“แอลพีจีเอ”ทุ่มเงินรางวัลทุบสถิติกว่า 4,278.8 ล้านบาท ดวลวงสวิง 33 รายการ ปี 2026

“แอลพีจีเอ”ทุ่มเงินรางวัลทุบสถิติกว่า 4,278.8 ล้านบาท ดวลวงสวิง 33 รายการ ปี 2026





Image
ad1

แอลพีจีเอ ทัวร์ ประกาศโปรแกรมการแข่งขันฤดูกาล 2026 แข่งขันทั้งหมด 33 รายการทั่วโลก 13 ชาติ และ 13 รัฐในสหรัฐอเมริกา ชิงเงินรางวัลรวมสูงสุดในประวัติศาสตร์ทัวร์กว่า 4,278.8 ล้านบาท ขณะที่ไทย ปักหมุด ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ ดวล 19-22 ก.พ. ที่ สยามคันทรีคลับ โอลด์คอร์ส พัทยา จ.ชลบุรี 

สมาคมกอล์ฟอาชีพสตรี หรือ แอลพีจีเอ (LPGA) ประกาศโปรแกรมการแข่งขันฤดูกาล 2026 ออกมาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน โดยจะแข่งขันทั้งหมด 33 รายการ และเงินรางวัลรวมเพิ่มขึ้นเป็น 132 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 4,278.8 ล้านบาท มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของทัวร์เพื่อให้นักกอล์ฟหญิงของสมาชิกทัวร์ได้ร่วมแข่งขันพร้อมรายการใหม่ อารามโก แชมเปียนชิพ ที่ชาโดว์ ครีก กอล์ฟ คอร์ส เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา  และกอล์ฟทีมโซล์ไฮม์ คัพ

เคร็ก เคสเลอร์ กรรมาธิการแอลพีจีเอ เผยว่า “ผมภูมิใจอย่างยิ่งกับสิ่งที่เราสร้างขึ้นมา และยิ่งตื่นเต้นมากขึ้นกับเส้นทางที่เรากำลังมุ่งไป ตารางการแข่งขันนี้สะท้อนถึงความพยายามของเราที่จะยกระดับสนาม ปรับปรุงเส้นทางการแข่งขัน และเพิ่มเงินรางวัลให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังการฉลองครบรอบ 75 ปี เราต้องการปฏิทินการแข่งขันที่จะมอบเวทีอันยอดเยี่ยมให้แก่นักกีฬา มีความลื่นไหลมากขึ้น และเพิ่มโอกาสให้มากกว่าเดิม และผมคิดว่าปี 2026 ทำได้ตามนั้น เราได้ก้าวหน้าอย่างแท้จริง และเรามีเป้าหมายชัดเจนว่าปี 2027 และหลังจากนั้น เรายังสามารถพัฒนาต่อยอดได้อีกในจุดใดบ้าง”

โปรแกรมแอลพีจีเอ ทัวร์ ฤดูกาล 2026 จะแข่งขันใน 13 รัฐทั่วสหรัฐอเมริกา และอีก 13 ประเทศเริ่มต้นจากรัฐฟลอริดาปลายเดือนมกราคมถึงต้นเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนจะเข้ามาในเอเชียช่วงแรกเป็นฤดูใบไม้ผลิตในประเทศไทย ในการแข่งขัน ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์, สิงคโปร์ และจีน ขณะที่ช่วงที่สองฤดูใบไม้ร่วงเริ่มจากจีน เกาหลีใต้ มาเลเซีย และญี่ปุ่น  

ทางยูโรเปียน สวิง นั้น จะเริ่มต้นในช่วงกลางปี รวมสองเมเจอร์ และรายการ ไอเอสพีเอส ฮันดะ วีเมนส์ สกอตติช โอเพ่น ก่อนที่แอลพีจีเอ จะกลับไปยุโรปอีกครั้ง เพื่อแข่งขัน ทีมโซลไฮม์ คัพ ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในช่วงเดือนกันยายน ในขณะที่อเมริกาเหนือยังคล้ายกับฤดูกาลที่แล้วมีทั้งเม็กซิโก และแคนาดา 

