อุทกภัยหาดใหญ่น้ำเริ่มลด แต่หลายจุดน้ำไหลเชี่ยวแรง ยังเข้าช่วยเหลือไม่ได้

อุทกภัยหาดใหญ่น้ำเริ่มลด แต่หลายจุดน้ำไหลเชี่ยวแรง ยังเข้าช่วยเหลือไม่ได้





Image
ad1

แม้น้ำในหลายเส้นทางเริ่มลดลง แต่หลายจุดยังถูกกระแสน้ำแรงปิดล้อม การช่วยเหลือทำได้อย่างยากลำบาก ขณะที่กู้ภัย–ทหาร–อาสาสมัครเร่งอพยพผู้ติดค้างและส่งอาหารเข้าพื้นที่เสี่ยงต่อเนื่อง

สถานการณ์น้ำท่วมในเขตอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ล่าสุดระดับน้ำในหลายพื้นที่เริ่มมีแนวโน้มลดลงต่อเนื่อง แต่บางจุดยังคงมีกระแสน้ำเชี่ยวและเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการเข้าช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะในซอยและพื้นที่ลุ่มต่ำที่น้ำยังคงทรงตัว ทำให้การปฏิบัติภารกิจต้องดำเนินด้วยความระมัดระวังอย่างสูง ขณะที่การสัญจรในภาพรวมเริ่มคลี่คลายลงบางส่วน แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

บริเวณ 3 แยกคอหงส์ จุดเชื่อมต่อถนนกาญจนวานิชและถนนเพชรเกษม ซึ่งเป็นหนึ่งในเส้นทางหลักของเมืองหาดใหญ่ ระดับน้ำลดลงจนรถเล็กสามารถผ่านได้ ทำให้ในช่วงบ่ายวันนี้ บรรยากาศเต็มไปด้วยการระดมกำลังจากหลายหน่วยงาน ทั้งทหาร ร.5 พัน 1 หน่วยกู้ชีพกู้ภัย มูลนิธิปอเต็กตึ๊ง ทีมกู้ภัยจากจังหวัดต่าง ๆ ทีม อบจ.สุราษฎร์ธานี ตลอดจนภาคเอกชนและอาสาสมัครที่มีความชำนาญด้านเรือ ต่างร่วมกันตั้งจุดบัญชาการเพื่อกระจายกำลังเข้าช่วยเหลือประชาชน 

โดยใช้ทั้งรถยกสูง เรือท้องแบน และเจ็ตสกี ในการลำเลียงผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง และกลุ่มเปราะบางไปยังศูนย์อพยพภายในมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ขณะที่ประชาชนที่ยังอาศัยอยู่บนอาคารสูง เจ้าหน้าที่ได้จัดส่งอาหารปรุงสุกและน้ำดื่มเข้าไปช่วยเหลืออย่างทั่วถึง

ที่ถนนเพชรเกษม ตั้งแต่สามแยกคอหงส์ โซนพาสว่าง ไปจนถึงบริเวณหน้าบิ๊กซีเอ็กซ์ตร้าและหน้าโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย ระดับน้ำเริ่มลดลงจนเรือสามารถเดินทางได้สะดวกขึ้น แต่เมื่อเข้าใกล้โซนวงเวียนน้ำพุ โรงพยาบาลหาดใหญ่ สี่แยกไปรษณีย์ NBT สงขลา และสถานีรถไฟหาดใหญ่ แม้ระดับน้ำจะค่อย ๆ ลดลงเช่นกัน แต่กระแสน้ำยังคงเชี่ยว ทำให้เรือไม่สามารถเข้าไปได้ เจ้าหน้าที่ต้องเลี่ยงเส้นทางเพื่อความปลอดภัย ขณะเดียวกัน หน่วยบัญชาการจากมณฑลทหารบกที่ 42 ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์หย่อนอาหารและสิ่งของจำเป็นให้กับผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ที่ยังติดอยู่ภายใน

