เจ้าของปั้มน้ำมัน ปตท.ร้านสะดวกซื้อบ้านผือเหยื่อลูกปืนใหญ่เขมรเครียดรอเงินเยียวยาไร้วี่แวว

เจ้าของปั้มน้ำมัน ปตท.ร้านสะดวกซื้อบ้านผือเหยื่อลูกปืนใหญ่เขมรเครียดรอเงินเยียวยาไร้วี่แวว





Image
ad1

เจ้าของปั้มน้ำมัน ปตท.ร้านสะดวกซื้อ ที่ บ้านผือ โอดหนัก นับตั้งแต่ถูกลูกปืนใหญ่ของกัมพูชา ตกมาระเบิดใส่ร้านสะดวกซื้อ มีพลเรือน เด็กนักเรียนเสียชีวิต มาจนเท่าทุกวันนี้ รัฐบาลยังไม่มีข้อกำหนดที่จะเยียวยา

ที่ ปั้มน้ำมัน ปทต.บ้านผือ ตำบลเมือง อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุด จากการยิงปะทะเข้ามาของทหารกัมพูชา ลูกปืนใหญ่ ตกลงมาใส่ร้านสะดวกซื้อ นับตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ร้านเสียหายจนต้องได้รื้อสร้างใหม่ทดแทน ด้วยวงเงินกู้จากธนาคารฯ และยังมีผู้เสียชีวิต ที่เป็นลูกค้าของทางร้านสะดวกซื้อ ทั้งผู้ปกครอง เด็กนักเรียน จำนวน 8 ศพ ซากที่ได้ทำการรื้อถอนออกมา ก็ยังไม่กล้าที่จะทำลาย

เพราะหากจะมีเจ้าหน้าที่ของภาครัฐ มาตรวจสอบ พิสูจน์ความเสียหาย เพื่อที่จะได้ประเมิน ในการชดเชย เยียวยา เจ้าของปั้ม ปตท.ก็ยังคงเก็บซากร้านสะดวกซื้อ ซากจากปั้มน้ำมัน ปตท.ที่เสียหายมากองรวมกันไว้เป็นจุดๆ เพราะนับตั้งแต่วันที่โดนลูกปืนใหญ่ ฝ่ายกัมพูชา ที่รัฐบาลระบุว่า เป็นเคสแรก ในการที่เสียหายจากภัยทางอากาศ จึงยังไม่มีกฎหมาย ที่จะเยียวยาเช่นกัน เท่าใด และยังคงปล่อยไว้มาตราบทุกวันนี้ เช่นเดียวกับ โรงพยาบาล รพ.สต.ซำเม็ง ที่โดนระเบิดเช่นกัน

นาง กมนรัตน์ พลเศรษฐเลิศ เจ้าของปั้ม ปตม.เจ้าของร้านสะดวกซื้อ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีคอมเพลใดใดจากลูกค้าในแง่ร้าย มีแต่มาให้กำลังใจ แต่ตอนนี้มีลูกค้าน้อย นับตั้งแต่เปิด 1 พฤศจิกายน 2568 เปิดร้านสะดวกซื้อ ก็มีลูกค้ามมาเรื่อยๆ แต่นับตั้งแต่วันที่มีทหารเหยียบทุ่นระเบิด ลูกค้าก็เริ่มหายไปอีก และบวกกับลูกค้า ส่วนหนึ่งไปเร่งเกี่ยวข้าวออกจากชายแดน เพราะกลัวหากยิงกันอีก จะไม่ได้เกี่ยวข้าว และตอนนี้ก็ยังไม่มีเงินเยียวยาจากรัฐบาล จะมีแต่ของบริษัททิพยประกันภัย จ่ายแบบสินกรุณา กรณีพิเศษ

และของ ปตท.เป็นส่วนของ ซีพี ที่ลงมาช่วยเหลือ แต่ภาครัฐยังรออยู่ ก็ไม่ทราบว่าจะได้เมื่อไหร่ เท่าใด และยังไม่มีการมาอธิบายความชัดเจน ข้อกฎหมาย ในการช่วยเหลือใดใด จากกรณีนี้ที่เป็นเคสแรกของเมืองไทย ก็ควรที่จะดูแลให้ดี ให้รวดเร็ว ไม่ใช้แค่กับเรา ที่เป็นเอกชนที่เสียภาษีให้รัฐบาล ตลอด แม้แต่โรงพยาบาล รพ.สต.ซำเม็ง ตอนนี้เห็นว่าก็ยังไม่มีความชัดเจน ในการที่จะเยียวยา อย่างไร เท่าใดเลย

ขณะที่ลูกค้าประจำของร้านสะดวกซื้อ นางสาว นวรัตน์ มุ่งหมาย ที่นับตั้งแต่ร้านถูกระเบิดจากลูกปืนใหญ่ พอร้านเปิดก็มาใช้บริการประจำเช่นเคย เล่าว่า วันเกิดเหตุตนอยู่โรงเรียนที่อยู่ใกล้เคียงกับปั้ม ปตท.แห่งนี้ ซึ่งทุกวันก็จะมาซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อแห่งนี้ แต่วันนี้เราอยู่กับเด็ก ก็ห่วงเด็กมาก

โดยในขณะเกิดเหตุลูกปืนใหญ่ระเบิดลง ไม่ได้มาพอดี ตอนนี้ร้านสะดวกซื้อเปิดก็มาซื้อข้าวของปกติทุกวัน ก็ไม่กลัว เพราะที่โรงเรียนได้สอนเด็ก สอนครู ได้มีการอพยพ สอนการเผชิญเหตุร้าย ให้กับเด็ก และคณะครู ไว้แล้ว

เสนาะ วรรักษ์/รายงาน

.