สวธ. รวมใจรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอัครศิลปินและอัคราภิรักษศิลปิน

สวธ. รวมใจรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอัครศิลปินและอัคราภิรักษศิลปิน





Image
ad1

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๘ เวลา ๐๙.๓๐ น. กรมส่งเสริมวัฒนธรรมจัดกิจกรรมสานสัมพันธ์เครือข่าย รวมใจรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอัครศิลปินและอัคราภิรักษศิลปิน  โดยมี ดร. กมล ทัศนาญชลี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ พุทธศักราช ๒๕๔๐ เป็นประธานในพิธี นางรัจนา พวงประยงค์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ไทย-ละคร) พุทธศักราช ๒๕๕๔ กล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอัครศิลปินและอัครภิรักษศิลปิน พร้อมด้วย นายวรนันทน์ ชัชวาลทิพากร ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ พุทธศักราช ๒๕๕๒ นางชมัยภร บางคมบาง ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พุทธศักราช ๒๕๕๗ นายธนิสร์ ศรีกลิ่นดี ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง พุทธศักราช ๒๕๕๙

นายวินัย พันธุรักษ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง พุทธศักราช ๒๕๖๒ นายชลประคัลภ์ จันทร์เรือง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ภาพยนตร์และละคร) พุทธศักราช ๒๕๖๒ นายไพฑูรย์ เข้มแข็ง ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง พุทธศักราช ๒๕๖๔ นางวรรณี ชัชวาลทิพากร ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ พุทธศักราช ๒๕๖๔ นายวิโรจน์ อยู่สวัสดิ์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง พุทธศักราช ๒๕๖๗ นายบันเทิง เพียรค้า รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันวัฒนธรรมศึกษา นางมาดา กระดังงา ผู้อำนวยการหออัครศิลปิน กรมส่งเสริมวัฒนธรรม นายมงคล ธิดาธัญลักษณ์ ผู้แทนสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดปทุมธานี แขกผู้เกียรติ และสื่อมวลชน เข้าร่วมพิธี ณ หออัครศิลปิน อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี

นางรัจนา พวงประยงค์ ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (นาฏศิลป์ไทย-ละคร) พุทธศักราช ๒๕๕๔ กล่าวน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอัครศิลปินและอัครภิรักษศิลปิน ความว่า ตลอดระยะเวลา ๗๐ ปี แห่งการครองราชย์ เหล่าพสกนิกรใต้ร่มพระบารมีต่างประจักษ์ และซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้ทรงทุ่มเทกำลังพระวรกายปฏิบัติพระราชกรณียกิจ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่พสกนิกรของพระองค์ ดังเห็นได้จากโครงการในพระราชดำริน้อยใหญ่

ซึ่งล้วนก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศในทุกด้านอย่างอเนกอนันต์ ทรงเป็นเอตทัคคะในศาสตร์และศิลป์หลายแขนง พระองค์ทรงเป็นเลิศในศิลปะทั้งมวล ได้รับการยกย่องสดุดีพระเกียรติคุณ เป็นที่ประจักษ์ชัดแก่พสกนิกรและศิลปินทั่วโลก ในพระปรีชาสามารถอย่างหาที่เปรียบมิได้ และยังทรงให้การอุปถัมภ์เหล่าศิลปินทั้งหลายมาโดยตลอด จึงได้รับการน้อมเกล้าฯ ถวายพระราชสมัญญา “อัครศิลปิน” อันหมายถึงผู้มีศิลปะอันเลอเลิศ หรือผู้เป็นใหญ่ในศิลปิน พระองค์ท่านได้ทรงเป็นแบบอย่างที่ก่อให้เกิดแรงบันดาลใจในด้านศิลปะหลากหลายแขนง ทรงให้การสนับสนุน ส่งเสริม ฟื้นฟู อนุรักษ์ รวมทั้งทรงอุปถัมภ์งานศิลปะของไทย อันเป็นรากฐานให้งานศิลปะทุกสาขา ให้มีความเจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้นไป

