฆ์ และ ครูอาสาสอน จัดโครงการ “อ่านเขียนเรียนไทย” เสริมทักษะอ่านออกเขียนได้ ให้สามเณร

น่าน – คณะสงฆ์ และ ครูอาสาสอน  จัดโครงการ “อ่านเขียนเรียนไทย”  เสริมทักษะอ่านออกเขียนได้ ให้สามเณร





Image
ad1

พระครูสิรินันทวิทย์ เจ้าคณะอำเภอเมืองน่าน  ได้ร่วมกับคณะครูจิตอาสา จัดทำโครงการ “อ่านเขียนเรียนไทย”  โดยมีกิจกรรม ครูอาสาสอนหนังสือภาษาไทย ให้กับ สามเณร จำนวน 20 รูป ที่ยังอ่านและเขียนภาษาไทยไม่คล่อง และส่งผลต่อการเรียนหนังสือในชั้นเรียน  โดยได้มีการนำหนังสือเรียนภาษาไทย ทั้งการฝึกเขียนพยัญชนะทั้ง 44 ตัว  สระและวรรณยุกต์  การฝึกประสมคำ  และฝึกการอ่านภาษาไทย ซึ่งนอกจากการเรียนอย่างเข้มข้นแต่สนุกสนาน ไม่เน้นวิชาการจนน่าเบื่อ แต่เป็นการปรับการเรียนการสอนที่สามารถเข้าใจง่ายและใช้ได้ทันที  รวมทั้งยังได้มีการนำสามเณร ไปทัศนศึกษาและเล่นกิจกรรมค้นหาคำศัพท์ภาษาไทย ในบริเวณหอศิลป์ริมน่าน  ของศิลปินวินัย ปราบริปู   ซึ่งเป็นพื้นที่แสดงงานศิลปะและเป็นจุดท่องเที่ยว ทำให้สามเณร ได้สนุกสนานและกระตุ้นการเรียนรู้ด้วย

โดยสามเณรที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้ ได้เล่าให้ฟังว่า “จากที่ผ่านมาอ่านหนังสือไม่ออก ทำให้ไม่อยากอ่านหนังสือ กลัวการอ่านหนังสือ  แต่เมื่อได้เรียนรู้จนอ่านหนังสือได้ ทำให้ตอนนี้อยากอ่านหนังสือมากยิ่งขึ้น สนุกกับการได้อ่านหนังสือ และได้ความรู้จากหนังสือเพิ่มมากขึ้นด้วย”   นอกจากนี้ นักเรียนสามเณรบางรูป บอกว่า จะชวนเพื่อนที่ยังอ่านเขียนไม่คล่องมาร่วมกิจกรรมด้วย ถ้าครูจัดครั้งต่อไป เพราะมีบางรูปที่ไม่มีโอกาสได้เรียนเนื่องจากเกินจำนวนที่กำหนด”  รวมทั้งความตั้งใจของสามเณรรูปหนึ่ง ที่เดินระยะ 5 กิโลเมตร เพื่อมาเข้าเรียนในค่ายอบรมซึ่งจัดที่โรงเรียนนันทบุรีวิทยา ฯ วัดพระธาตุช้างค้ำวรวิหาร เนื่องจากไม่มีรถมาส่งเณร   เสียงสะท้อนเหล่านี้ กลายเป็นรอยยิ้มและพลังของคณะครูจิตอาสาสอน  ที่ได้เป็นผู้แบ่งปันและให้ความรู้

พระครูสิรินันทวิทย์ เจ้าคณะอำเภอเมืองน่าน รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดภูมินทร์  และผู้อำนวยการโรงเรียนนันทบุรีวิทยา วัดพระธาตุช้างค้ำฯ เล่าความเป็นมาของโครงการเสริมทักษะ อ่านเขียนเรียนไทย ที่โรงเรียนกำลังดำเนินการว่า "ช่วงนี้เน้นนักเรียนสามเณรระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ที่ยังอ่านไม่คล่อง เขียนไม่คล่องก่อน มีผลการเรียนช้ากว่าหลักสูตรปกติมาก  นักเรียนสามเณรของเราส่วนใหญ่อยู่จังหวัดน่าน  มีจังหวัดอื่นๆบ้าง  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็มี ผู้ปกครองล้วนขัดสน ทำมาหากินฝืดเคือง จบระดับประถมศึกษาบางรูปอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ บางรูปอ่านไม่คล่อง เขียนไม่คล่อง เมื่อสามเณรมาอยู่กับเรา ก็ช่วยกัน สอนตอนเย็นบ้าง  แต่ยังไม่ได้ผลตามที่ควรจะเป็น" 

ทางด้าน พระครูบวรเจติยารักษ์ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดช้างค้ำฯ และเคยเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนนันทบุรีวิทยา ระยะหนึ่ง กล่าวเสริมว่า โรงเรียนได้ร่วมกับหน่วยงานบางแห่ง เช่น  สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สมาคมครูภาษาไทยแห่งประเทศไทย จัดวิทยากรมาอบรมครูบ้าง สอนสามเณรโดยตรงบ้าง    โรงเรียนจัดครูสอนพิเศษเองบ้าง ตามโอกาสอำนวย  ถือว่าได้ผลเป็นครั้งคราว แต่เนื่องจากสามเณรนักเรียนมาเข้าเรียนใหม่ทุกปี มีสภาวะอย่างที่เล่ามา  จึงพยายามคิดว่า จะทำอย่างไร ให้แก้ปัญหาได้ยั่งยืน  และใช้กับโรงเรียนแผนกพระปริยัติธรรมอื่นๆได้ด้วย

อาจารย์ปราณี ปราบริปู ซึ่งอุปถัมภ์โรงเรียนด้านภาษาไทย  เล่าว่า  จากดำริของท่านที่ปรึกษาโครงการทั้งสองรูป  คณะทำงานได้ริเริ่มโครงการ ประกอบด้วย พระมหาภัทรดนัย พระภัทรบดินทร์ และอาจารย์ภาษาไทยของโรงเรียน ได้ประชุมร่วมกัน เพื่อให้โครงการนี้สู่ความสำเร็จ จะมีการทดลองทั้งสื่อ และวิธีการ รวมทั้งถอดบทเรียน ให้รุ่นต่อไปปฏิบัติได้   จากนั้นได้เชิญชวนครูผู้เชี่ยวชาญ  อาสาสมัครร่วมสอน  ขณะนี้ได้ครูเป็นพระสงฆ์ 1 รูป และครูอาสาสอน 7 คน   เนื่องจากโครงการนี้เป็นงานจิตอาสา ไม่มีงบประมาณสนับสนุน  แต่ได้ผู้มีจิตศรัทธาและปรารถนาดีต่อนักเรียนสามเณร  ร่วมบริจาคปัจจัยในการดำเนินโครงการ รวมกว่า  3 หมื่นบาท และยังเหลือพอที่จะจัดค่ายอบรมในต้นปีหน้าได้อีกครั้งหนึ่ง ในโอกาสนี้จึงขอแสดงความขอบพระคุณผู้ใจบุญที่เห็นความสำคัญของการศึกษาของนักเรียนสามเณรและร่วมสนับสนุนโครงการนี้

ระรินธร   เพ็ชรเจริญ   รายงาน