จัดใหญ่ การประชุมสุดยอด "GLA" Global Logistics Enterprise Summit ครั้งที่ 13

จัดใหญ่ การประชุมสุดยอด "GLA" Global Logistics Enterprise Summit ครั้งที่ 13





Image
ad1

เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2568 (เวลา 09.00 น.)  ณ ห้องเวิลด์บอลรูม  เซ็นทาราแกรนด์ โรงแรมเซ็นทรัลเวิลด์ (ชั้น)การประชุมในครั้งนี้ถือเป็นเวทีระดับโลกที่รวมผู้นำธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญ และนักลงทุน จากแวดวงโลจิสติกส์ ซัพพลายเชน การค้า เทคโนโลยี และการลงทุน เพื่อเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น เสริมสร้างความร่วมมือ และร่วมกันกำหนดทิศทางอนาคตของอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ทั่วโลก

โดยในงานนี้ได้รับเกียรติจากพณฯ ท่าน พงศ์เทพ  เทพกาญจนา  อดีตรองนายกรัฐมนตรี  เป็นประธานในพิธีเปิดงาน  Global Logistics Alliance 2025 ครั้งที่ 13  พร้อมด้วย “ Grace sun ”  President / China (Gla) Global Logistics Alliance ประธานจัดงาน และผู้บริหาร  ร่วมพิธีเปิดงาน “Global Logistics Alliance 2025” ครั้งที่ 13

โดยมี หม่อมหลวง สุภาพ ปราโมช ที่ปรึกษาอาวุโสสมาคมการค้าเศรษฐกิจไทย-จีน-เอเซีย - พลเอกประเสริฐ ยังประภากร อดีตผู้ตรวจราชการ กองบัญชาการทหารรักษาพระองค์ - นาวาเอก กิตติธัช พาเจริญ - รศ.เอกพร รักความสุข สมาชิกสภาผู้แทนราษฏร - พันเอกธนิตย์ พฤกษ์ภาณุเวช - ดร.ดาร์วิน หยาง ประธานสมาคมพาณิชย์และอุตสาหกรรมอาเซียน-จีน - คุณดำรงศักดิ์ มนัสวานิช - คุณจาง เจี๋ย รองคณะบดี คณะวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยสยาม และแขกผู้มีเกียรติ160 ประเทศทั่วโลก นักธุรกิจ เข้าร่วมพิธีเปิดงานกันอย่างคับคั่ง

”การประชุมปีนี้มีความสำคัญเป็นพิเศษเนื่องจากปี 2025 ถือเป็นปีครบรอบ 50 ปี แห่งความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างประเทศไทยและประเทศจีน ตลอดระยะเวลาครึ่งศตวรรษที่ผ่านมา ทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันอย่างใกล้ชิด ในด้านเศรษฐกิจ การค้า การศึกษา และวัฒนธรรมจนกลายเป็นแบบอย่างของมิตรภาพที่ยั่งยืนในภูมิภาคนี้ อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ในฐานะที่เป็นเส้นเลือดใหญ่ของเศรษฐกิจโลก มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนความมั่งคั่ง และเสริมสร้างการเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค

 “ดิจิทัล โลจิสติกส์ – โลจิสติกส์สีเขียว – และโลจิสติกส์อัจฉริยะ” คือทิศทางใหม่ของยุคสมัยปัจจุบัน ที่ทุกประเทศกำลังมุ่งหน้าไปด้วยกัน ประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางภูมิภาคอาเซียน มีบทบาทสำคัญในฐานะศูนย์กลางยุทธศาสตร์ ที่เชื่อมโยงเอเชีย แปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดียเข้าด้วยกัน รัฐบาลไทยให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่องกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะในพื้นที่ ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) พร้อมทั้งมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในโครงการ Belt and Road Initiative (BRI) และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค หรือ RCEP

โครงการเหล่านี้กำลังสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจใหม่ ๆ และเสริมความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายโลจิสติกส์ในภูมิภาค ทั้งในด้านความยืดหยุ่นและขีดความสามารถในการแข่งขัน ประเทศไทยยังคงยึดมั่นในหลักการของ “การเปิดกว้าง ความร่วมมือ และผลประโยชน์ร่วมกัน” โดยในครั้งนี้ยังมีการลงนาม "MOU"  ความร่วมมือทางด้านโลจิสติกส์  ซึ่งจะก่อให้เกิดการเชื่อมโยงด้านการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ และ พันธมิตร ระหว่างบริษัท Logistics ที่เป็นสมาชิก "GLA" ทั่วโลก

เราเชื่อว่าหากนวัตกรรมหรือเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้รับการสนับสนุนที่ถูกต้องและทันเวลา จะช่วยเกื้อหนุนและสร้างความเปลี่ยนแปลงให้ธุรกิจในภาคโลจิสติกส์ดำเนินไปในทิศทางที่ดีขึ้น กล่าวคือทันสมัยขึ้น เร็วขึ้น ปลอดภัย ลดต้นทุน และมีประสิทธิภาพมากขึ้น  ซึ่งจะช่วยเชื่อมโยงประเทศไทยกับภูมิภาคอาเซียนและตลาดโลก สร้างมิตรภาพ และโอกาสใหม มีความมั่นคงและยั่งยืนต่อไป