“ครู ผู้ปกครอง” นักเรียนหนี้อ่วม ร้องกู้เงิน กยศ.ค่าเทอม เรียนหนังสือ อนุมัติแล้ว แต่ยังไม่ได้เงินเกือบปี ดอกเบี้ยกินอ่วม

“ครู ผู้ปกครอง” นักเรียนหนี้อ่วม ร้องกู้เงิน กยศ.ค่าเทอม เรียนหนังสือ อนุมัติแล้ว แต่ยังไม่ได้เงินเกือบปี ดอกเบี้ยกินอ่วม





Image
ad1

แหล่งข่าวจากผู้ปกครองนักศึกษา จ.พัทลุง เปิดเผยว่า ได้ทำเรื่องกู้เงินการศึกษากับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ในระดับมหาวิทยาลัยเพื่อให้บุตร ซึ่งขณะนี้กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 1 มหาวิทยาลัยของรัฐแห่งหนึ่ง มีค่าเทอมกว่า 40,000 บาท / เทอม และทาง กยศ.ได้อนุมัติเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เงินกู้ของ กยศ.ทางผู้ปกครองยังไม่ได้รับจนนถึงขณะนี้เป็นเวลาเกือบ 1 ปี

ได้ส่งผลกระทบต่อผู้ปกครองอย่างมาก เพราะผู้ปกครองต้องไปกู้เงินออกเงินสำรองใช้จ่ายไปก่อนกับมหาวิทยาลัย เพราะจะเก็บเงินก่อน หากไม่เสียเงินจะต้องถูกตัดสิทธิ์ ผู้เป็นผู้ปกครองเพื่ออนาคตของบุตรต้องไปกู้เงินมาสำรองใช้ก่อน
“ในอดีตตนเองเคยไปกู้เงินนอกระบบมาใช้สำรองไปก่อนดอกเบี้ยสูงมากได้ส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก จึงห็นทางว่าไปกู้เงิน กยศ.มาจ่ายก่อน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับเงินทั้งที่ กยศ.ได้อนุมัติแล้วฝากถึงรัฐบาลว่าการศึกษาหมายถึงอนาคตของประเทศ รัฐบาลต้องให้ความสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ”

ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.กระทรวงศึกษาธิการ  กล่าวในโอกาสเดินทางมาตรวจเยี่ยมการศึกษาตามนโยบายเรียนดี มีคุณธรรม จ.พัทลุง ซึ่งการลงพื้นที่อยากรับฟังปัญหาและรับข้อเสนอแนะว่าในแต่ละพื้นที่มีสิ่งที่ต้องเผชิญอยู่จะต่างกันโดยจะมีผู้บริหารองค์กรหลักและหน่วยงานในกำกับเดินทางมาเพื่อที่จะได้มารับข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะและช่วยกันหาทางออกให้ได้มากที่สุด

ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการได้ขับเคลื่อนงานก้าวหน้าไปมากโดยเฉพาะเรื่องหนี้สินครู ซึ่งจะต้องให้ครูเสียดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราพิเศษและสำหรับการแก้ไขได้หารือและทำงานร่วมกับเลขาธิการสกสค.เพื่อจัดตั้งสหกรณ์กลางและยังได้เสนอต่อคณะรัฐมนตรีในการแก้ปัญหาในวงเงิน 1 แสนล้านบาท

“เพื่อรวมหนี้ของครูมาไว้ที่เดียวและครูจะต้องย้ายหนี้จากสหกรณ์เข้าสู่สหกรณ์กลางเพื่อปรับโครงสร้างหนี้โดยจะช่วยเหลือด้านดอกเบี้ยให้ครูที่เข้าร่วมโครงการปีแรกดอกเบี้ย 0% ปีที่สอง 1% ปีที่สาม 2% ปีที่สี่ 3% และปีต่อไปไม่เกิน 4% และขอให้ครูอย่าก่อหนี้เพิ่ม”

ดร.นฤมล กล่าวอีกว่า จะเร่งดำเนินงานการลดภาระงานของครูโดยนำอัตราครูเกินเกณฑ์มาเป็นบุคลากรทางการศึกษาว฿.ขณะนี้ดำเนินการไปแล้วกว่า 2,000 อัตราอาจจะยังไม่เพียงพอ จะพยายามที่จะบริหารจัดการใน 2 ส่วน คือส่วนแรกจัดให้โรงเรียนในพื้นที่ยุ่งยากก่อนจากนั้นจะจัดส่งอัตราไปยังเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อช่วยเหลือในลักษณะของกลุ่มโรงเรียน ทั้งนี้จะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเในแต่ละปีต่อไป.