ส่วนรายการเมเจอร์นั้น จะเริ่มต้นด้วยการแข่งขัน เดอะ เชฟรอน แชมเปียนชิพ ในเดือนเมษายน ก่อนจะเป็นรายการ ยูเอส วีเมนส์ โอเพ่น พรีเซนเต็ด บาย แอลลาย ที่ริเวรา คันทรี  คลับ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ตามไปด้วย เคพีเอ็มจี วีเมนส์ พีจีเอ แชมเปียนชิพ สิ้นเดือนมิถุนายน ที่รัฐมินนิโซตา ขณะที่ ดิ อามุนดี เอวิยอง แชมเปียนชิพ ที่เอวิยอง รีสอร์ต กอล์ฟ คลับ ประเทศฝรั่งเศส และเมเจอร์สุดท้าย เอไอจี วีเมนส์ โอเพ่น ที่รอยัล ไลแธม แอนด์ เซนต์แอนส์ กอล์ฟ คลับ ในไลแธม เซนต์ แอนน์ส ประเทศอังกฤษ

ฤดูกาลหน้าจะมีกอล์ฟทีม โซลไฮม์ คัพ ระหว่างทีมยุโรปกับสหรัฐอเมริกา จะแข่งขันที่เบอร์นาร์ดุส กอล์ฟ ในประเทศเนเธอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 11-13 กันยายน ทางทีมยุโรปเจ้าภาพ โดยกัปตันทีม อันนา นอร์ดควิสต์ โปรสาวชาวสวีเดน และทางทีมสหรัฐ นำโดย แองเจลา สแตนฟอร์ด   

นอกจากนี้ยังมีรายการใหม่ อารามโก แชมเปียนชิพ รายการร่วมกับ เลดีส์ ยูโรเปียน ทัวร์ ที่ชาโดว์ ครีก กอล์ฟ คอร์ส เมืองลาสเวกัส รัฐเนวาดา ระหว่างวันที่ 2-5 เมษายน ชิงเงินรางวัลรวมมากถึง 4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสองรายการที่ไม่่ใช่เมเจอร์ และไม่ใช่ ซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ (11 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ) มีเงินรางวัลรวมมากที่สุดอีกรายการ คือ เอฟเอ็ม แชมเปียนชิพ ช่วงเดือนสิงหาคม ที่บอสตัน เงินรางวัลรวม 4.4 ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ  

แอลพีจีเอ ทัวร์ ปัจจุบันมี 12 รายการ ที่ประกาศปรับเพิ่มเงินรางวัลรวมแล้ว และอีกกว่า 15 รายการ คาดว่าจะมีเงินรางวัลขั้นต่ำให้ผู้เล่นทุกคนที่เข้าแข่งขัน และเกือบ 20 ทัวร์นาเมนต์จะมอบประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่นักกีฬา ทั้งการสนับสนุนค่าที่พัก เที่ยวบิน และหรือการเดินทาง 

หลังจากแข่งขันทั้งในสหรัฐอเมริกา และทั่วโลกแอลพีจีกลับเข้าสหรัฐอเมริกาที่รัฐฟลอริดาสองรายการดิ อันนิกา ดริฟเวน บาย เกนบริดจ์ แอต เพลิแคน และปิดท้ายฤดูกาลซีเอ็มอี กรุ๊ป ทัวร์ แชมเปียนชิพ ชิงเงินรางวัลรวม 11 ล้านดอลลาร์ และยังมีรายการพิเศษร่วมของแอลพีจีเอ-พีจีเอ ทัวร์ ทีมผสมแกรนท์ ธอร์นทัน อินวิเทชันแนล ในรัฐฟลอริดาเดือนธันวาคม

เครดิตภาพ: LPGA/Getty Images