ด้านภาคเอกชนและจิตอาสาที่ลงพื้นที่ ระบุว่า สิ่งของจำเป็นเร่งด่วนที่สุดในขณะนี้คือ “น้ำดื่มและอาหาร” โดยชี้ว่าในหลายพื้นที่ประชาชนเริ่มขาดแคลนและร้องขอความช่วยเหลือจำนวนมาก โดยเฉพาะโซนก่อนถึงสถานีรถไฟเขต 8 ซึ่งถูกมองว่าเป็นหนึ่งในจุดวิกฤตที่ยังมีคนตกค้างจำนวนมากและสถานการณ์น่าเป็นห่วง ทีมงานอยู่ระหว่างประเมินการนำเรือบรรทุกน้ำเข้าไปเสริม แต่ต้องทำด้วยความระมัดระวังสูงสุดเนื่องจากกระแสน้ำยังแรง ผู้ปฏิบัติงานจึงขอให้ประชาชนที่ยังอยู่ด้านในโบกมือเรียกเรือเจ้าหน้าที่และอาสาสมัครทุกครั้งเมื่อพบเห็นเพื่อให้สามารถเข้าให้ความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว

เจ้าหน้าที่กู้ภัยบริเวณหน้าไดอาน่า ถนนศรีภูวนารถ ระบุว่า พื้นที่ดังกล่าวเผชิญน้ำลึกและกระแสน้ำแรง ทำให้การเข้าช่วยเหลือเป็นไปอย่างยากลำบาก แม้จะทยอยนำประชาชนออกมาได้จำนวนมากแล้วก็ตาม อุปสรรคสำคัญคือสิ่งกีดขวางใต้น้ำ เช่น รถที่จอดไว้จนมองไม่เห็น ทำให้เสี่ยงต่อการเสียหายของใบพัดเรือ เจ้าหน้าที่ยอมรับว่านี่เป็นหนึ่งในสถานการณ์น้ำท่วมที่รุนแรงที่สุด และตนเคยลงปฏิบัติภารกิจในพื้นที่นี้มาแล้วหลายครั้ง แต่ครั้งนี้หนักที่สุด.

ขณะเดียวกัน บริเวณวัดโคกนาว มูลนิธิปอเต็กตึ๊งได้ตั้งกองอำนวยการเฉพาะกิจและโรงครัวพระราชทาน เพื่อประกอบอาหารแจกจ่ายผู้ประสบภัย โดยวัตถุดิบต่าง ๆ ต้องจัดหาจากพื้นที่นอกเมืองหาดใหญ่ไกลกว่า 30 กิโลเมตร เนื่องจากร้านค้าและตลาดภายในเมืองไม่สามารถเปิดทำการได้ ขณะนี้มีเจ้าหน้าที่กว่า 200 คน เรือกว่า 37 ลำ จากทั้งกรุงเทพฯ และจังหวัดทางภาคใต้เข้าร่วมสนับสนุน รวมถึงมูลนิธิอาสาสร้างสุขที่ร่วมจัดตั้งโรงครัวอีกหนึ่งจุด โดยยังคงต้องการวัตถุดิบฮาลาลเพิ่มเติมเพื่อกระจายอาหารให้ครอบคลุมทั้งศูนย์อพยพและประชาชนที่ยังติดค้างอยู่ตามอาคารบ้านเรือน

ด้านนายพหล พงษ์ราช เจ้าหน้าที่กู้ชีพปอเต็กตึ๊ง เปิดเผยว่า แม้ทุกหน่วยจะเร่งปฏิบัติหน้าที่อย่างต่อเนื่อง แต่ยังมีอุปสรรคสำคัญ ทั้งระบบสื่อสารที่ติดขัด สัญญาณอินเทอร์เน็ตไม่เสถียร วิทยุสื่อสารติดต่อกับทีมเรือไม่ได้ และมีการร้องขอความช่วยเหลือเข้ามาจำนวนมาก บางวันเจ้าหน้าที่ 4 คนรับสายรวมกันกว่า 1,000 สายต่อวัน โดยเฉพาะพื้นที่ “เขต 8” และย่านหาดใหญ่ในซึ่งเป็นจุดอับที่ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าถึงได้ตั้งแต่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงวิงวอนให้ประชาชนโทรแจ้งเฉพาะช่วงกลางวัน เพื่อให้ทีมงานสามารถประสานงานได้อย่างปลอดภัย และให้เจ้าหน้าที่ภาคสนามได้พักผ่อนในเวลากลางคืน เพื่อเตรียมกำลังทำงานช่วยเหลือประชาชนในวันถัดไป