นางรัจนา พวงประยงค์ ศิลปินแห่งชาติ กล่าวต่อว่า ตลอดรัชสมัย พระองค์มิได้ทรงงานหนักเพียงลำพัง หากแต่ยังมีสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงอุทิศพระวรกายเพื่อแบ่งเบาพระราชภาระและพระราชกรณียกิจที่มีต่อพสกนิกรของพระองค์ สะท้อนผ่านพระราชดำรัสที่ว่า “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ” สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็น“อัคราภิรักษศิลปิน” มีความหมายว่า “ศิลปินยิ่งใหญ่ ผู้ปกปักรักษางานศิลปะ” ผู้ซึ่งให้การอุปถัมภ์ค้ำชูงานศิลปวัฒนธรรม ทรงเปรียบเสมือนดวงประทีปที่จุดประกายให้ภูมิปัญญาและศิลปะพื้นบ้านของไทย กลับมามีชีวิตอีกครั้ง ทรงเห็นคุณค่าในภูมิปัญญาและงานหัตถกรรมที่กำลังจะเลือนหาย ส่งเสริมงานศิลปาชีพให้เป็นช่องทางในการสร้างรายได้แก่ชาวบ้าน ทรงฟื้นฟูและอนุรักษ์ผ้าไทย ให้เป็นที่ยอมรับในระดับโลก จากผืนผ้าธรรมดาสู่ศิลปะแห่งวิถีชีวิต ที่สะท้อนจิตวิญญาณความเป็นไทยอย่างวิจิตร

งดงาม
ทรงพระราชทานแนวทาง ในการพัฒนาลวดลาย เทคนิคการทอ และการออกแบบ จนเกิดเป็นชุดไทยพระราชนิยม อันทรงคุณค่าทั้ง ๘ แบบ อีกทั้งยังทรงอุปถัมภ์ฟื้นฟูการศิลปะการแสดงโขนซึ่งเป็นนาฏศิลป์ชั้นสูงไว้ได้อย่างสมบูรณ์ จนได้รับการขึ้นทะเบียนให้เป็นมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมวลมนุษยชาติ

การจัดงานสานสัมพันธ์เครือข่าย รวมใจรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอัครศิลปินและอัคราภิรักษศิลปิน ประกอบด้วยกิจกรรม ดังนี้ (๑) การแสดงหุ่นกระบอกไทย ชุด “น้อมถวายอาลัยพระบรมราชชนนีพันปีหลวง” โดย บ้านตุ๊กกะตุ่นหุ่นกระบอกไทย (๒) การแสดงนาฏศิลป์ ชุด ศิลปินแห่งชาติ  อภิวาทจอมศรีศิลป์การแสดงศิลป์ กวี คีตา โดย ศิลปินแห่งชาติ ๓ สาขา (๓) การแสดงดนตรีเพลงพระราชนิพนธ์ โดย บ้านเรียนละครมรดกใหม่ (๔) นิทรรศการอัครศิลปิน อัคราภิรักษศิลปิน ศิลปินแห่งชาติ และ (๕) การสาธิตทางวัฒนธรรม อาทิ การทำข้าวมันส้มตำ (๑ จังหวัด ๑ เมนู เชิดชูอาหารถิ่น จังหวัดปทุมธานี ประจำปี ๒๕๖๘) การทำข้าวน้ำพริกปลาทู การทำโยเกิร์ตโฮมเมด การทำข้าวเหนียวเปียกลำไยมะพร้าวอ่อน การทำขนมครก การประดิษฐ์หุ่นกระบอกจิ๋ว การประดิษฐ์ริบบิ้นโบว์ไว้ทุกข์ การทำภาพพิมพ์บนกระเป๋าผ้า เป็นต้น

ผู้เข้าร่วมงานในวันนี้ได้รับชมการแสดงทางวัฒนธรรม และเรียนรู้การสาธิตทางวัฒนธรรมต่าง ๆ ตลอดจนชมนิทรรศการเกี่ยวกับอัครศิลปินและอัคราภิรักษศิลปิน อันเป็นการสัมผัสคุณค่าทางศิลปวัฒนธรรมอย่างลึกซึ้ง นอกจากนี้ การจัดงานดังกล่าวเป็นการสร้างเครือข่าย (connection) และการมีส่วนร่วม (participation) ระหว่างศิลปินแห่งชาติ สถาบันด้านศิลปวัฒนธรรม แขกผู้มีเกียรติ และสื่อมวลชน ส่งผลให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือที่เข้มแข็ง ช่วยธำรงรักษาความงดงามของสถาบันทางสังคม (social institution) และศิลปวัฒนธรรมไทยให้เจริญรุ่งเรืองอย่างยั่งยืน

.