ป่าไม้ร่วมฝ่ายปกครองจับผู้ลักลอบตัดไม้ยางประกาศขายผ่านเฟซบุ๊ก-ผู้ต้องหาแจงไม้ที่ตัดมีเอกสารสิทธิ์

ปราจีนบุรี – ป่าไม้ร่วมฝ่ายปกครองจับผู้ลักลอบตัดไม้ที่สาธารณะก่อนหน้าประกาศขายไม้ยางทาง facebookขณะทางเจ้าของไม้ที่ประกาศขายแจงไม้ที่ตัดมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย และมีความจำเป็นที่จะตัดไม้ยางขายเพื่อส่งให้หลานได้ศึกษาต่อ ซึ่งหลานสาวกำลังจะเรียนจบอยู่แล้วซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้เงิน
เมื่อวันที่ 24 พ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.ปราจีนบุรี เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ปจ.2 (ทุ่งโพธิ์) รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ที่ 9 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอนาดี กำนันตำบลสะพานหิน ผู้ใหญ่บ้าน ร่วมกันตรวจพิสูจน์การทำไม้ในพื้นที่บ้านตรอกเนียม หมู่ที่ 1 ต.สะพานหิน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี

ที่เกิดเหตุลักษณะเป็นเส้นทางคอนกรีตวิ่งเข้าไปในหมู่บ้านบ้านตรอกเนียม พิกัดที่เกิดเหตุโซนที่ 47 P 795065 E 1559935 N พบกลุ่มชายจำนวน 5 คนกำลังแสดงเอกสารเกี่ยวกับที่ดินต่อเจ้าหน้าที่ที่ได้เข้าไปตรวจสอบพื้นที่ก่อนหน้าแล้ว ในบริเวณที่เกิดเหตุพบรถยนต์บรรทุก 6 ล้อติดเครน ยี่ห้อ isuzu สีขาว ทะเบียน 82-0205 สุโขทัย จอดอยู่ในแปลงที่ทำการตัดไม้และมีไม้อย่างนาท่อนที่ตัดแล้วจำนวนหนึ่งถูกนำขึ้นไปไว้บนรถบรรทุกคันดังกล่าวและพบเลื่อยยนต์จำนวน 3 เครื่องอยู่บนรถยนต์ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวต่อกลุ่มบุคคลดังกล่าว ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พบกับ

นายธงชัย ปั้นทิม อายุ 55 ปีเป็นผู้รับเหมาที่มาซื้อไม้ยางโดยทราบจากการขายไม้ยางทาง facebook ตนจึงได้โทรมาสอบถามเจ้าของไม้เพื่อติดต่อขอซื้อไม้ ซึ่งเจ้าของที่ดินได้ยืนยันกับตนเองว่าไม้นี้อยู่ในเอกสารสิทธิ์ที่ดินโฉนดเลขที่ 64 ถึงได้ตัดสินใจเดินทางมาจากจังหวัดพิษณุโลก เพื่อมาทำสัญญาซื้อขายและทำการตัดไม้และได้ตัดไม้ได้เพียง 3 วันเท่านั้นและเชื่อในเอกสารที่มีอยู่ด้วยความบริสุทธิ์ใจ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเอกสารโฉนดที่ดินดังกล่าวพบว่า ไม้ที่ถูกตัดออกไปนั้นมีเพียงไม้จำนวนหนึ่งที่อยู่ในที่ดินกรรมสิทธิ์ของนางสาวสมหมาย ขุนอินทร์ อายุ 64 ปีอยู่บ้านเลขที่ 13 หมู่ที่ 1 ต.สะพานหิน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เป็นเจ้าของที่ดินและไม้

นางสาวสมหมายฯได้แจ้งกับเจ้าหน้าที่ให้ทราบว่าที่ดินที่นอกเหนือจากโฉนดที่ดินนี้มีเอกสารเป็น ภบท.5 จำนวน 8 ไร่ และเป็นที่ดินที่มีข้อพิพาทอยู่กับผู้นำชุมชนในพื้นที่ซึ่งตนเองมีความจำเป็นต้องขายไม้อย่างนี้ เพื่อนำเงินไปเป็นค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนของหลานสาวที่กำลังศึกษาอยู่ที่โรงพยาบาลแพทย์แห่งหนึ่งและใกล้จบแล้ว แต่ตนเองยืนยันว่าที่ดินพิพาทที่มีการตัดไม้อย่างนี้เป็นของตนเองจริง

เจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเห็นว่าที่ดินที่นอกเหนือจากโฉนดแปลงดังกล่าวมีเอกสารสิทธิ์เป็นเพียงใบภาษีบำรุงท้องที่(ภบท.5) ซึ่งเอกเอกสารใบเสร็จนี้ไม่สามารถถือว่าเป็นเอกสารสิทธิ์ที่ดินได้มาตามประมวลกฎหมายที่ดินแต่อย่างใด และยังมีสภาพเป็นป่าตามความแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484 (1) ซึ่งบัญญัติไว้ว่า"ที่ดินที่ยังมิได้บุคคลได้มาตามประมวลกฎหมายที่ดิน" การกระทำดังกล่าวต่อไม้ยางนั้น จึงเป็นความผิดตามความแห่งพระราชบัญญัติป่าไม้พุทธศักราช 2484

เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งให้ผู้ที่ร่วมกระทำการแก่ไม้ยางซึ่งเป็นไม้หวงห้าม ลำดับที่ 160 ฉบับที่ 2 พ.ศ.2565 เจ้าหน้าที่จึงได้ร่วมกันแจ้งให้ผู้ที่ร่วมกันกระทำการแก่ไม้ยางนาซึ่งเป็นไม้หวงห้ามดังกล่าวนั้นว่าด้วยการกระทำการนั้นเป็นความผิดและจะต้องถูกจับดำเนินคดีตามความผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ตามที่ข้อกล่าวหาไว้ข้างต้น เจ้าหน้าที่ได้ตรวจพิกัดตอไม้พบตอไม้บริเวณทางสาธารณะจำนวน 2 ต่อและอีกหนึ่งต่อน่าจะคาบเกี่ยวระหว่างโฉนดที่ดินและทางสาธารณะ ส่วนต่อไม้ที่พบในโฉนดที่ดินนับได้ 5 ตอ

นางสาวสมหมายฯ กล่าวว่าตนเองมีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมาย และมีความจำเป็นที่จะตัดไม้ยางขายเพื่อส่งให้หลานได้ศึกษาต่อ ซึ่งหลานสาวกำลังจะเรียนจบอยู่แล้วซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้เงิน

นายอดิศร วงพันธ์ เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงานหัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ปจ.2 (ทุ่งโพธิ)กล่าวว่าได้รับการประสานจากฝ่ายปกครองตั้งแต่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และฝ่ายปกครองอำเภอนาดี ก็มาช่วยกันอย่างแข็งขันนะครับ แต่ทั้งหมดทั้งมวลทางเจ้าหน้าที่คือจะเอาข้อเท็จจริงนะครับที่ปรากฏจริงๆ จากหลักฐานที่มีทั้งหมดไปสู่พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่บันทึกการจับกุมแล้วนำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

โดย... มานิตย์ สนับบุญ-ข่าว/ทองสุข สิงห์พิมพ์-ภาพ/ ปราจีนบุรี ###

