ศรีสะเกษออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ควบคู่บริการจังหวัดเคลื่อนที่ในพื้นที่อำเภอห้วยทับทัน

ศรีสะเกษออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ควบคู่บริการจังหวัดเคลื่อนที่ในพื้นที่อำเภอห้วยทับทัน





Image
ad1

เมื่อวันที่  20 พ.ย.68  ที่โรงเรียนบ้านพอกหนองแข้ หมู่ที่ 5 ตำบลกล้วยกว้าง อำเภอห้วยทับทันจังหวัดศรีสะเกษ นายอนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ได้เป็นประธานพิธีเปิดหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ พอ.สว. เพื่อให้การรักษาพยาบาลและฟื้นฟูสุขภาพอนามัยแก่ผู้เจ็บป่วยในท้องถิ่นทุรกันดาร โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

อนุรัตน์ ธรรมประจำจิต ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ

ซึ่งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษได้บูรณาการร่วมกับบริการจังหวัดเคลื่อนที่ เพื่อบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้ประชาชน โดยนำส่วนราชการต่างๆ ออกให้บริการและติดตามรับทราบปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนคู่กัน โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษได้นำผู้เข้าร่วมพิธีแสดงพลังความจงรักภักดีและปกป้องเชิตชูสถาบันพระมหากษัตริย์

จากนั้นได้นำนายกเหล่ากาชาดจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการเหล่ากาชาด ฝ่ายท้องที่ท้องถิ่น มอบชุดยาสามัญพระราชทาน มอบเงินสงเคราะห์ผู้ประสบปัญหาทางสังคม มอบเงินสงเคราะห์เด็กนักเรียนยากจน มอบถุงบรรเทาทุกข์แก่ผู้ด้อยโอกาส มอบพันธ์สัตว์น้ำ พันธ์พืชผักสวนครัว ตลอดจนมอบไม้เท้าแก่ผู้สูงอายุ  หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ (พอ.สว.) จังหวัดศรีสะเกษ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เป็นจังหวัดแพทย์อาสา ลำดับที่ 28 เมื่อปี พ.ศ. 2513 จนถึงปัจจุบัน เป็นระยะเวลา 55 ปี

น.พ.ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ

ปัจจุบันมีแพทย์ 122 คน ทันตแพทย์ 116 คน เภสัชกร 130 คน พยาบาลวิชาชีพ 1,037 คน อาสาสมัครสายแพทย์และสาธารณสุขประเภทอื่น ๆ 2,288 คน อาสาสมัครสายสนับสนุนอีก 1008 คน รวมเจ้าหน้าที่พร้อมบุคลากร 4,701 คน การออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ (พอ.สว.) มุ่งสนองพระราชปณิธานสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี หรือ สมเด็จย่า และ เทิดพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานกิตติมศักดิ์ มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เพื่อให้การรักษาพยาบาล

ตลอดจนการฟื้นฟูสุขภาพอนามัยให้ประชาชนที่เจ็บป่วยในท้องถิ่นทุรกันดารห่างไกล  ได้มีโอกาสเข้าถึงบริการทางการแพทย์และด้านสาธารณสุขอย่างทั่วถึง

เสนาะ วรรักษ์/รายงาน