คนละครึ่งพลัสปลุกเศรษฐกิจฐานรากพัทลุงคึกคัก-พ่อค้าแม่ค้าแฮปปี้ทั่วหน้า

โครงการคนละครึ่งตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคมจนถึงต้นเดือนพฤศจิกายน  2568 ประชาชนต่างแห่เข้าร้านค้าตั้งแต่เช้าจนถึงเย็นเพื่อจับจ่ายซื้อสินค้าบริโภคในครัวเรือน ตั้งแต่ข้าวสาร ไข่ อาหารสำเร็จรูป ฯลฯ

แม่บ้านบ้านควรอินนอโม หมู่ 7 เทศบาลตำบลเขาหัวช้าง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง เปิดเผยว่า สำหรับในครอบครัวจำนวน 8 ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 5 ใบ ซื้อข้าวสาร 2 กระสอบเป็นหลัก แต่วันนี้ ( 1 พย.) ไปตลาดแม่ขรี ศูนย์กลางการค้าเศรษฐกิจ จ.พัทลุงตอนล่าง เอเย่นต์ข้าวสารรายใหญ่ ปรากฏว่าร้านข้าวสารที่เข้าร่วมโครงการ ข้าวสารประเภทกระสอบขายหมดเกลี้ยง

ส่วนแม่บ้าน หมู่ 3 บ้านด่านโลด เขตเทศบาลตำบลควนเสาธง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง กล่าวว่า สำหรับตนได้สั่งจองข้าวสารกระสอบไว้ล่วงหน้า ก่อน Quick Win  โครงการคนละครึ่งพลัส ประมาณ 1 เดือน  จากร้านรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ นอกนั้น ไข่ 3 แผง กะปิ น้ำมันพืช น้ำปลา น้ำตาลทราย น้ำมันพืช กาแฟ ผงชูรส ยาสีฟัน สบู่ น้ำยาล้างจาน

“และยังอีกรุ่นในเดือนธันวาคม 2568 จะซื้อข้าวประเภทกระสอบ พร้อมอาหารบริโภคยกล๊อตเช่นกันตุนเอาไว้ในฤดูฝน น้ำท่วม ในปลายปี 2568 จนถึงปีใหม่ 2569 คนละครึ่งพลัสนี้สามารถบรรเทาไปได้มาก”

เจ้าของร้านค้าปลีก เปิดเผยว่า ปกติตอนเข้าช่วงฤดูฝนเฉพาะข้าวสารจะเป็นอันดับต้น ๆ สำหรับคนรอบนอกที่จะซื้อกักตุนไว้ และเป็นสินค้าที่ขายดีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

“ร้านข้าวสารเขตตลาดแม่ขรี เทศบาลตำบลแม่ขรี จะเป็นเอเย่นต์ใหญ่ประมาณ 3 ร้าน ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการคนละครึ่งพลัส โดยมีเพียงบางเอเย่นต์เย่นต์ที่เข้าร่วม และร้านค้าปลีกทั่วไปที่เข้าร่วมแต่เมื่อข้าวสารหมดก็จะไปรับเอาจากร้านเอเย่นต์ทั้ง 3 ราย”

เจ้าของร้านค้า ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ ( 3 พย.) สินค้าปลีกประเภทของกินได้ปรับตัวขึ้น 2 บาท แทบจะทุกตัวตั้งแต่ กาแฟจากถุงละ 40 ปรับเป็น 42 บาท / ถุง น้ำมันพืชขวดละ 45 บาท เป็น 48 บาท  และปลากระป๋อง 115 บาท เป็น 117 บาท / แพ็ค ฯลฯ

นายสมศักดิ์ พานิช ประธานชมรมโรงสีข้าวระโนด เจ้าของโรงสีข้าวทิพย์พานิช อ.ระโนด จ.สงขลา แหล่งปลูกข้าวรายใหญ่ภาคใต้ เปิดเผยว่า Quick Win  โครงการคนละครึ่งพลัส สนับสนุนให้กับกลุ่มเปราะบาง ซึ่งได้ประจวบเหมาะกับเวลาพอดีเพราะขณะนี้ช่วงฤดูฝนที่คนส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่จะมีอุปสรรคกับการประกอบอาชีพที่ไม่ได้เต็มตามศักยภาพ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรายได้ เมื่อมี Quick Win โครงการคนละครึ่งช่วยเหลือได้มาก

“ประกอบกับบางพื้นที่จะถูกน้ำท่วมจึงได้เตรียมพร้อมตุนข้าวสาร อาหารแห้งสำรองไว้ โดยเฉพาะข้าวสารจะเป็นปัจจัยหลัก และช่วงหน้าฝนจะเป็นประจำทุกปีที่ข้าวสารจะขายดีและเพิ่มขึ้น”

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า  Quick Win โครงการคนละครึ่งพลัส  ส่งผลให้ข้าวสารได้ไหลออกคล่องตัวจากกลุ่มค้าข้าวและโรงสีข้าวที่ได้ระบายออกสร้างกระแสเงินสดหมุนเวียน

นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ประมาณว่าข้าวสารในภาคใต้ในห่วงระยะโครงการละครึ่งล๊อตแรก โดยประมาณจะระบายออกจากกลุ่มค้าข้าวและโรงสี ประมาณ 4,000 – 5,000 ตัน มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 75 ล้านบาท โดยข้าวสารทุกประเภท ราคาเฉลี่ยประมาณ 15 บาท / กก.” นายสมศักดิ์ กล่าว และว่า

เพราะสำหรับข้าวในช่วงนี้ ราคาข้าวเปลือกได้ลดลงประมาณ 5,500 บาท / ตัน ประมาณ 5.50 บาท / กก. เมื่อเทียบกับข้าวในฤดูเดียวกันป่ก่อนช่วงนาปรังที่ราคาประมาณ 9 บาท และ 10 บาท / กก. ส่งผลให้ข้าวสารราคาถูกตามไปด้วยส่งผลให้ผู้บริโภคได้ข้าวสารในราคาที่ต่ำลงด้วย และเหมาะสมกับโครงการคนละครึ่งพลัส แต่ชาวนาจะได้ราคาที่ไม่ดีที่ผ่านมา

ผศ.ดร.วิวัฒน์ จันทร์กิ่งทอง ผู้จัดการ ศูนย์วิจัยนวัตกรรมทางธุรกิจ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่  รายงานผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นของประชาชนในภาคใต้ ด้านเศรษฐกิจและสังคม พบว่าดัชนีความเชื่อมั่นโดยรวมเดือนตุลาคม 42.80 ปรับตัวเพิ่มเมื่อเปรียบเทียบกับเดือนกันยายน 42.00 และเดือนสิงหาคม 42.20

โดยเฉพาะจากรัฐบาลมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือประชาชน “Quick Big Win”  โครงการคนละครึ่งพลัส สร้างรายได้ ลดรายจ่ายให้กับประชาชน และทำให้เม็ดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจไหลเวียนไปสู่ผู้ค้ารายย่อยโดยตรง ซึ่งเป็นภาคส่วนสำคัญของเศรษฐกิจฐานราก

“โดยเฉพาะร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ร้านค้าชุมชน หาบเร่ แผงลอย ประชาชนจำนวน 20 ล้านสิทธิ์ ในวงเงินไม่เกิน 44,000 ล้านบาท เริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 29 ตุลาคม - 31 ธันวาคม 2568 สามารถใช้จ่ายผ่านฟู้ดเดลิเวอรี ร้านค้า ร้านอาหาร”

ผศ.ดร.วิวัฒน์ กล่าวอีกว่า มาตรการลดหย่อนภาษีสำหรับบุคคลธรรมดาเสามารถลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับการเข้าพักโรงแรม โฮมสเตย์ สถานที่พักที่ไม่ใช่โรงแรม รวมถึงค่าอาหารในร้านที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยสามารถลดหย่อนได้สูงสุด 20,000 บาท ซึ่งที่ท่องเที่ยวเมืองหลักจะได้หักค่าลดหย่อนได้ 1 เท่าของค่าใช้จ่าย และเที่ยวเมืองรองจะได้หักค่าลดหย่อนได้ 1.5 เท่าของค่าใช้จ่าย ซึ่งจะช่วยเพิ่มยอดขายให้กับธุรกิจ SME ร้านอาหาร โรงแรม ที่พัก และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง

มาตรการลดราคาสินค้าอุปโภคบริโภคโดยการจัดงานรวมพลังห้างท้องถิ่น ลดยิ่งใหญ่ ไทยช่วยไทย (LOCAL Low COST) เพื่อลดราคาสินค้าจำเป็นสูงสุดกว่า 60% ตั้งแต่วันที่ 1-15 พ.ย. 2568 เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้สามารถเข้าถึงสินค้าราคาประหยัด อีกทั้งช่วยเพิ่มยอดขายและรายได้ให้กับผู้ประกอบการห้างท้องถิ่นกว่า 90 แห่ง 800 สาขา

มาตรการแก้ปัญหาหนี้รายบุคคล รัฐบาลมีแนวทางที่จะแก้ไขปัญหาหนี้สินและเพิ่มสภาพคล่อง โดยเฉพาะการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาหนี้รายบุคคลในระบบที่ไม่เกินหนึ่งแสนบาท  เช่น การพักชำระหนี้โดยรัฐบาลอาจชดเชยดอกเบี้ยให้ และการช่วยลูกหนี้ที่มีศักยภาพให้สามารถกลับเข้าสู่ระบบ รวมถึงการเร่งรัดมาตรการแก้หนี้ในระบบจากโครงการคุณสู้ เราช่วยของธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อช่วยเหลือลูกหนี้ที่มีหนี้สิน.