ตร.ไซเบอร์รวบม้าตระเวนกดเงินเหยื่อหลอกลงทุน ส่งบอสสแกมเมอร์ชาวจีน

สืบเนื่องจาก เมื่อช่วงกลางเดือนตุลาคม 2568 ได้มีผู้เสียหายเป็นหญิงสูงวัยรายหนึ่ง ได้ใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok แล้วพบโฆษณาชักชวนให้ลงทุนหุ้น ผู้เสียหายเห็นโฆษณาว่าลงทุนน้อยแต่ได้กำไรดีจึงตัดสินใจติดต่อไป และได้เข้าร่วมกลุ่มไลน์เทรดหุ้น โดยช่วงแรกของการลงทุนสามารถทำกำไรได้ดีจริงตามที่โฆษณากล่าวอ้าง จึงเริ่มโอนเงินลงทุนมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายโดนหลอกลวงไปเป็นจำนวนเงินกว่า 2 แสนบาท และเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ต่อมา กก.2 บก.สอท.4 ได้สืบสวนกรณีดังกล่าว พบว่าเส้นทางการเงินหลังจากที่เหยื่อโอนเข้าบัญชีม้าแถว 1 แล้ว ได้ถูกโอนต่ออย่างรวดเร็วไปยังบัญชีม้าแถว 2 ทันที และเมื่อไหร่ที่มียอดเงินจากการหลอกลวงเหยื่อเข้าบัญชีม้าแถว 2 แล้ว ภายใน 3 นาทีหลังจากนั้น เงินจะถูกกดออกจากตู้ ATM ทั้งหมดทันที และจะเป็นแผนประทุษกรรมแบบนี้เสมอ จากการตรวจสอบบัญชีม้าดังกล่าว พบว่ามีความเกี่ยวพันกับคดีอื่นๆ อีกกว่า 10 คดี รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท จึงได้รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อขออำนาจศาลอาญาออกหมายจับผู้เกี่ยวข้องได้สำเร็จ

ต่อมา พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บกสอท.4 ได้นำกำลังลงพื้นที่ประชาอุทิศ เขตห้วยขวาง กทม. เพื่อเฝ้าติดตามและสังเกตการณ์ กระทั่งสามารถจับกุมตัว นายธวัชวงค์ หรือ หย่าง อายุ 19 ปี ชาวเชียงใหม่ คนไทยสัญชาติจีน ผู้ทำหน้าที่กดเงินสด และ นายวรากรณ์ อายุ 18 ปี ชาวเชียงใหม่ คนไทยสัญชาติจีนฮ่ออิสระ เจ้าของบัญชีม้า แถว 2 ตามหมายจับศาลอาญาในข้อหา “เป็นผู้สนับสนุนความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอม ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน หรือเปิดหรือยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ โดยเจตนามิได้ใช้เพื่อตนเองหรือกิจการที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือความผิดอาญาอื่นใด”

จากการสอบถาม นายธวัชวงค์ฯ รับสารภาพว่า ตนเองทำหน้าที่กดเงินสดตามที่บอสชาวจีนเป็นผู้สั่งการผ่านแอปพลิเคชัน wechat โดยบอสชาวจีนเป็นผู้กำหนดจุดในการนัดรับบัญชีม้าที่บอสจีนเป็นผู้หามาให้ ซึ่งใน 1 ชุดมีบัตร ATM พร้อมรหัสผ่าน, หมายเลขบัญชีธนาคาร และโทรศัพท์มือถือ เมื่อตนรับมาแล้วต้องทดสอบว่าใช้งานได้หรือไม่แล้วแจ้งบอสกลับไปด้วยรหัสลับที่รู้กัน 2 คน

จากนั้น นายหย่าง ต้องสแตนบายรอตามตู้ ATM จุดต่างๆ เพื่อรอเหยื่อโอนเงินเข้าบัญชี เมื่อหลอกเหยื่อสำเร็จนายหย่างต้องรีบวิ่งไปกดเงินจากตู้ ATM ให้ไวที่สุดเพื่อป้องกันการอายัดบัญชี เมื่อได้เงินสดออกมาแล้ว ต้องรอจนกว่าบอสชาวจีนจะส่งคนมารับเงินจากมือ เป็นอันเสร็จภารกิจ

นายหย่างรับว่าตนเองทำแบบนี้ทุกวัน โดยเคยกดเงินได้สูงสุดถึง 400,000 บาทต่อวัน และตนเองได้ค่าตอบแทนประมาณ 4,000 บาท หรือคิดเป็น 1% ของเงินที่กด ส่วนสถานที่กดเงินนั้น บอสชาวจีนจะสั่งให้เปลี่ยนตู้ ATM ทุกวันเพื่อเลี่ยงการติดตามของเจ้าหน้าที่ นอกจากนี้ บอสชาวจีนยังจัดหาที่พักรายวันอย่างดีให้โดยเปลี่ยนที่พักทุกคืน และยังเช่ารถจักรยานยนต์ให้และเปลี่ยนรถทุกวัน เพื่อหลีกเลี่ยงการติดตามของเจ้าหน้าที่เช่นกัน

ส่วนนายวรากรณ์ รับสารภาพว่าตนเองเป็นเจ้าของบัญชีม้าแถว 2 ในคดีนี้ ตนไม่มีอาชีพหลักแหล่ง อาศัยบ้านเพื่อนเพื่อเสพกัญชาและน้ำกระท่อมไปวันๆ กระทั่งช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ได้พบกับนายหย่าง ซึ่งเป็นเพื่อนกับลูกพี่ของ นายหย่างเองชอบดื่มน้ำกระท่อมเป็นประจำเหมือนกัน จึงได้รู้จักกัน ภายหลังนายหย่างขอเช่าบัญชีธนาคารไปใช้ ซึ่งตนรู้ว่าดีว่าเอาไปใช้เป็นบัญชีม้า แต่นายหย่างให้ค่าตอบแทนดีถึง 5,000 บาทต่อวัน ตนเองจึงยินยอม กระทั่งมาถูกจับกุมในที่สุด

