CIB รวบหัว-หางขบวนการเรียกรับเงินแลกใบอนุญาตก่อสร้างปราจีนบุรีมูลค่า 6.5 ล้าน

CIB รวบหัว-หางขบวนการเรียกรับเงินแลกใบอนุญาตก่อสร้างปราจีนบุรีมูลค่า  6.5 ล้าน





Image
ad1

กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดยกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) และกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ช. กลุ่มสืบสวนและปฏิบัติการข่าว 2 สำนักสืบสวนแลละกิจการพิเศษ และเจ้าหน้าที่สำนักงาน ป.ป.ท. และเจ้าหน้าที่ร่วมกันสืบสวนจับกุมผู้ต้องหา ดังนี้

ผู้ต้องหาที่ 1 สิบเอกจักรพันธ์ฯ อายุ 45 ปี หัวหน้าฝ่ายแบบแผนและก่อสร้าง ผู้ต้องหา  ตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 ที่ 15/2568 ลงวันที่ 10 พ.ย. 2568

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการ อย่างใดในตำแหน่ง  ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต

เป็นเจ้าพนักงาน ของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อํานาจในตําแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และ   เป็นเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่”

ผู้ต้องหาที่ 2 นายสายันต์ฯ หรือ น้อย อายุ 63 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 ที่ 16/2568 ลงวันที่ 10 พ.ย. 2568

โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเอง หรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ , เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่   โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด 

หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ,   เป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐ ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตําแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อํานาจ    ในตําแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต และเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานของรัฐ เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสําหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทําการหรือไม่กระทําการอย่างใดในตําแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่”

สถานที่จับกุมและแจ้งข้อกล่าวหา ในพื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี

พฤติการณ์  สืบเนื่องจาก พนักงานสอบสวน บก.ปปป. ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ประกอบการ ผู้กล่าวหา ว่าสิบเอกจักรพันธ์ฯ หัวหน้าฝ่ายแบบแผนและก่อสร้างและคนรู้จัก     มีพฤติการณ์เรียกรับเงินจากตนเองเพื่อแลกกับใบอนุญาตก่อสร้าง โดยเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 ผู้กล่าวหา ได้ยื่นคำขออนุญาตก่อสร้างอาคารโกดังขนาดพื้นที่ 4,000 ตารางเมตร บนที่ดิน พื้นที่ อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี ต่อกองช่างโยธา อบต.แห่งหนึ่ง ปรากฏว่าในวันเดียวกันมีบุคคลชื่อน้อย ทราบภายหลังคือ นายสายันต์ฯ ผู้ต้องหาที่ 2 อ้างตนเป็นเลขาส่วนตัวของนายก อบต.ดังกล่าว ติดต่อผู้กล่าวหาทางโทรศัพท์   เสนอว่าสามารถดำเนินการขอใบอนุญาตก่อสร้างได้แต่เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาต ตารางเมตรละ 125 บาท (รวม 500,000 บาท) อ้างว่าต้องนำเงินไปให้กับนายก อบต.ฯ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจลงนามใบอนุญาตดังกล่าว

ต่อมานายสายันต์ฯได้ติดต่อมายังผู้กล่าวหาจำนวนหลายครั้งเพื่อขอให้ผู้กล่าวหาว่าจ้างตนเป็น ผู้ดำเนินการก่อสร้างและถมดินโดยเสนอว่าจะอำนวยความสะดวกในการออกใบอนุญาตทุกขั้นตอนและได้ข่มขู่ว่าหากผู้กล่าวหาดำเนินการเองจะมีปัญหาและลำบากพร้อมทั้งระบุว่าตนสามารถจัดการกับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้ทั้งหมด ขณะที่สิบเอกจักรพันธ์ฯ ผู้ต้องหาที่ 1 ได้โทรศัพท์สอบถามและยืนยันกับผู้กล่าวหาว่า หากจ่ายเงินให้นายน้อยฯ จะได้รับใบอนุญาตแน่นอน โดยอ้างว่าโรงงานใหญ่ทำมาหมดแล้ว

ต่อมา มีการเจรจาเรียกรับเงินเพิ่ม รวมเป็น 6,500,000 บาท อ้างว่าเป็นเงินมัดจำงานก่อสร้างและ ค่าออกใบอนุญาต พร้อมข่มขู่ว่าหากไม่จ่ายจะไม่ออกใบอนุญาตให้ ทั้งนี้ ผู้กล่าวหาได้ บันทึกภาพและเสียงการสนทนาไว้เป็นหลักฐานหลายครั้ง ซึ่งมีถ้อยคำยืนยันการเรียกรับเงินอย่างชัดเจนซึ่งต่อมาผู้กล่าวหาได้มาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อ พนักงานสอบสวน กก.2 บก.ปปป. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 1 ออกหมายจับผู้ต้องหา จำนวน 2 ราย กระทั่งล่าสุดวันนี้ บก.ปปป.ร่วมกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. , ป.ป.ท. วางแผนเข้าจับกุมผู้ต้องหา ในเขตพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี และนำมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป