น้ำท่วมหาดใหญ่เขต “ใจกลางเศรษฐกิจ "คาดกลับสู่ปกติ 25 พ.ย.”หากฝนไม่ตกหนักซ้ำ

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน 2568 ย่านเศรษฐกิจกลางใจเมืองเทศบาลนครหาดใหญ่ เช่น ตลาดสดพลาซ่า ถนนเพชรเกษมระดับน้ำได้ลดลงอย่างต่อเนื่องที่น้ำความสูงตั้งแต่หัวเข่าจนถึงเอว น้ำตรงนี้ตั้งแต่เอวจนถึงหน้าอก ถนนนิพัทธ์อุทิศ 1 ระดับน้ำค่อนข้างที่จะลดลง และผู้ประสบภัย ต่างเดินออกมารับข้าวและน้ำดื่มซึ่งเจ้าหน้าที่ทหารได้นำรถบรรทุก GMC บรรทุกข้าวกล่องและน้ำดื่มนำไปมอบให้

ส่วนบริเวณถนนนิพัทธ์อุทิศ 2 และถนนนิพัทธ์อุทิศ 3 ระดับน้ำค่อนข้างที่สูงประมาณหน้าอกถึงมิดหัว ซึ่งพบว่าระดับน้ำยังไม่มีการลดลงแต่อย่างใดและมีกระแสน้ำเชี่ยว

จากนั้นผู้สื่อข่าวจึงได้เดินขึ้นไปบนสะพานลอย และพบว่าสถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ น้ำป่าเขาคอหงส์ได้ทะลักเข้าท่วมแล้วเช่นกัน ส่วนบริเวณถนนราษฎร์อุทิศ หรือ (เขต 8) เจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือนำข้าวกล่องและน้ำดื่ม เข้าไปให้ผู้ประสบภัยได้ เนื่องจากยังมีระดับน้ำค่อนข้างสูงจมมิดหัวและกระแสน้ำยังเชี่ยวกราดอยู่ ซึ่งในการเข้าช่วยเหลือค่อนข้างที่จะยากลำบาก

ขณะที่ ฮ. ของกระทรวงทรัพยากร จำนวน 2 ลำ  บินวนเหนือน่านฟ้าเทศบาลนครหาดใหญ่ ก่อนจะใช้ชานชลาของสถานีรถไฟชุมทางหาดใหญ่เป็นลานจอด เพื่อนำข้าวกล่องและน้ำดื่มมามอบให้ผู้ประสบภัยที่สามารถ เดินออกมารับข้าวและน้ำดื่มได้โดยทางกระทรวงทรัพยากรจะนำข้าวกล่องและน้ำดื่มมามอบให้ผู้ประสบภัย เป็นเวลา 3 มื้อ เช้า เที่ยง เย็น จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

นายณรงค์พร ณ พัทลุง นายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่ว่า ปริมาณน้ำในหลายพื้นที่เริ่มลดระดับลง โดยเฉพาะในเขตเมืองชั้นใน

ส่วน ในเขต 3–4 รวมถึงบริเวณหน้าสถานีตำรวจหาดใหญ่ ระดับน้ำยังทรงตัวและลดลงช้ากว่าพื้นที่อื่น เนื่องจากเป็นจุดรับน้ำหลักของคลองอู่ตะเภา ทำให้การระบายน้ำต้องใช้เวลาในการคลี่ยคลายสถานการณ์มากขึ้น

นายณรงค์พร กล่าวว่าา สถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ถือว่ารุนแรงเป็นประวัติการณ์ โดยพื้นที่ต้องเผชิญกับปริมาณน้ำฝนสะสมกว่า 900 มิลลิเมตร ภายใน 3–4 วัน และมีปริมาณฝนตกหนักถึง 305 มิลลิเมตรในคืนเดียว ส่งผลให้ระบบระบายน้ำในเขตเมืองรับภาระสูงกว่าที่คาดการณ์ แม้ก่อนหน้านี้จะมีการเตรียมการรองรับสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้วก็ตาม

ส่วนปัญหาสำคัญเกิดจากน้ำจำนวนมากที่ไหลลงมาจากเขาคอหงส์ตลอดทั้งคืน ทำให้อ่างเก็บน้ำขนาดประมาณ 75 ไร่มีระดับน้ำใกล้ความจุ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องเปิดน้ำจากแก้มลิงและเร่งเสริมเครื่องสูบน้ำเพิ่ม เพื่อป้องกันไม่ให้ระดับน้ำสูงจนเสี่ยงต่อความมั่นคงของโครงสร้างอ่างเก็บน้ำ ซึ่งหากเกิดความเสียหายจะสร้างผลกระทบอย่างรุนแรงกว่าการปล่อยน้ำระบายตามความจำเป็น

สำหรับการช่วยเหลือประชาชนมีความยากลำบากในบางพื้นที่ เนื่องจากเส้นทางถูกปิดกั้นจากรถยนต์ที่ประชาชนจอดหนีน้ำจำนวนมาก ทำให้รถทหาร รถบรรทุก และเรือท้องแบนไม่สามารถเข้าถึงจุดที่ได้รับผลกระทบได้อย่างสะดวก ทั้งนี้ จังหวัดได้ประสานกรมชลประทาน หน่วยทหาร และหน่วยงานส่วนกลาง เพื่อส่งกำลังสนับสนุน อาหาร และชุดยังชีพให้ประชาชนอย่างต่อเนื่อง

นายณรงค์พร กล่าวว่า คาดการณ์หากไม่มีฝนตกหนักเพิ่มเติม สถานการณ์น้ำท่วมในเขตเทศบาลนครหาดใหญ่จะทยอยเข้าสู่ภาวะปกติภายในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ โดยเทศบาลจะเร่งฟื้นฟูพื้นที่ ทำความสะอาดถนน ระบบสาธารณูปโภค และให้การดูแลประชาชนหลังน้ำลดอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เมืองกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด.