พสกนิกรศรีสะเกษ น้อมใจจุดเทียน “ร้อยดวงใจ ถวายอาลัยแด่พระพันปีหลวง”

พสกนิกรศรีสะเกษ  น้อมใจจุดเทียน “ร้อยดวงใจ ถวายอาลัยแด่พระพันปีหลวง”





Image
ad1

พสกนิกรจังหวัดศรีสะเกษ  น้อมใจจุดเทียน “ร้อยดวงใจ ถวายอาลัยแด่พระพันปีหลวง” สว่างไสวเปี่ยมด้วยความจงรักภักดี ในงานเฉลิมฉลอง ครบรอบ 243 ปี จังหวัดศรีสะเกษ

เมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2568 ที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดศรีสะเกษ นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผวจ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วย นางโสภา ธรรมประจำจิต นายกเหล่ากาชาดจังหวัดศรีสะเกษ เป็นประธานในพิธีเปิดงานเฉลิมฉลอง 243 ปี จังหวัดศรีสะเกษ สู่ขวัญบ้าน บายศรีเมือง รุ่งเรือง 243 ปี จังหวัดศรีสะเกษ ประจำปี 2568

โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชน และนางรำกว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพื่อเป็นการแสดงความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ เพื่อรำลึกถึงพระคุณของบรรพบุรุษผู้สร้างบ้านแปลงเมือง นำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองและความเป็นปึกแผ่นของชน 4 เผ่า สืบมาจนถึงปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมความรักความสามัคคี และสืบสานมรดกภูมิปัญญาและวัฒนธรรมท้องถิ่นของคนศรีสะเกษ

อนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ

นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผวจ.ศรีสะเกษ ได้กล่าวถวายความอาลัย ท่ามกลางความสงบสำรวมและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ พร้อมเปิดวีดิทัศน์พระราชกรณียกิจ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงเสด็จพระราชดำเนินมาเยือนพสกนิกรชาวศรีสะเกษ เมื่อ 70 ปีที่ผ่านมา

และนางรำจากทั้ง 22 อำเภอของจังหวัดศรีสะเกษ จำนวนกว่า 5,000 คน ได้ร่วมรำถวายอาลัยสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างอ่อนช้อย สง่างาม และพร้อมเพรียง และจุดเทียน “ร้อยดวงใจ ถวายอาลัย แด่พระพันปีหลวง” สว่างไสวทั่วทั้งลานสนาม สะท้อนถึงความจงรักภักดีและความสามัคคีของชาวศรีสะเกษ ที่รวมพลังแสดงความกตัญญูต่อพระองค์

หลังจากนั้นได้ร่วมรำเฉลิมฉลอง 243 ปี จังหวัดศรีสะเกษ และเปิดการแสดงฝูงโดรนแปรอักษร และรูปภาพสุดอลังการ กว่า 500 ลำ ที่ลอยสว่างบนท้องฟ้า ก่อนแปรเป็น พระบรมฉายาลักษณ์สมเด็จพระพันปีหลวง อย่างวิจิตรตระการตา สร้างความประทับใจและความซาบซึ้งแก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า และสร้างความฮือฮาให้กับพี่น้องประชาชนที่มาร่วมงานกันอย่างคึกคัก เปี่ยมด้วยความจงรักภักดี อย่างพร้อมเพียงกัน

นอกจากนี้ได้จัดให้มีการแสดงศิลปะวัฒนธรรมอันงดงาม การแสดงโขน และการร้องรำ บนเวที ค่ำคืนนี้จึงเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาประวัติศาสตร์ ที่จารึกความรัก ความภักดี และความสามัคคีของประชาชนชาวศรีสะเกษไว้ร่วมกันอย่างงดงามยิ่ง

เสนาะ วรรักษ์/รายงาน